ขึ้นชื่อว่า "ทาวน์โฮม" หลายๆ คนคงบอกว่าอย่าซื้อเลย ซื้อบ้านไปเลยดีกว่า ซึ่งคำกล่าวนั้นก็อาจจะไม่ถูกไปซะทีเดียว เพราะข้อดีของทาวน์โฮมคือ "ราคาถูก" กว่าบ้านเดี่ยวมาก คุมงบประมาณอยู่ แต่พื้นที่ใช้สอยได้เทียบเท่าบ้านเดี่ยว บางโครงการมีส่วนกลางให้เยอะเหมือนกับบ้านเดี่ยวเลยค่ะ วันนี้ Checkraka เลยจะมาแนะนำสำหรับคนที่จะซื้อทาวน์โฮมว่าเลือกอย่างไรให้ไม่ปวดหัวภายหลัง เลือกแบบไหนให้อยู่สบายค่ะ
1. ซื้อทาวน์โฮมหลังริม
นี่ถือเป็นสิ่งแรกที่คนซื้อทาวน์โฮมจะมองหา เพราะว่าอีกด้านหนึ่งจะไม่ติดกับใคร เป็นส่วนตัวมากกว่า แต่ข้อควรระวังของหลังริมก็คือ "อย่าซื้อทาวน์โฮมหลังริมที่อยู่ใกล้กับที่กลับรถหรือพื้นที่ว่างๆ หรือหลังริมสุดซอย" เพราะมักจะมีคนที่อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจจะตั้งใจมาใช้พื้นที่นี้จอดรถ เอาโต๊ะมาตั้ง สูบบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งพื้นที่หลังริมนี้จะจ่ายค่าส่วนกลางมากกว่าหลังอื่นๆ ราคาก็จะสูงกว่าหลังอื่น ดังนั้นไม่ควรให้ผู้อื่นมาใช้พื้นที่หน้าบ้านเราทำกิจกรรมต่างๆ ค่ะ
2. ซื้อทาวน์โฮมหน้าสวนหรือหน้าบ้านไม่ชนกับใคร
การมีบ้านชนกับหน้าบ้านคนอื่น กั้นด้วยถนนเพียงไม่ถึง 10 เมตร มีส่วนทำให้ขาดความเป็นส่วนตัว และยังมีความเสี่ยงที่คนรอบๆ บ้านจะมาจอดรถ หรือส่งเสียงดังสร้างความรำคาญให้อีกด้วย ดังนั้นถ้าหากเลือกได้เลือกหน้าบ้านเป็นสวนไปเลยค่ะ ได้ชมวิวสวยๆ และเป็นส่วนตัวด้วย
3. ซื้อทาวน์โฮมหันหน้าทางทิศเหนือ
ทาวน์โฮมทุกวันนี้มีมีหลากหลายโครงสร้าง แต่แดดประเทศไทยก็ยังแรงสม่ำเสมอทำให้โครงสร้างเหล่านั้นเก็บความร้อนเอาไว้ได้ ดังนั้นควรเลือกทาวน์โฮมที่โดนแดดช่วงบ่ายน้อยที่สุด นั้นก็คือบ้านที่หันหน้าไปทิศเหนือนั่นเอง
4. ถนนหน้าบ้านต้องกว้าง
ถนนของทาวน์โฮมส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 6-8 เมตร ซึ่งถนนเมนจะเป็นถนนที่กว้างมากกว่าถนนในซอยหมู่บ้าน (ประมาณ 12 เมตร) หากใครอยากมีพื้นที่หน้าบ้านโล่งๆ ไม่ใกล้ฝั่งตรงข้ามจนเกินไปให้เลือกถนนเมนไปเลยค่ะ บางคนอาจเลือกหน้าบ้านเป็นถนนที่ใช้กลับรถ เพราะจะกว้างกว่าปกติ ก็ทำให้ไกลจากบ้านฝั่งตรงข้ามไปอีก และถ้าหากพูดจากความเป็นจริงหลายๆ บ้านชอบจอดรถไว้ที่หน้าบ้าน ไม่ชอบถอยเข้าก็ให้เลือกถนนที่กว้างๆ แบบที่จอดรถ 2 ฝั่งแล้วก็ยังกว้างอยู่
5. เช็คสภาพแวดล้อมเช้า-กลางวัน-เย็น
ทาวน์โฮมเป็นบ้านที่ใช้ผนังและรั้วร่วมกัน การเดินแรงๆ หรือปิดประตูแรงๆ ก็ทำให้บ้านข้างๆ ได้ยินแล้วล่ะค่ะ ดังนั้นถ้าหากเป็นทาวน์โฮมที่สร้างเสร็จแล้วลองใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านทุกๆ ช่วงเวลา สำรวจดูว่าพฤติกรรมข้างบ้านเป็นอย่างไร ทำอาชีพอะไร จอดรถแบบไหน ถ้าหากไม่โอเค รีบหนีไปให้ไวเลยค่ะ
6. จำนวนหลังในซอยน้อย
ในซอยหากเพื่อนบ้านยิ่งน้อยก็ยิ่งทำให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียง ปัญหาการจอดรถ เป็นต้น
7. ซื้อทาวน์โฮมหน้าฝน
เพราะทาวน์โฮมส่วนใหญ่มักพบปัญหารั่วซึมแม้จะซื้อมาได้ไม่นาน หากเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้วควรไปดูหลังฝนตก หาจุดที่ผนังมีรอยเปียกชื้น จุดนั้นมีรอยรั่วแน่นอนค่ะ ถ้าชอบจริงๆ ก็ให้ทางโครงการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนที่จะรับโอน
8. อย่าเห็นแก่ของแถม
ให้ดูที่วัสดุ ผังบ้านที่ชอบเป็นหลัก ถ้าหากโครงการมีของแถมให้จริงๆ เช่น แอร์ที่ไม่ยอมระบุยี่ห้อ ผ้าม่าน เป็นต้น ให้ต่อรองมาเป็นส่วนลดหรือเงินสดเพื่อนำไปดำเนินการเอง เพราะของแถมที่ได้มาจากโครงการมักจะไม่มีคุณภาพและเลือกดีไซน์ไม่ได้
9. จ้างบริษัทตรวจบ้าน
แนะนำให้จ้างบริษัทตรวจบ้านเท่านั้น เพราะบางจุดเราไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่า เช่นความชื้น ฯลฯ ทางบริษัทรับตรวจจะมีเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะทำให้การตรวจบ้านละเอียดยิ่งขึ้น
10. ห้ามเซ็นรับจนกว่าจะแก้ไขจุดบกพร่องเสร็จ
ข้อนี้ค่อนข้างสำคัญเลยค่ะ เพราะถ้าตกลงรับไปแล้วโครงการมักจะไม่มาสนใจเราอีก หรือตามมายากมาก (เพราะขายได้แล้ว) ดังนั้นก่อนเซ็นรับบ้านดูให้ครบ ซ่อมแซมให้จบ เจ้าของบ้านสบายใจ
ปัจจุบันทาวน์โฮมราคาเริ่มต้น 1 ล้านกว่าบาทไปจนถึงหลักสิบล้าน ราคาแตกต่างกันไปตามดีไซน์ ส่วนกลาง และโครงสร้าง ซึ่งราคาที่ไม่แพงมาก อย่างโครงการ THE CONNECT จาก พฤกษา สามารถสานฝันคนที่อยากมีบ้านในงบจำกัด หรือ First Jobber ได้
THE CONNECT กรุงเทพฯ - ปทุมธานี ทาวน์โฮมหน้ากว้าง ติดถนนใหญ่ พื้นที่ 20 ตร.ว. 2 ที่จอด เริ่ม 1.85 ลบ.*
ลงทะเบียนรับโปรโมชั่นพิเศษคลิกที่นี่ THE CONNECT BIZTOWN @กรุงเทพ - ปทุมธานี อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ติดถนนใหญ่ อยู่เองก็ได้ ค้าขายก็รุ่งเรือง เริ่ม 4.29 ลบ.*
ลงทะเบียนรับโปรโมชั่นพิเศษคลิกที่นี่ ส่วนทาวน์โฮมราคาสูงหน่อย ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในทำเลที่ไม่ไกลจากในเมือง มีหลายชั้น และซ่อนดีไซน์และเทคโนโลยีต่างๆ เอาไว้ให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ นอกจากนี้ควรมองหาสินเชื่อบ้านดีๆ ที่ให้วงเงินกู้สูง ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว จะได้อุ่นใจ ไร้ปัญหา และได้บ้านที่ตรงใจด้วยค่ะ