โกลเด้นแลนด์ จ่ายเงินปันผลสูงสุดตั้งแต่เปิดบริษัทฯ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ปันผล 0.46 บาทต่อหุ้น
บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยผลมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 (ตุลาคม 2560 ถึง กันยายน 2561) อนุมัติจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น 0.46 บาท หรือคิดเป็น 51% ของกำไรสุทธิ ซึ่งสูงกว่าเงินปันผลต่อหุ้นของปี 2560 ที่จ่าย 0.25 บาท
ทั้งนี้ ผลประกอบการในปี 2561 (ตุลาคม 2560 ถึง กันยายน 2561) บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 15,796 ล้านบาท มีกำไรรวมจำนวน 2,101 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการเปิดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ได้แก่ บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมทั่วกรุงเทพฯ ประสบความสำเร็จทั้งโครงการใหม่ที่เริ่มเปิดขาย และเริ่มโอนในปี 2561 รวมถึงโครงการเดิมที่ยังขาย และโอนได้อย่างต่อเนื่อง และค่าเช่าอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ที่มีอัตราการเช่าสูงเต็มพื้นที่
โดยผลมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น 0.46 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,069 ล้านบาท หรือคิดเป็น 51% ของกำไรสุทธิ ซึ่งสูงกว่าการจ่ายเงินปันผลของปี 2560 ที่จ่าย 0.25 บาท ถึงเกือบเท่าตัว ซึ่งสอดคล้องกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ขอขอบคุณทางผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจมีมติอนุมัติผลการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2561 โดยได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลในจำนวนที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้ง บริษัทฯ คิดเป็นมูลค่า 0.46 บาทต่อหุ้น เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจ และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เสมอมา บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพทางการเงินอันแข็งแกร่งที่พร้อมเติบโต ให้บรรลุตามพันธกิจการเป็นบริษัทฯ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีรายได้สูงเป็น 5 อันดับแรกของประเทศไทย ภายในปี 2563"
"ในปี 2561 บริษัทฯ ได้เริ่มใช้งาน "โกลด์โปร - GoldPro" ระบบสารสนเทศที่ใช้ในการจัดการและวางแผนการใช้ทรัพยากรขององค์กร พร้อมก้าวสู่บริษัทฯ อสังหาริมทรัพย์ 4.0 ตอบโจทย์โมบายออฟฟิศ "ทุกเครื่อง ทุกที่ ทุกเวลา" พร้อมประกาศย้ายที่ทำการใหม่ไปยังโครงการสามย่านมิตรทาวน์ เพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนพนักงาน นับตั้งแต่ปีแรกของคณะกรรมการ และคณะผู้บริหาร (ปี 2556) ซึ่งมีพนักงานเพียง 160 คน ปัจจุบันมีพนักงานแล้วกว่า 800 คน ร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจในบรรยากาศใหม่ๆ ที่สนับสนุนการทำงานของทีมอย่างเต็มที่
แม้ปัจจัยภายนอก อาทิ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีน ความไม่แน่นอนทางการเมือง การปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้หลายบริษัทฯ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีการปรับลดเป้าหมาย และมีการระมัดระวังในการลงทุนซื้อที่ดินมากขึ้น แต่โกลเด้นแลนด์ยังคงมีความมั่นใจกำลังซื้อของลูกค้าของบริษัทฯ ว่ายังคงดีอยู่ จึงตั้งเป้าหมายรายได้รวม 19,800 ล้านบาท แบ่งเป็น
- รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 18,000 ล้านบาท โดยมีเป้ายอดขายที่ 31,400 ล้านบาท ผ่านโครงการที่เปิดขายรวม 67 โครงการ แบ่งออกเป็น โครงการที่เปิดขายเดิมจำนวน 39 โครงการ และมีแผนงานเปิดโครงการในปี 2562 อีก 28 โครงการมูลค่า 33,000 ล้านบาท
- รายได้จากการให้เช่า และบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ 1,800 ล้านบาท จากการเช่าพื้นที่ของอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ หัวมุมถนนรัชดา-พระราม 4 อาคารสำนักงาน และโรงแรมมูลค่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งมียอดผู้เช่าเต็มพื้นที่แล้ว นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีรายได้ค่าบริหารจัดการอาคารสาทรสแควร์ และอาคารปาร์คเวนเชอร์ ซึ่งบริษัทฯ เข้าไปเป็นผู้บริหารทรัพย์สินให้กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (Golden Ventures REIT) บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งคาดว่า จะพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ปีนี้
นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกลยุทธ์ของบริษัทฯ ว่า สำหรับปี 2562 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าให้เป็นปีแห่ง "การเก็บเกี่ยวความสำเร็จ (Harvesting Success)" จากความมั่นใจในความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ด้วยฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น จึงมีความมั่นใจกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจดังนี้
- เดินหน้า นีโอโฮม (NEO Home) พัฒนาโดยมีแนวคิดมาจากความต้องการบ้านของคนเมือง ได้แก่ สวย ครบ คุ้ม และใกล้เมือง ในระดับราคา 4-6 ล้านบาท แต่ได้ฟังก์ชัน ความสวยงาม และสิ่งอำนวยความสะดวกเทียบเท่าบ้านระดับราคาแพง นีโอโฮม จึงเป็นบ้านที่เข้ามาทดแทนความต้องการบ้านเดี่ยวในเมืองที่ราคา 7-10 ล้านบาท ได้อย่างลงตัว
- ขยายตลาดและเพิ่มโครงการทาวน์โฮม (Townhome) พร้อมบุกทำเลใหม่ๆ ที่โกลเด้น ทาวน์ ยังไม่ได้เข้าไปทำตลาด หรือยังไปไม่ทั่วถึง อาทิ กรุงเทพฯ โซนเหนือ (เขตจตุจักร บางซื่อ ลาดพร้าว หลักสี่ ดอนเมือง สายไหม และบางเขน) กรุงเทพฯ โซนตะวันออก (เขตบางกะปิ สะพานสูง บึงกุ่ม คันนายาว ลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก คลองสามวา และประเวศ) เป็นต้น
- สร้างรายได้บ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น ตลาดบ้านเดี่ยวยังคงมีความต้องการ ในปี 2562 บริษัทฯ ปรับเป้ารับรู้รายได้ ของบ้านเดี่ยวจาก 4,000 กว่าล้านบาท ในปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 25% เป็น 5,000 ล้านบาท ในปี 2562 โดยจะมีการขยายตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 7-10 ล้านบาท ในทำเลเมืองชั้นใน อาทิ รามอินทรา, ศรีนครินทร์, บางแค, เพชรเกษม เป็นต้น
- ขยายตลาดซิตี้โฮม (City Home) บ้านที่เน้นทำเลในเมือง โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว หรือ บ้านแฝด หรือทาวน์โฮม แต่เป็นบ้านที่มีฟังก์ชันครบตามสไตล์โกลเด้นแลนด์ และอยู่ในเมือง อาทิ ย่านสาทร, พระราม 3, ลาดพร้าว, แจ้งวัฒนะ เป็นต้น โดยกำหนดโครงสร้างราคาขายในระดับ 10-20 ล้านบาท
- ขยายตลาดต่างจังหวัด จาก 2 โครงการในต่างจังหวัดที่ได้เปิดการขายไปแล้ว คือ โกลเด้น ทาวน์ ศรีราชา-อัสสัมชัญ และ โกลเด้น ทาวน์ อยุธยา ในปี 2562 บริษัทฯ ยังคงต่อยอดพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอีก 5 โครงการ ในทำเลที่เหมาะสม อาทิ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา เชียงราย เป็นต้น โดยพิจารณาทำเลจาก เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หรือ ECC ย่านเมืองอุตสาหกรรม รวมถึงการพัฒนาโครงการร่วมกับพื้นที่ของ Big C เป็นต้น
- เปิดครบอาณาจักร โกลเด้น เอ็มไพร์ ทั้ง 3 แห่ง คือ ลาดพร้าว บางแค และสาทร ที่ขายหมดในปีนี้ จะมารับรู้รายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นในปี 2562 และยังมีแผนเปิดอาณาจักร โกลเด้น เอ็มไพร์ให้ครบมากขึ้นในทำเลต่างๆ ซึ่งต่อไปลูกค้าจะสามารถเลือกโครงการในอาณาจักร โกลเด้น เอ็มไพร์ได้ที่ สาทร, บางแค, ลาดพร้าว, แจ้งวัฒนะ และเชียงราย
- พัฒนาระบบรองรับการเติบโต "พัฒนานวัตกรรม พัฒนาระบบ ให้ดีกว่าและเร็วยิ่งขึ้น" จากการที่บริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ในปี 2562 บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนานวัตกรรมสำหรับการอยู่อาศัย ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของโกลเด้นแลนด์อยู่แล้ว ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมกับพัฒนาระบบสารสนเทศ การบริหารจัดการด้านต่างๆ ภายในองค์กร เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท สร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงาน การบริหารงานก่อสร้าง การบริการลูกบ้านและลูกค้า ให้มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สนใจสอบถามเพิ่มเติมโทร 02-764-6200 เว็บไซต์
www.goldenland.co.th