นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แสนสิริสามารถสร้างผลงานได้ดีในเริ่มต้นปี 64 โดยมียอดขายในเดือนมกราคม สูงถึง 3,500 ล้านบาท คิดเป็น 70% จากเป้ายอดขายไตรมาสแรกที่วางไว้ 5,000 ล้านบาท นับว่าเป็นยอดขายต่อเดือนในอัตราที่สูงและอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับเป้าหมายยอดขายที่วางไว้ในปีนี้ 26,000 ล้านบาท สร้างผลงานได้ดีภายใต้สภาวะตลาดที่ยังคงมีความผันผวนสูงในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด โดยบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนการขายดีที่สุด คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 45% บ้านเดี่ยวแบรนด์คณาสิริและเศรษฐสิริ มียอดขายและจำนวนยูนิตขายสูงสุดในเดือนมกราคม อาทิ
โครงการ
คณาสิริ วงแหวน - ลำลูกกา,
คณาสิริ ศาลายา - ปิ่นเกล้า,
คณาสิริ ราชพฤกษ์ - 346,
เศรษฐสิริ พหล - วัชรพล และ
เศรษฐสิริ พระราม 5 เป็นต้น คอนโดมิเนียมมีสัดส่วนยอดขาย 40% โดยคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่โครงการ "
ดีคอนโด ธาร จรัญฯ" มียอดขายแล้ว 85% ใกล้ปิดการขาย รวมทั้ง "
เดอะ เบส สะพานใหม่" "
โอกะ เฮาส์" และ "
XT เอกมัย" ครองแชมป์คอนโดขายดี พฤติกรรมการซื้อของกลุ่มลูกค้ายังให้ความสนใจจองคอนโดออนไลน์มากขึ้น โดย "24 Online Booking" แคมเปญที่เปิดให้จองคอนโดพร้อมอยู่ราคาดีที่สุด ในวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เที่ยงวันถึงเที่ยงคืน ประสบความสำเร็จ โกยยอดขายไปถึง 80 ล้านบาทในระยะเวลาเพียง 1 วัน
ผลงานยอดขายที่ดีตั้งแต่ต้นปี มาจากความเชื่อมั่นของลูกค้าในการเป็น "แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน" จากการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการ หรือ Sansiri Service ในการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย รวมไปถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัยส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงมาตรฐานแสนสิริ พร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการ พร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ แฟมิลี่
นอกจากนี้ความสำเร็จยังมาจากการคิดแคมเปญที่มาจากความเข้าใจใน Customer Insight อย่างแท้จริง จนส่งผลให้ "แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน" ประสบความสำเร็จต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จากการช่วยให้ลูกค้ามีบ้านง่าย ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนที่อยู่อาศัย สามารถนำเงินไปใช้จ่ายอื่นๆได้ สบายใจได้นานตลอดระยะเวลา 2 ปี เพราะแสนสิริผ่อนให้ ทั้งต้น ทั้งดอก นานสูงสุด 24 เดือน* โดยในปีนี้ได้ขยายความสุข ให้คนไทยได้มี บ้านและคอนโด ใน 59 โครงการคุณภาพพร้อมอยู่ทั่วประเทศ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริทันที
นอกจากนี้ยังสะดวกด้วยช่องทางซื้อบ้านที่สะดวกและปลอดภัยในช่วงโควิด Sansiri Virtual Tour เยี่ยมชมโครงการแบบ Online ทุกที่ ทุกเวลา จองคอนโดออนไลน์ด้วย 24 Online Booking สะดวก รวดเร็ว ทุกโครงการของแสนสิริยังมีบริการ Private Tour สามารถนัดหมายเวลาเพื่อเข้าชมโครงการเฉพาะครอบครัวเท่านั้น ภายใต้มาตรการรักษาความสะอาดอย่างเข้มงวด "Sansiri Care" ที่พร้อมยกระดับการดูแลเต็มขั้นในทุกสถานการณ์ ให้คุณมั่นใจได้ทุกครั้งที่มาเยี่ยมชมโครงการ
"ล่าสุดภาครัฐยังได้ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยการประกาศมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน - การจดจำนอง เหลือ 0.01 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งนับว่าเป็นนโยบายที่จะช่วยสนับสนุนให้ประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น รวมถึงส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีอัตราการอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นในปีนี้ ทั้งนี้ แสนสิริมีโครงการที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทพร้อมอยู่พร้อมรองรับมาตรการรัฐ ที่ครอบคลุมในทุกทำเล ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม และมิกซ์โปรดักส์รวม 20 โครงการ ซึ่งเมื่อรวมกับแผนธุรกิจในปีนี้ของแสนสิริที่มุ่งขยายความสุข ให้คนไทยได้มีบ้านและคอนโด ด้วยแคมเปญ "แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน" จึงคาดว่าจะทำให้กลุ่มลูกค้าตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น และสามารถเป็นเจ้าของบ้านแสนสิริได้ง่ายขึ้น สะท้อนความมุ่งมั่นสู่ "ปีแห่งความหวัง" (The Year of Hope) เพื่อคืนรอยยิ้มให้ลูกค้า ครอบครัวแสนสิริ และสังคม ตามความตั้งใจในปีนี้ของแสนสิริ" นายอุท้ย กล่าว