AP สร้างสถิติรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พลิกโฉมทาวน์โฮมที่เหนือกว่า ลุยเปิด 13 โครงการใหม่
เอพี ไทยแลนด์ พิสูจน์ผลงานท่ามกลางวิกฤตใหญ่ ทุบทุกสถิติที่เคยทำมา ด้วยตัวเลขรายได้รวม (100% JV) เฉพาะในไตรมาส 2 ที่สูงถึง 13,140 ล้านบาท ส่งผลให้ครึ่งปีแรกมีรายได้รวมแล้ว 19,960 ล้านบาท รุกแผนต่อเดินหน้าพลิกโฉมชีวิตในทาวน์โฮมด้วย THE LONGEVITY MATRIX แนวคิดการสร้างพื้นที่ชีวิตที่ยืนยาว ที่เหนือกว่าการอยู่อาศัยในทาวน์เฮ้าส์ทั่วไป ด้วยการเชื่อมต่อสุนทรียะการอยู่อาศัยเข้ากับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางสำหรับคนทุกช่วงวัย พื้นที่อยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัวและคุ้มค่า และการสร้างสังคมแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ กับ 2 โพสิชันนิ่งใหม่ "วิถีบ้านกลางเมือง บรรทัดฐานที่ดีที่สุดแห่งการใช้ชีวิต - พลีโน่ บ้านหลังแรกที่ดีที่สุด" ผ่าน 13 โครงการใหม่ มูลค่า 15,350 ล้านบาท เริ่ม 1.99 - 8 ล้านบาท
นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เอพี ไทยแลนด์ ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก โดยมี EMPOWER LIVING เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญขององค์กร ทั้งนี้ ท่ามกลางสภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ยังสามารถสร้างสถิติการเติบโตทางด้านรายได้ครั้งใหม่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในครึ่งปีแรกบริษัทฯ มีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโดฯ (100% JV) มากถึง 19,960 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิ (Net Profit) 2 ไตรมาสแรกสูงถึง 1,830 ล้านบาท หากดูในส่วนของรายได้รวม (100% JV) เฉพาะไตรมาส 2 ที่ 13,140 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ แต่บริษัทฯ ยังคงดำเนินการขายและโอนกรรมสิทธิ์โครงการได้เกินจากที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนได้ถึงความมั่นใจของผู้บริโภค ตลอดจนกำลังซื้อที่ยังคงมีอยู่ และเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะค่อยปรับตัวที่ดีขึ้น"
"วันนี้คงต้องยอมรับว่าสินค้าแนวราบได้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งปีไปแล้ว อีกทั้งกลุ่มเป้าหมายของสินค้าก็อายุน้อยลง โดยในส่วนของสินค้าทาวน์โฮมจากการเฝ้าสังเกตเทรนด์การอยู่อาศัยและการตัดสินใจซื้อพบว่าลูกค้าที่ซื้อและโอนฯ ทาวน์โฮมอายุน้อยลง โดยกว่า 40% เป็นกลุ่มลูกค้าที่อายุ 26-30 ปี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพผู้นำตลาดทาวน์โฮมในเมืองอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงเดินหน้าตามแผนพลิกโฉมการอยู่อาศัยในทาวน์โฮมใหม่ ภายใต้ THE LONGEVITY MATRIX แนวคิดเพื่อสร้างพื้นที่ชีวิตที่เหนือกว่าทาวน์เฮ้าส์แบบเดิมๆ ด้วยการเชื่อมต่อสุนทรียะการอยู่อาศัยเข้ากับการออกแบบสเปซใน 3 องค์ประกอบสำคัญ คือ
1. การพัฒนาส่วนกลางสำหรับคนทุกวัย
2. การสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่ให้ความเป็นส่วนตัวและคุ้มค่า
3. การสร้างสังคมแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ
ซึ่งทั้งหมดจะสะท้อนผ่านทาวน์โฮมแบรนด์ บ้านกลางเมือง และพลีโน่ ในมิติที่แตกต่างกันตามโพสิชันของแบรนด์ กับ 13 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 15,350 ล้านบาท" นายภมร กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับแบรนด์ "บ้านกลางเมือง" หนึ่งในฮีโร่แบรนด์ของเอพีกับการขับเคลื่อนธุรกิจแนวราบ ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าคนเมืองเซ็กเมนต์กลางบน จนสามารถครองตำแหน่งผู้นำในตลาดไฮเอนด์ทาวน์โฮม 3 ชั้นมากว่า 29 ปี โดยเราไม่เคยหยุดที่จะท้าทายตัวเอง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และในครึ่งปีหลังนี้ เอพีได้รุกรีเซ็ตแบรนด์โพสิชันนิ่งใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปมากยิ่งขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ "วิถีบ้านกลางเมือง" ตอกย้ำบรรทัดฐานการใช้ชีวิตที่ดีที่สุด (Finest Living Norm) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในการอยู่อาศัยที่โครงการบ้านกลางเมือง สะท้อนผ่าน 3 คุณค่าหลัก ได้แก่
1. คุณค่าความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
2. คุณค่าของการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติใจกลางเมือง
3. คุณค่าของการอยู่อาศัยในสังคมคุณภาพ
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลลัพธ์จากการตกผลึกอินไซต์จริงของลูกค้าคนเมืองเซ็กเมนต์กลางบน ในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้านหนึ่งหลัง โดยไม่ได้มองหาเพียงบ้านที่มีดีไซน์สวย หรือบ้านที่มีเทคโนโลยีที่สุดท้ายแล้วกลายเป็นภาระของเขาในอนาคต แต่ลูกค้ากลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการมองหาคุณค่าใหม่ (New Value) ที่จะเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยในบ้านที่เหนือกว่าเดิม โดยเราได้ทำการต่อยอดเพื่อที่จะพลิกโฉมให้เกิดคุณค่าใหม่ ที่จะเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะการอยู่อาศัยในแบบฉบับของโครงการบ้านกลางเมืองเท่านั้น ผ่านทั้งการพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางที่ผสานสุนทรียะความเป็นส่วนตัวเข้ากับธรรมชาติอย่างกลมกลืน การดีไซน์แบบบ้านรวมถึงสเปซฟังก์ชันภายในที่ตอบการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงการส่งมอบสังคมคุณภาพในการอยู่อาศัยร่วมกัน โดยการเปิดตัววิถีชีวิตใหม่ในโครงการ "บ้านกลางเมือง" ทั้งสิ้น 5 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 7,855 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้นที่ 3.99 - 8 ล้านบาท นายภมร กล่าว
และในส่วนของพรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น ภายใต้แบรนด์ "พลีโน่" ที่ได้รับการไว้วางใจจากลูกค้า จนสามารถสร้างการเติบโตในส่วนยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากแนวโน้มพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความสามารถในการจับจ่ายของลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการเจาะเข้าไปในตลาดลูกค้ากลุ่มนี้ เราได้ปรับรูปแบบการสื่อสารด้วยแบรนด์โพสิชันนิ่งใหม่เช่นกัน โดยชูคอนเซ็ปต์ "พลีโน่ - บ้านหลังแรกที่ดีที่สุด" ด้วยการลงลึกถึงอินไซต์ของลูกค้ากลุ่มนี้ที่มีสถานการณ์ทำงานและความมั่นคง พร้อมที่จะขยับขยายออกจากบ้านเดิมของครอบครัว ผ่าน 2 มิติหลัก
1. การนำเสนอพื้นที่ใช้สอยที่พร้อมเติมเต็มความเป็นตัวตนได้อย่างเต็มที่ในแพ็คเกจราคาที่จับต้องได้
2. การอยู่อาศัยในสังคมคุณภาพ ปลอดภัย และมั่นใจ
เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ลูกค้ากลุ่มนี้ได้เติมเต็มความฝันในการเป็นเจ้าของบ้านหลักแรกได้อย่างแท้จริง ประกอบกับชูคอนเซ็ปต์การดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางของแต่ละทำเล ที่แตกต่างกันตามอินไซต์จริงของไลฟ์สไตล์ลูกค้าในแต่ละโลเคชั่น โดยในครึ่งปีหลังนี้ เราพร้อมเปิดตัวพลีโน่โครงการใหม่ทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวมมากถึง 7,495 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้น 1.99 - 6.8 ล้านบาท นายภมร กล่าวเสริม
ทั้งนี้ หากดูยอดขาย 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายรวมแล้วกว่า 18,175 ล้านบาท คิดเป็น 55% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ (เป้ายอดขายรวม 33,500 ล้านบาท) โดย 15,540 ล้านบาทเป็นยอดขายที่เกิดขึ้นจากสินค้าแนวราบ โตขึ้น 11% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และคิดเป็น 70% ของเป้ายอดขายแนวราบทั้งปีที่ 22,500 ล้านบาท ซึ่งยอดขายสินค้าแนวราบทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการขายกว่า 85 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 46,750 ล้านบาท (รวมโครงการแนวราบที่เปิดตัวใหม่ในครึ่งปีแรก 14 โครงการ มูลค่า 15,475 ล้านบาท) เอพีมั่นใจว่าภาพรวมตลาดแนวราบ โดยเฉพาะโครงการทาวน์โฮมในเครือเอพียังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากเซนติเมนต์ลูกค้าเยี่ยมชม ยอดจองและโอนทาวน์โฮมเครือเอพีเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ (เฉลี่ยยอดขายแนวราบ/ สัปดาห์ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท) ตั้งแต่ในช่วงหลังการคลายล็อกดาวน์ ประกอบกับความพร้อมขององค์กรและทีมงานที่ยึดถือความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจในการดำเนินงานพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย จนสามารถส่งมอบสินค้าคุณภาพ ช่วยเติมเต็มทุกการใช้ชีวิตได้ตามที่ลูกค้าปรารถนา ทำให้เราได้รับความไว้วางใจและความเชื่อใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าคนเมืองรุ่นใหม่เซ็กเมนต์กลางบน ที่มองหาบ้านที่ทุกๆ พื้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อตัวตนของเขาอย่างแท้จริง ซึ่งเอพีมั่นใจว่าด้วยแผนการพลิกโฉมรูปแบบการอยู่อาศัยในทาวน์โฮมกลางเมือง สู่การสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่เหนือกว่า ผ่านการสื่อสารแบรนด์โพสิชันนิ่งใหม่ในครั้งนี้ ทั้งแบรนด์ "บ้านกลางเมือง - วิถีบ้านกลางเมือง" และ "พลีโน่" บ้านหลังแรกที่ดีที่สุด" จะสามารถเจาะเข้าไปครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้แผนการเปิดตัวทาวน์โฮมรวมทั้งสิ้น 13 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 15,350 ล้านบาท ที่จะทยอยเปิดพรีเซลในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป จะได้รับการตอบรับ ที่ดีจากลูกค้าในทุกโลเคชั่นอย่างแน่นอน" นายภมร กล่าวทิ้งทาย
สำหรับแผนการเปิดทาวน์โฮมโครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง จำนวนทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 15,350 ล้านบาท แบ่งเป็น
โครงการไฮเอ็นด์ทาวน์โฮม 3 ชั้น ภายใต้แบรนด์ บ้านกลางเมือง ทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่ารวม 7,855 ล้านบาท ได้แก่ - บ้านกลางเมือง The Edition สาทร-สุขสวัสดิ์ มูลค่าโครงการ 1,725 ล้านบาท จำนวน 274 ยูนิต เริ่ม 4.79 - 7.99 ล้านบาท
- บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-สาทร มูลค่าโครงการ 1,780 ล้านบาท จำนวน 364 ยูนิต เริ่ม 4.29 - 7 ล้านบาท
- บ้านกลางเมือง ศรีนครินทร์-อ่อนนุช มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท จำนวน 155 ยูนิต เริ่ม 3.99 ล้านบาท
- บ้านกลางเมือง พหลฯ-รามอินทรา มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท จำนวน 286 ยูนิต เริ่ม 3.99 ล้านบาท
- บ้านกลางเมือง รามอินทรา 83 สเตชั่น มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท จำนวน 458 ยูนิต (เปิดขายเดือนพ.ย.)
โครงการพรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้นภายใต้แบรนด์ พลีโน่ ทั้งสิ้น 8 โครงการ มูลค่ารวม 7,495 ล้านบาท ได้แก่ - พลีโน่ ติวานนท์ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท จำนวน 498 ยูนิต ทาวน์โฮม เริ่ม 2.39-5.11 ล้านบาท บ้านแฝด 4.69 - 7.37 ล้านบาท
- พลีโน่ สุขสวัสดิ์ 30 (2) มูลค่าโครงการ 1,180 ล้านบาท จำนวน 342 ยูนิต ทาวน์โฮม เริ่ม 3.09 - 5.39 ล้านบาท
- พลีโน่ รัตนาธิเบศร์ - บางใหญ่ มูลค่าโครงการ 1,050 ล้านบาท จำนวน 421 ยูนิต ทาวน์โฮม เริ่ม 2.19-4.15 ล้านบาท
- พลีโน่ สุขสวัสดิ์ - ประชาอุทิศ มูลค่าโครงการ 1,185 ล้านบาท จำนวน 492 ยูนิต ทาวน์โฮม เริ่ม 1.99 - 3.59 ล้านบาท บ้านแฝด 3.59 - 4.99 ล้านบาท
- พลีโน่ ศรีนครินทร์ - เทพารักษ์ มูลค่าโครงการ 940 ล้านบาท จำนวน 294 ยูนิต ทาวน์โฮม เริ่ม 2.39 - 6.49 ล้านบาท
- แกรนด์ พลีโน่ รามอินทรา - วงแหวน มูลค่าโครงการ 430 ล้านบาท จำนวน 80 ยูนิต ทาวน์โฮม เริ่ม 4.98 - 6.79 ล้านบาท
- พลีโน่ รามอินทรา-จตุโชติ มูลค่าโครงการ 540 ล้านบาท จำนวน 180 ยูนิต ทาวน์โฮม เริ่ม 2.82 - 5.65 ล้านบาท
- พลีโน่ รังสิต มูลค่าโครงการ 770 ล้านบาท จำนวน 358 ยูนิต ทาวน์โฮม เริ่ม 1.99-2.50 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1623 หรือ
www.apthai.com