กมลนัย ชัยเฉนียน กรรมการบริษัท เกษมทรัพย์สิริ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ เดอะ ปาร์ค กล่าวว่า "โครงการเดอะ ปาร์ค ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้ศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยเป็นองค์ประกอบหลักของการพัฒนาพื้นที่ใช้งานแบบผสมผสาน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของผู้ใช้อาคารและผู้มาเยือน โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการฯ รวมไปถึงเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้พัฒนารายแรกที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยด้วยการลงทุนในทรัพยากรเพื่อพัฒนาในด้านศิลปะและวัฒนธรรมอย่างจริงจัง มีความภาคภูมิใจที่ได้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์นี้ออกมาผ่านการเลือกเฟ้นงานศิลปะร่วมสมัยสำหรับจัดแสดงอย่างถาวรที่เดอะ ปาร์ค โดยเฉพาะภายใต้ชื่อ "The PARQ Collection" ตลอดจนการเข้าไปมีบทบาทสนับสนุนและจัดกิจกรรมด้านศิลปะที่เปิดให้ผู้คนได้เข้ามามีส่วนร่วม อาทิ งาน Bangkok Art Biennale และแม้กระทั่งการจัดตั้งฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรม (Art & Culture) ภายในองค์กรขึ้นมาเพื่อดูแลงานด้านนี้โดยเฉพาะ ด้วยเหตุนี้ เดอะ ปาร์ค จึงไม่ใช่แค่อาคารสำนักงานและพื้นที่รีเทล แต่เป็นสถานที่แห่งการค้นหาแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกคน"
การให้คุณค่าแก่ศิลปะเมื่อรวมกับการพัฒนาโครงการด้วยแนวคิดความยั่งยืน อันประกอบด้วยการดูแลสิ่งแวดล้อมของอาคารตามมาตรฐาน LEED และการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้ใช้อาคารตามมาตรฐาน WELL จึงทำให้เดอะ ปาร์ค เป็นโครงการที่ได้รับการรับรอง Pre-WELL Certification และกำลังมุ่งสู่การคว้าทั้งมาตรฐาน WELL และ LEED Gold v4 เป็นโครงการแรกในเมืองไทย
จรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย หัวหน้าภัณฑารักษ์และผู้บริหารฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรม โครงการ เดอะ ปาร์ค กล่าวถึงภาพรวมของ เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น ว่า "ปัจจุบันศิลปะถูกนำมาเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของอาคารและชีวิตของผู้คนมากขึ้น เดอะ ปาร์ค ในฐานะโครงการไลฟ์สไตล์มิกซ์ยูสชั้นนำจึงนำเอาองค์ประกอบด้านศิลปะมาผสมผสานเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและสบายตาสบายใจซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ที่พบเห็น รวมถึงหวังอย่างยิ่งว่าโครงการฯ ของเราจะเป็นเวทีแสดงความสามารถของศิลปิน และเป็นพื้นที่ที่ผู้คนจะได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับศิลปะมากขึ้น ทั้งผู้ที่ต้องการสิ่งที่ช่วยจรรโลงจิตใจหรือจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในระหว่างวัน รวมไปถึงคนรักศิลปะ และบุคคลทั่วไปที่สนใจ"
ผลงานศิลปะใน เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันเป็นแก่นแท้ของทุกสรรพสิ่ง ซึ่งสามารถตีความออกมาเป็นผลงานศิลปะได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำขึ้นจากวัสดุธรรมชาติ เลียนลักษณะและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ หรือแม้แต่เป็นศิลปะที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม โดยออกแบบให้สอดคล้องโอบรับกับสถาปัตยกรรมของอาคารอย่างลงตัว
เดอะ ปาร์ค ได้บรรจงคัดสรรศิลปินชั้นนำเพื่อมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานภายใต้แนวคิดที่สัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ผสานกับการใช้เทคโนโลยีและหลักการด้านความยั่งยืน โดยผลงานศิลปะใน เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ผลงาน แบ่งเป็นผลงานที่รังสรรค์โดยศิลปินไทย 3 ผลงาน และอีก 2 ผลงานเป็นฝีมือของ Studio Drift ศิลปินจากอัมสเตอร์ดัม ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งเสร็จพร้อมให้รับชมอย่างเต็มรูปแบบ (Full Collection) ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564
สำหรับผลงานใน เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น ที่จัดแสดงแล้ววันนี้ที่โครงการ เดอะ ปาร์ค ได้แก่
"เกื้อกูล" โดยศิลปิน พงษธัช อ่วยกลาง: ประติมากรรมสแตนเลสผิวกระจกที่สื่อถึงการทำงานและการใช้ชีวิตที่เป็นพลังเกื้อกูลกัน เปรียบได้กับพลังทั้งสองชนิดที่ต่างดำรงอยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่ยังคงจำเป็นต้องพึ่งพิงซึ่งกันและกัน ผลงานชิ้นนี้สื่อให้ผู้พบเห็นสัมผัสถึงความเชื่อมโยงและความลื่นไหลระหว่างพลังทั้งสอง มอบทั้งความรู้สึกมั่นคง แข็งแรง ตลอดจนความสมดุล อันเป็นคุณลักษณะสำคัญของการมีชีวิตที่ดีไปพร้อมๆ กัน และเป็นตัวแทนที่บอกเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพของผู้คนในพื้นที่แห่งนี้
"The Cradle" โดยศิลปิน อ้อ สุทธิประภา: ชุดผลงานเซรามิกที่มีลักษณะราวกับถักทอลงมาจากเพดานด้วยความบรรจงและเผยความงามของเซรามิกซึ่งเป็นวัสดุที่มีที่มาจากธรรมชาติ สื่อความรู้สึกเกี่ยวกับการเกิด เติบโต และรุ่งเรืองของบางสิ่งบางอย่าง โดยอาศัยความพิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบและคำนวณโครงสร้าง ไปจนถึงการสร้างชิ้นงานเซรามิคเพื่อประกอบเป็นชุดประติมากรรมที่สมบูรณ์แบบ
"The Cocoon" โดยศิลปิน สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ แห่งสนิทัศน์ สตูดิโอ: พื้นที่สงบเล็กๆ กลางเมืองสำหรับหลบหลีกความวุ่นวาย ให้ผู้ที่ผ่านไปมาได้แวะพักผ่อนหย่อนใจในระหว่างวัน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรังไหมที่ห่อหุ้มและปกป้องดักแด้ที่อยู่ภายใน ผลงานชิ้นนี้สื่อถึงเมืองและธรรมชาติ
ซึ่งแม้จะมีความแตกต่างกันแต่กลับสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ผิวของผลงานทำจากสเตนเลส ซึ่งเกิดจากความตั้งใจที่จะสะท้อนภาพธรรมชาติโดยรอบ และในขณะเดียวกันก็เป็นการนำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น รวมถึงเมื่อสายลมพัดมากระทบ ชิ้นงานจะมีเสียงกระดิ่งคลอเบาๆ ลอดออกมา
นอกเหนือจากการจัดแสดงผลงานใน เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น แล้ว โครงการ เดอะ ปาร์ค ยังเดินหน้าสนับสนุนศิลปะด้วยการจัดกิจกรรมด้านศิลปะอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม - 15 พฤศจิกายนนี้ ภายใต้ชื่องาน "Art in The PARQ" ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "Art Market" โดย Farmgroup ตลาดนัดของคนรักศิลปะและงานคราฟท์ ที่มีหลากหลายร้านค้าและร้านอาหารชื่อดัง พร้อมดีเจที่มาร่วมสร้างสีสันตลอดงาน ในวันที่ 8-11 ต.ค. เวลา 11.00 - 20.00 น. ตลอดจนกิจกรรมเวิร์คช็อปที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้มาร่วมสนุกและครีเอทผลงานสร้างสรรค์มากมาย อาทิ กิจกรรมวาดภาพ ออกแบบปกสมุดจากวัสดุธรรมชาติ เพนท์ลายกระถางต้นไม้ ฯลฯ ในช่วงสุดสัปดาห์วันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย. นี้ และปิดท้ายด้วยนิทรรศการ "Balancing Your Life" ที่จัดแสดงภาพวาดแอบสแตรกสีสันสดใสภายใต้แนวคิดการเพิ่มสมดุลแห่งชีวิต ซึ่งมาพร้อมกับเวิร์กช็อปสุดพิเศษโดย ป๊อด-ธนชัย อุชชิน ในวันที่ 14 -15 พ.ย.
นอกจากนี้ เดอะ ปาร์ค ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของงาน "Bangkok Art Biennale" เทศกาลศิลปะนานาชาติร่วมสมัยที่หลายคนตั้งตาคอย โดยจัดสรรบริเวณของโครงการฯ ให้เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานจากศิลปินชื่อดังทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2563 ไปจนถึง 31 มกราคม 2564
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปได้ง่ายๆ เพียงใช้จ่ายสินค้าหรือใช้บริการใน เดอะ ปาร์ค ครบทุก 300 บาทขึ้นไปต่อท่าน สามารถเลือกรับสิทธิ์ร่วมเวิร์กช็อปที่ชื่นชอบได้ฟรี 1 กิจกรรม และสำหรับท่านใดที่ถ่ายรูปงานศิลปะใน เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น ชิ้นใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็น The Cocoon เกื้อกูล หรือ The Cradle แล้วแชร์ลง Facebook พร้อมใส่แฮชแท็ก #ThePARQ #ThePARQCollection ในคำบรรยาย และเช็คอิน @The PARQ และเปิดโพสต์เป็นสาธารณะ รูปถ่ายที่โดนใจแอดมินที่สุด 3 รางวัล จะได้รับ The PARQ Gift Voucher ฟรี ร่วมดื่มด่ำกับผลงานศิลปะ เดอะ ปาร์ค คอลเลคชั่น ซึ่งรังสรรค์โดยศิลปินชั้นนำ พร้อมเพลิดเพลินไปกับ อาร์ต มาร์เก็ต และ อาร์ต เวิร์กช็อป ภายใต้แนวคิด Life Well Balanced เพื่อการใช้ชีวิตอย่างสมดุลในงาน Art in The PARQ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม - 15 พฤศจิกายนนี้ที่ เดอะ ปาร์ค