สำหรับหน้าฝนที่มีอากาศมัวๆ หมองๆ ทำให้เรานึกถึงอาการหนึ่ง ที่เรียกย่อๆ ว่า SAD (Seasonal affective disorder) หรือที่แปลเป็นไทยก็คือ คนที่มีอาการซึมเศร้าตามฤดูกาล จริงๆ สามารถเกิดได้ทุกฤดู แต่ส่วนใหญ่มักเกิดในหน้าหนาว กับคนที่อาศัยอยู่ในเมืองหนาว เนื่องจากแสงแดดไม่ค่อยมี และบรรยากาศสีเทาเหมือนใส่ฟิลเตอร์ไว้ที่ท้องฟ้า พอได้รู้จักอาการนี้และมานั่งสังเกตัวเองดีๆ ก็รู้สึกว่าที่ผ่านมาเราก็ค่อนข้างอ่อนไหวไปกับสภาพอากาศเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นในช่วงหน้าฝน คงเพราะความร้อนเอย เมฆที่ครึ้มเอย บางทีแดดออกแปปเดียว ฟ้าก็มัวอีกแล้ว
และเผลอแปปเดียว ช่วงเดือน 6 ปีนี้ก็ผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว เอาเข้าจริงความรู้สึกของเรายังเหมือนติดอยู่ที่เดือนธันวาคมปี 2021 อยู่เลยทีเดียว แต่ในเมื่อตระหนักแล้วว่าเราได้เดินทางมาครึ่งหนึ่งของปีอีกแล้วสินะ หน้าฝนปีนี้เราเลยอยากหาอะไรที่สดใสๆ มาเติมเต็มพื้นที่อยู่อาศัยเป็นพิเศษ หลังจากบทความที่แล้วเราได้พาไปตลาดต้นไม้ เพื่อตกแต่งห้องทำงาน ครั้งนี้เราจึงตั้งใจว่าจะไปสถานที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยไปสักหน่อย ไปเช็คราคา ตามหาแจกัน หรือของตกแต่งบ้านน่ารักๆ และมาจัดดอกไม้ตกแต่งมุมห้องไปพร้อมๆ กันค่ะ
ก่อนหน้านี้เราเคยไปเดินปากคลองตลาด ไล่ดูดอกไม้ และซื้อกลับมาจัดแจกันใหญ่ที่ห้องเป็นช่อนี้ เป็นการจัดผสมกันหลายชนิดมาก ไม่มีหลักการอะไร แต่ออกมาแล้วให้รู้สึกถึงความทรอปิคอลนิดๆ วางไว้มุมห้องก็รู้สึกผ่อนคลายดี
แต่ครั้งนี้เราอยากจัดดอกไม้ โดยใช้แจกันเล็กๆ หลายๆ ใบ ให้ดูเหมือนนิทรรศกาลนิดหน่อยบนโต๊ะทานอาหาร เราเลยปักหมุดหาโรงงานแก้วที่อยู่ในกรุงเทพฯ เน้นสถานที่ที่มีของให้เลือกเยอะๆ ราคาย่อมเยาว์
และแล้วเราก็ไปเจอกับที่นี่ Eastern Glass Cafe ที่เป็นโรงงานขายแก้วด้านหลัง และด้านหน้าเป็นคาเฟ่ชิคๆ นั่งชิวถ่ายรูปได้ ตั้งอยู่บริเวณถนนเพชรเกษม เส้นบางแค พอวันเสาร์ เราก็รีบตื่นเช้าแต่งตัว และบึ่งไปกันเลย
ถึงด้านหน้าจะเห็นว่าตกแต่งเป็นสไตล์ Industry Loft แต่จริงๆ ต้องบอกว่าเป็น Industry ของจริงเลยทีเดียว เพราะตัวร้านเคยเป็นโรงงานผลิตแก้วมาก่อน บรรยากาศภายนอกตกแต่งด้วยต้นไม้ ดูร่มรื่นมากๆ
เดินเข้ามาด้านหลังที่เป็นโรงงานแก้วเก่า ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนโฉมกลายเป็นคลังแก้วขนาดใหญ่ เดินเข้าไปแล้วเรียกว่าจะเห็นแก้วสีสันสดใส วางเรียงกันให้เลือกไม่รู้จบ
หลังจากใช้เวลาตื่นตาตื่นใจไปพอสมควร ฮ่าๆ ก็ได้เวลาที่เราจะออกสำรวจโกดังแห่งนี้กัน ตัวคลังสินค้า วางชั้นเหล็กและแก้วหลากชนิดที่เรียกว่า มาที่เดียวจบ ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำดื่มทรงเตี้ย หรือทรงสูง, เหยือกน้ำ, จาน, ถ้วยใส่น้ำจิ้ม, ถ้วยใส่ไอศกรีม, ขวดทรงสวยๆ, แจกัน, เชิงเทียน ,ถาดใส่เทียน ขอเรียกว่า สวรรค์ของคนรักเครื่องครัวเลยทีเดียว #อีโมจิหน้ายิ้มรูปหัวใจ และหัวใจสีชมพูรัวๆ 555
เดินเข้ามาจะเห็นลูกแก้วเล็กๆ หลากสีสัน น่ารักเต็มไปหมด ที่แท้น้องคือจุกปิดขวด มีให้เลือกหลายรูปทรงเลย ส่วนในเรื่องของราคาก็น่ารักมากๆ เริ่มต้นที่หลักสิบ หลักร้อยทั้งนั้นเลย
จานทรงฟรีฟอร์ม และแก้วน้ำแต้มจุดสี ดูดี อาร์ตมากฮะ อยากจะเหมาเลยทีเดียว
ใครที่รักการทำ Home Cafe รับรองว่าไม่ผิดหวัง นอกจากแก้วให้เลือกหลายทรงแล้ว ยังมีหลากหลายสีอีกด้วย แถมราคาก็น่ารักมากๆ
ดูแถวแก้วที่เรียงรายอยู่นี่สิ เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว
เดินเพลินจนเกือบลืมเป้าหมายหลักของเราในวันนี้ คือตามหาแจกัน เพื่อนำไปจัดดอกไม้นั่นเอง ! เราไปสะดุดตากับแจกันทรงกลม ซึ่งนอกจากจะมีหลายขนาดแล้ว ยังมีสีขุ่น สีใส และโทนพาสเทล เช่นม่วงอ่อน, เขียวอ่อน ด้วย
นอกจากชั้นล่างแล้วยังมีชั้นลอยอีกต่างหาก มองลงมาเพลินมากๆ
ไม่ต้องถามเลยว่าจะใช้เวลาเดินนานแค่ไหน เผื่อไป 1 ชม. สำหรับคนรักจานชาม ฮ่าๆ และนี่คือเซ็ทแก้วและแจกันที่เราซื้อมาทั้งหมด
เราพยายามเลือกมาให้ได้หลายๆ ไซส์ มีสูงมีต่ำ สามารถวางแยกกันได้ หรือเวลามาวางด้วยกันแล้วดูบาลานซ์กันด้วย
ราคาน้องแต่ละชิ้นเรียงจากซ้ายไปขวา แก้วทรงกลมปากกว้าง ราคา 60 บาท, แจกันเตี้ยสีดำ ราคา 73 บาท, แจกันขาวทรงสูง ราคา 150 บาท, จานปากกว้างสีใส ราคา 87 บาท, แจกันทรงกลมสามชั้นสีเขียวอ่อน ราคา 150 บาท, แจกันทรงสูงเขียวใส ราคา 80 บาท, ถาดแก้ว ราคา 65 บาท และจุกแก้วสีดำ ราคา 50 บาท)
ได้แจกันดอกไม้แล้วก็มาเริ่มจัดดอกไม้กันเลย
เริ่มจากการตัดความยาวของดอกไม้ เราจะค่อยๆ ตัดทีละนิดแล้วลองเสียบในแจกันก่อน เพื่อให้ได้ความสูงที่พอดี นอกจากนั้นต้องตัดใบล่างๆ หรือใบที่เริ่มเหลืองออกให้หมด
คราวนี้เราเน้นปักแบบแจกันละ 1 ช่อไปเลย
ดอกเดซี่ ขวัญใจ ดอกเล็กๆ ราคาช่อละ 50-60 บาท แต่ความสดใส 100%
ใช้กรรไกรตัดกิ่งมาตัดเจ้ายูคาลิปตัส นอกจากจะให้ความเขียวชอุ่มแล้วยังให้กลิ่นหอมๆ ตรงโซนที่วางแจกันด้วย อ้อ ! เราจะใส่ Flower Food ลงไปในน้ำด้วยเพื่อยืดอายุดอกไม้ ให้สดใสได้นานขึ้นไปอีก
อาหารดอกไม้ชนิดผง ราคาซองละ 25 บาท ได้มาจาก Shopee
ภาพรวม แจกันดอกไม้ บนโต๊ะทานอาหาร เรียบร้อย จริงๆ เหลือจานปากกว้างอีกอันที่เราตั้งใจจะมาจัดดอกไม้แบบ Ikebana แต่หมุดที่ไว้ยึดดอกไม้ยังไม่มาส่ง ก็เลยว่างเปล่าไปก่อน ~
เราชอบความสวยงามของดอกไม้แต่ละชนิด
ดอกเยอบีร่าสีชมพู
และสุดท้ายมาเช็คราคาทั้งแจกันและดอกไม้ในวันนี้กันอีกสักรอบ
/ เรียงจากซ้ายไปขวา /
แจกันปากกว้างสีขาวใส ราคา 60 บาท ดอกไม้ช่อละ 80 บาท, ช่อยูคาลิปตัสราคา 80 บาท
แจกันกลมสีเขียวทรงสูง ราคา 150 บาท, ดอกเดซี่ราคาช่อละ 60 บาท
แจกันสีเขียวใสปากแคบ ราคา 90 บาท, ดอกเยอบีร่าสีชมพู ราคาดอกละ 30 บาท
แจกันสีขาวขุ่นทรงสูง ราคา 150 บาท, ดอกไม้ราคาช่อละ 80 บาท
แจกันสีดำทรงเตี้ย ราคา 73 บาท, ดอกคาเนชั่นราคาดอกละ 30 บาท
จานปากกว้าง ก้นสีน้ำเงิน ราคา 87 บาท
ถาดหรือจานใส ราคา 65 บาท, ที่ทับกระดาษ/ จุกปิดขวด ราคา 50 บาท
ลองแยกไปวางตามมุมต่างๆ
เรารู้สึกว่าดอกไม้สดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านได้ แถมแต่ละดอกยังมีสีสันและคาแร็กเตอร์ที่ต่างกันด้วย ทั้งสงบ, น่ารัก ,สวยสะพรั่ง ,ร่าเริง ฯลฯ เมื่อนำไปวางไว้จุดไหนก็ช่วยดึงสายตาของเราไปที่ตรงนั้น และปรับมุมๆ หนึ่งให้ดูสดใสขึ้นตามเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวเองได้เป็นอย่างดีเลย
จบแล้วกับภารกิจครั้งนี้ ก็หวังว่าทุกคนจะชอบคอนเท็นต์การตามหาแจกันดอกไม้และจัดดอกไม้ในครั้งนี้ รวมทั้งมีความสุขกับการแต่งบ้านในหน้าฝนกันนะคะ :)