'เอพี ไทยแลนด์' รุกตลาดบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง เปิดตัว 2 โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ 'CENTRO'
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง เผยดีมานด์บ้านเดี่ยวเซ็กเมนต์กลางบนแนวโน้มสดใส วางแผนบุกตลาดไตรมาส 2 ต่อเนื่อง เตรียมประกาศเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์
'CENTRO' บน 2 ทำเลศักยภาพ 'รังสิตคลอง 4 - วงแหวน' และ 'ราชพฤกษ์ - สวนผัก' มูลค่าโครงการรวม 2,200 ล้านบาท ตอกย้ำเป้าหมายสำคัญ คือ
บ้านเดี่ยวเครือเอพี ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวคนเมือง ภายใต้พันธกิจหลัก
'การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต' (Quality of Life for Future Living) ผ่านการผสานนวัตกรรมดีไซน์และการออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่มีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยความสมบูรณ์แบบของสภาพแวดล้อมในโครงการ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งในวันนี้และอนาคต
นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ดีมานด์สินค้าบ้านเดี่ยวเซ็กเมนต์กลางบนในระดับราคา 5 - 15 ล้านบาทขึ้นไปนั้น ได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง การันตีจากอัตราการเติบโตด้านยอดขายสินค้าแนวราบ ในไตรมาส 1 ของเอพีที่ผ่านมา มีการปรับตัวสูงขึ้นถึง 64% หรือเท่ากับ 5,200 ล้านบาท ถือเป็นดัชนีที่ชี้ให้เห็นถึงความต้องการจริงจากลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยใหม่ โดยเฉพาะการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่วางแผนขยายครอบครัว รวมถึงกลุ่มวัยทำงานที่มีรายได้มากขึ้น และอยากขยับจากการอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมมาเป็นบ้านเดี่ยวทำเลศักยภาพใหม่ๆ ที่มีความสะดวกในการเดินทางเชื่อมต่อสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว"
สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ CENTRO ที่จะเปิดขายในไตรมาส 2 นี้ ประกอบด้วย 2 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ โครงการ "CENTRO รังสิต คลอง 4 - วงแหวน" บนขนาดที่ดินประมาณ 61 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,130 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยสูงสุด 175 ตารางเมตร จำนวนทั้งสิ้น 279 หลัง เพียง 5 นาที ถึงวงแหวนกาญจนาฯ ซึ่งจะเริ่มเปิดขายวันที่ 28-29 เมษายน ราคาเริ่มต้น 2.95-4.75 ล้านบาท และโครงการ "CENTRO ราชพฤกษ์ - สวนผัก" บนขนาดที่ดินประมาณ 31 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,070 ล้านบาท บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ ขนาดพื้นที่ใช้สอยสูงสุด 342 ตารางเมตร พร้อมเอกสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวท่ามกลางสังคมคุณภาพเพียง 176 หลัง บนทำเลศักยภาพ ให้การเดินทางเข้าออกโครงการเป็นเรื่องง่าย และรวดเร็วด้วย The Bridge Fast Track เส้นทางส่วนตัวพิเศษเฉพาะลูกบ้านโครงการ ที่สามารถเชื่อมต่อสู่ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ เพียง 5 นาที พร้อมเปิดขายในเดือนพฤษภาคม ราคาเริ่ม 7.2-12 ล้านบาท
นายรัชต์ชยุตม์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "กลยุทธ์รุกตลาดด้วยการเปิดโมเดลบ้านใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่างผ่านการออกแบบสินค้าที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น โดย ไฮไลท์พิเศษของบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ CENTRO แบบบ้านใหม่ที่จะเปิดตัวในไตรมาส 2 นี้ มีจุดเด่นคือ เพิ่ม "พื้นที่ที่จอดรถยนต์ในร่มได้สูงสุดถึง 3 คัน" ตอบโจทย์ครอบครัวขยาย โดยเฉพาะผู้อยู่อาศัยที่มีครอบครัวใหญ่มีรถยนต์จำนวนมาก และเข้า-ออกบ้านในเวลาที่ไม่ตรงกัน นอกจากนี้ยังเพิ่มจำนวน "พื้นที่เอนกประสงค์" ทั้งชั้นบนและชั้นล่างถึง 2 ห้อง ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้อยู่อาศัย รวมถึงพื้นที่ส่วนนี้ยังสามารถต่อเติม และเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานได้ในอนาคต พร้อมพื้นที่ชั้นล่างที่สามารถใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือห้องทำงานโดยไม่ต้องกั้นห้องเพิ่ม เป็นต้น
โมเดลบ้านใหม่ข้างต้น ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการดีไซน์แบบบ้านของเราในแต่ละครั้ง จะพัฒนาจากความต้องการและพฤติกรรมการใช้ชีวิตจริงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแต่ละทำเล และนำมาต่อยอดพัฒนานวัตกรรมดีไซน์ เพื่อให้ได้ทั้งสเปซ และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบรับกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ภายใต้แนวคิดการสร้างความต่างจากการออกแบบสินค้าที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โดยมีมาตรฐานคุณภาพ เพื่อให้บ้านเดี่ยวเครือเอพี ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวคนเมือง"
อีกทั้ง "เอพี ยังจัดแคมเปญเพื่อส่งเสริมการขายสินค้าบ้านเดี่ยวครั้งใหญ่แห่งปี "ULTIMATE PRIZE" กับกองทัพบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ภายใต้แบรนด์ CENTRO, THE CITY, MIND และ THE PALAZZO กว่า 25 โครงการ พร้อมโปรโมชั่นที่เร้าใจที่สุดด้วยข้อเสนอไร้ขีดจำกัดมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท อาทิ ส่วนลดสูงสุด 4 ล้านบาท พร้อมลุ้นรับ Mercedes-Benz GLA เป็นต้น ด้วยที่สุดแห่งข้อเสนอไร้ขีดจำกัด ซึ่งถือเป็นแคมเปญคืนกำไรให้กับลูกค้าครั้งยิ่งใหญ่ ร่วมพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของแคมเปญ 'ULTIMATE PRIZE' ได้แล้ววันนี้ - 17 มิถุนายนนี้ เท่านั้น พบกับข้อเสนอพิเศษนี้ได้ที่ Sales Gallery ของโครงการที่ร่วมรายการ โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าทั้งหมดนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี และช่วยดันยอดขายแนวราบให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน" นายรัชต์ชยุตม์ กล่าวสรุป