นายกษิดิศ มโนภินิเวศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเบิ้ล แอสเสท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้ามาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลา 10 ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่ปี 2554 โดยเป็นการร่วมลงทุนกันระหว่างกลุ่มวิศวกร ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจก่อสร้างมานานกว่า 20 ปี เริ่มต้นการลงทุนในรูปแบบคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ในหัวเมืองท่องเที่ยวย่านหัวหินและภูเก็ต
หลังจากนั้นช่วงปี 2558 บริษัทก็ได้ขยายฐานการลงทุนเข้ามาบุกตลาดคอนโดฯในกรุงเทพฯ เปิดตัวโครงการ เดอะ รีมาร์คเอเบิ้ล ศูนย์วิจัย 2 ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มีจำนวนห้องชุดแค่ 87 ยูนิตเท่านั้น และในปี 2561 ได้เปิดตัวโครงการ ลิสส์ รัชโยธิน จำนวน 172 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินซอย 27 ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สถานีพหลโยธิน 24 ปัจจุบันทั้งสองโครงการมีจำนวนห้องชุดเหลือขายรวมกันไม่ถึง 10 ยูนิต
“ในช่วงที่บริษัทเข้ามาลงทุนในตลาดคอนโดฯ ถือเป็นจังหวะที่ตลาดคอนโดฯยังได้รับความนิยมทั้งจากกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นคนไทยและต่างชาติ ทำให้สามารถทำยอดขายได้ตามแผนที่วางไว้ ขณะเดียวกันบริษัทได้ทยอยซื้อที่ดินสะสมไว้ส่วนหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล”
ดังนั้นเมื่อตลาดคอนโดฯเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวมาตั้งแต่มีการประกาศใช้มาตรการ LTV ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2564 ซึ่งได้รับผลกระทบเต็มๆ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปทั่วโลก บริษัทจึงได้ปรับแผนการลงทุนหันมาบุกตลาดแนวราบแทนในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล มีทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวระดับราคาปานกลางไปจนถึงลักชัวรี
ประเดิมเปิดตัวโปรเจ็กต์แรกช่วงกลางปี 2564 ในย่านถนนรังสิตเลียบคลอง 3 ใช้ชื่อโครงการว่า “บ้านแอสโทเรีย รังสิต” ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 15 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านแฝด 2 ชั้นหน้ากว้าง 8 เมตร สไตล์บริติช ยูโรเปียน จำนวน 112 ยูนิต ขนาดที่ดิน 35-38 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 135 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้องน้ำ ราคาขายเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส โดยเปิดขายเฟสแรกก่อน 40 ยูนิตได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดี ทำยอดขายได้แล้วกว่า 30 ยูนิต ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดขายเฟส 2 เพิ่มอีก 40 ยูนิต
ส่วนโครงการล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ใช้ชื่อโครงการว่า “Artique รามคำแหง” ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 164 บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ ออกแบบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น ลักชัวรี ที่เน้นความเรียบหรูและความเป็นส่วนตัว (Privacy) ค่อนข้างสูง เพราะมีจำนวนบ้านแค่ 21 ยูนิตเท่านั้น ราคาเริ่มต้น 16-18 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 380 ล้านบาท เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่อายุเฉลี่ย 30 ปีขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหารระดับสูงที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและการงาน เดิมอาศัยอยู่กับครอบครัวในบ้านจัดสรรย่านรามคำแหงและพื้นที่ใกล้เคียง มีความต้องการขยับขยายครอบครัวมาอยู่ในโครงการบ้านจัดสรรที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดกว้างและมีดีไซน์ที่เป็นโมเดิร์นมากขึ้น
“ก่อนที่จะเปิดตัวโครงการนี้ บริษัทได้ทำการบ้านค่อนข้างหนักเพื่อสำรวจพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่มีความต้องการบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลและสะท้อนความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้านทั้งการอยู่อาศัย การทำงาน ที่พักผ่อนส่วนตัว รวมถึงสามารถรองรับกลุ่มผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านด้วย ที่สำคัญต้องมีความปลอดภัยสูงและอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) สถานีมีนพัฒนาแค่ 550 เมตรเท่านั้น ทำให้มั่นใจว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เพราะมีลูกค้าสนใจลงทะเบียนล่วงหน้าแล้วกว่า 100 คน”
ทั้งนี้บริษัทได้นำเอาประสบการณ์ความเป็นมืออาชีพด้านวิศวกรมาใช้ในการออกแบบบ้านในโครงการ Artique รามคำแหงให้มีคุณภาพและมีฟังก์ชันใช้สอยที่คุ้มค่าและมีดีไซน์เฉพาะตัว ภายใต้แนวคิด “บ้านที่สะท้อนตัวตนคุณ” โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเพิ่มฟังก์ชันในบ้านได้ถึง 11 ออฟชั่น มีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มและติดตั้งให้ฟรี เพื่อสร้างความแตกต่างตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า อาทิ ติดตั้งวอลเปเปอร์ให้ฟรีตามแบบที่บริษัทกำหนด รวมถึงพื้นเอ็นจิเนียริ่งวูด,ส่วนสระว่ายน้ำ, Solar Rooftop, Façade, Solar Slab, EV charger และ Package สำหรับผู้สูงอายุ เป็นออฟชั่นเสริมและมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
สำหรับแบบบ้านของโครงการมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ Revoque มีจำนวน 10 ยูนิต ขนาดที่ดิน 70-74.92 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 309 ตารางเมตร ตัวบ้านดีไซน์เป็น C-Shape หน้ากว้าง 11.80 เมตร ลึก 14.70 เมตร จำนวน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถในบ้านได้ 2 คัน พร้อมห้องนอนชั้นล่างที่ปรับเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ และพื้นที่ Open Space กลางบ้านที่สามารถดีไซน์เป็นสวนพักผ่อนหรือมุมส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน
ส่วนอีกแบบชื่อว่า
Remarque มีทั้งหมด 11 ยูนิต เป็นบ้านหลังใหญ่สุดมีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 360 ตารางเมตร ตัวบ้าน หน้ากว้างถึง 17 เมตร ตั้งอยู่บนที่ดิน 72.5-84.64 ตารางวา ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พร้อมห้อง Multi-Purpose Room ชั้นล่าง
จุดเด่นของบ้านทั้งสองแบบอยู่ที่การดีไซน์พื้นที่ Living Room ให้มีขนาดกว้างและมีความโปร่งโล่งแบบ Double Volume สูง 6.40 เมตร นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในบ้านด้วยระบบ Home Automation และ Smart Security System ที่ควบคุมการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ อาทิ ระบบป้องกันขโมยแบบ Magnetic กล้อง CCTV รอบโครงการ และทางเข้า-ออกแบบ Double Gate ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการมีทั้งคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนส่วนกลาง
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต นายกษิดิศกล่าวว่า บริษัทได้วางแผนขยายการลงทุนครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเฉพาะบ้านแนวราบจะเน้นจำนวนยูนิตไม่เยอะ ขนาดที่ดินประมาณ 10-30 ไร่ต่อโครงการ โดยจัดแบ่งระดับสินค้าออกเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ ระดับ Economy ราคาจับต้องได้สำหรับกลุ่มคนซื้อที่ต้องการมีบ้านหลังแรก มีสินค้าให้เลือกทั้งคอนโดฯโลว์ไรส์และทาวน์เฮ้าส์ ระดับ Standard เป็นกลุ่มบ้านแฝดราคาเริ่มต้น 3 ล้านกว่าบาท ระดับ Premium และระดับ Luxury เน้นกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวทำเลใกล้เมือง เบื้องต้นบริษัทได้วางเป้าหมายปี 2565 จะเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 4-5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ 1 โครงการ ที่เหลือจะเป็นบ้านแนวราบอีก 3-4 โครงการ ล่าสุดมีที่ดินรองรับการพัฒนาแล้วบางส่วนและอยู่ระหว่างจัดหาซื้อเพิ่มเติมทั้งในพื้นที่กรุงเทพ ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 084-166-6161
ลงทะเบียนได้ที่ www.artique-bangkok.com