"ร้านสะดวกซื้อ" เป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเราเป็นอย่างมาก เดินเข้า-ออกกันแทบจะทุกวัน และในปัจจุบันก็มีการแข่งขันกันทางธุรกิจส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก็ถือเป็นผลดีที่เกิดขึ้นทำให้ผู้บริโภคได้รับการบริการที่ดีขึ้นและมีมาตรฐาน วันนี้เราชวนมาส่อง 4 ร้านสะดวกซื้อที่พัฒนาโดยคนไทย ซึ่งบางท่านอาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้าตากันเท่าไหร่ แต่ก็ครองใจลูกค้าและเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานแล้วค่ะ
1. ร้านถูกดี มีมาตรฐาน - ทีดี ตะวันแดง
ร้านน้องใหม่ แต่เก๋าประสบการณ์ ถูกดี มีมาตรฐาน เป็นธุรกิจที่เข้ามาเพื่อฟื้นคืนชีพร้านโชห่วยเดิมๆ โดยจะเข้ามาปรับรูปแบบและยกระดับมาตรฐานร้านเดิมที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัย มีระบบการจัดการทั้งหน้าร้านและหลังบ้าน และมีรวมถึงโปรโมชันป้อนเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันมีสาขามากถึง 1,723 สาขา ทั่วประเทศ ร้านนี้ไม่เรียกธุรกิจนี้ว่าเป็นแฟรนไชส์ เพราะทุกร้านยังเป็นร้านเดิม มีเจ้าของคนเดิม จึงเรียกว่าเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันทำงานด้วยกันผสานจุดแข็งของโชห่วยแบบเดิมกับความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ของบริษัทเข้าไว้ด้วยกัน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
www.ถูกดีมีมาตรฐาน.com 2. Fresh Mart - เฟรชมาร์ท เอ็กซ์เพรส
![](/uploaded/img/content/128442/freshmart.jpg)
ร้านสะดวกซื้อคู่คนไทย
เฟรชมาร์ท ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2543 เน้นการสร้างร้านที่ดูทันสมัย สะอาด สดใส และการบริการที่ดีเยี่ยม ปัจจุบันมากกว่า 700 สาขาทั่วประเทศ ใครที่อยากเปิดร้านสามารถเริ่มต้นได้ที่ 790,000 บาท ไม่รวมถึงการก่อสร้าง (พื้น, น้ำประปา, ไฟฟ้า, แอร์), สินค้า, ภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ต้องใช้หนังสือค้ำประกันธนาคาร (Bank Guarantee) โดยมีระยะเวลาให้สิทธิประกอบการ 10 ปี
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.freshmart.co.th/
3. CJ Supermarket - ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป
ขึ้นชื่อถึงความหลายหลายของสินค้า สำหรับ "CJ Supermarket" (ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต) ที่ทำธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบใหม่นี้มากว่า 15 ปีแล้ว รูปแบบธุรกิจเป็นการขยายสาขาตนเอง ไม่ใช่แฟรนไชส์ ปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการแล้วกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ ที่นี่มักมีโปรโมชันดีๆ นำเสนอให้ลูกค้าเสมอ รับรองว่าได้สินค้ากลับบ้านในราคาที่คุ้มค่าแน่นอน
4. 108 Shop Mini Outlet - โชคชัยพิบูล
108 Shop เป็นร้านที่คุ้นหูกันมานานไม่แพ้ร้านอื่นๆ ด้วยชื่อที่สะดุดหูที่ฟังแล้วก็รู้เลยว่าร้านนี้ต้องมีของมากมาย 108 แน่ๆ ร้านนี้เป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่มีการพัฒนาตลอด เพื่อให้ยืดหยัดได้ท่ามกลางการแข่งขันสูง โดยการลงทุนจะเน้นแบบตามจริง ไม่เก็บค่าแฟรนไชส์ มีเพียงค่าบริการรายเดือนเล็กน้อย ปัจจุบันมีประมาณ 650 สาขา ทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามถ้าหากแถวบ้านใครไม่มีร้านสะดวกซื้อ การสนับสนุนร้านโชห่วยก็สะดวกไม่แพ้กัน อยากได้อะไรก็เพียงแค่บอกไม่ต้องเดินหา นอกจากจะได้สินค้าที่ต้องการแล้วบางทีอาจจะได้รอยยิ้ม บทสนทนาเล็กๆ จากคุณลุง-คุณป้า เจ้าของร้านอีกด้วย บางทีก็มีสินค้าบางอย่างที่เป็นความทรงจำของเราสมัยเด็กๆ ที่ร้านสะดวกซื้อไม่ได้มีขาย บทความนี้ไม่ได้มีสิ่งอื่นใดแอบแฝงนอกเหนือไปจากการอยากให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนธุรกิจรายย่อยหรือระดับกลางกันเยอะๆ เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้เดินหน้าไปต่อกันได้ และให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้มีสิทธิ์เลือกซื้อสินค้าและบริการกันอย่างหลากหลายไม่ผูกขาดค่ะ