ช่วงนี้เรามีเวลาอยู่บ้านกันเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก สถานการณ์บ้านเมืองต่างๆ ที่เป็นไป ดูเหมือนยิ่งทำให้เราต้องอยู่บ้านนานขึ้นไปอีก ทั้งสถานการณ์โควิด-19 และสถานการณ์น้ำที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก พาลเอาเราเบื่อบ้านกันไปตามๆ กัน มีหลายๆ คนที่ตัดสินใจขายบ้านในเมืองแล้วย้ายไปอยู่บ้านเกินเมืองนอนเดิม หลีกจากความวุ่นวายมาเพิ่มพื้นที่ให้กว้าง ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ที่สุดคือ คนในครอบครัวได้อยู่ใกล้กัน ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ราคาที่คุ้มค่าต่อการจ่ายที่ไม่คิดเสียดายทีหลังเลย
บ้านหลังไม่ใหญ่ แต่ทำไม? กลับให้มากกว่าคำว่า "บ้าน"
หนึ่งในนั้นคือ คุณกุนเชียง สิริพิมพ์รดา พึ่งพาภัทรสกุล Project Manager Marketing สาวยุคใหม่ ที่เคยใช้ชีวิต Working Woman แข่งกับความไวและต่อสู้กับความยุ่งเหยิงในเมืองมาสักพัก ช่วงหลังๆ เจอพิษเศรษฐกิจ สภาพคล่องทางการเงินเริ่มสะดุด เธอตัดสินใจขายบ้านในตัวเมืองเชียงใหม่ ชวนแม่ย้ายออกมาอยู่บ้านเกิดที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ด้วยความที่เดี๋ยวนี้ทำงานออนไลน์กันง่ายขึ้นมากแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเสมอไป งาน Project Manager Marketing ก็ยังดำเนินต่อไปได้ ถึงจะต้องเข้าเมืองจากที่นี่ไปก็ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง คุณกุนเชียงเล่าให้เราฟังว่า
“ตัดสินใจขายปิดหนี้และมาหาซื้อที่ดินใกล้ญาติพี่น้อง การสร้างบ้าน 5-6 เดือนที่ผ่านมาทำให้เราหลงรักการทำบ้านมากๆ เลยค่ะ แม่ชอบชีวิตธรรมชาติ ปลูกผักกินเอง สโลว์ไลฟ์ ทุกวันนี้ตื่นมาเราก็จะพบกับรอยยิ้มของคนในบ้าน ที่ไม่ใช่แค่บ้าน...”
แนะนำให้เลื่อนลงไปด้านล่างนี้จะเห็นภาพที่อธิบายคำพูดของเธอได้ชัดเจนขึ้นค่ะ
คุณกุนเชียงเริ่มจาก หาซื้อที่ดินใกล้ถิ่นฐานเดิมที่เคยอยู่นั่นก็คือ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จนไปเจอที่นาเนื้อที่ 1 ไร่ 1 งานสวยๆ ตอนนั้นซื้อมาในราคาประมาณ 580,000 บาท ถมที่นาให้ดินสูงขึ้นเมตรนึง จ่ายไปประมาณ 120,000 บาท แล้วสร้างบ้านพื้นที่ใช้สอย 131 ตารางเมตร แบ่งเป็น 2 นอน 2 น้ำ 1 ห้องรับแขก และ 1 ห้องครัว
ทางเข้าบ้านยังเป็นถนนถมดินเข้ามา เดินทางอาจไม่ได้สะดวกเท่าถนนในเมือง แต่กลับเดินเย็นๆ ได้โดยที่ไม่ต้องระวังรถ ระวังฝุ่น ระวังควันเหมือนตอนอยู่ในเมือง
หน้าบ้านและรอบๆ ตัวบ้านทำรั้วรอบขอบชิดเป็นอย่างดี ด้านหน้าเลือกใช้ "อิฐบล็อก" ที่หาได้ตามร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไป นำมาปูเรียงกันถี่ๆ เปิดช่องลมไม่ให้ดูทึบจนเกินไป แค่นี้ก็มินิมอลน่าอยู่แล้วค่ะ ไหนๆ กำแพงก็มินิมอลแล้ว ก็คลุมโทนไปถึงศาลพระภูมิหน้าบ้านด้วยเลยสิคะ เธอได้ศาลพระภูมิสีขาวล้วนมาในราคา 9,000 บาท สวยจบถูกใจ ไม่ง้อศาลพระภูมิมินิมอลจริงๆ ที่ฟาดราคาไปเกือบ 20,000 บาท
บรรยากาศช่วงกลางคืน ติดไฟตามรั้ว ก็ช่วยให้ความสว่างได้รวมถึงเพิ่มความสวยงามให้กับตัวบ้านด้วย
อีกมุมของบ้านทำพื้นที่ให้มานั่งเล่น ตั้งวงปิ้งย่างกันได้แบบสบายๆ
ผนังสีน้ำตาลด้านนอกเป็นไม้ฝายิงยึดกับปูนแล้วทาสีทับอีกที เลือกใช้สีน้ำตาลโทนเดียวกับพื้นให้มีความสต่อเนื่องกันดูสบายตาน่านั่งเล่นสุดๆ ตรงพื้นเป็นกระเบื้องลายไม้แผ่นยาว หาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วไปในราคาประมาณ 220 บาท/ตารางเมตร ซึ่งลายมีให้เลือกเพียบ เลือกที่เป็นลายคล้ายไม้จริงแบบนี้มาก็ดูสบายตามาก จะเดินจะนั่งก็เย็นสบาย แถมดูแลรักษาง่ายกว่าไม้จริง หมดกังวลเรื่องปลวก เรื่องบวมน้ำไปเลย
ถ้าจะปล่อยพื้นที่ข้างบ้านเป็นพื้นดินก็จะดูไม่สวยงามเท่าไหร่ เวลาลมพัดมาแต่ละทีก็พัดฝุ่นเข้าบ้านให้ต้องกวาดกันตลอดเวลาแน่ๆ บ้านหลังนี้เลือกใช้ "หินแม่น้ำปิง" คุณกุนเชียงบอกว่า ที่เชียงใหม่เรียกกันแบบนี้
พาย้ายเข้ามาดูในตัวบ้านกันบ้าง คุณกุนเชียงตกแต่งแบบง่ายๆ สบายๆ ไม่รีบร้อน บ้านเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน ค่อยๆ ตกแต่ง ต่อเติม ทีละน้อย โซนนั่งดูทีวี วางโซฟาสีเทาเข้ากันกับม่านลงตัวพอดีๆ
ถึงแม้ว่าจะดูเป็นบ้านกลางนาธรรมดา แต่ภายในโซนวางโต๊ะรับประทานอาหารก็เรียบหรูกำลังดีเลยค่ะ
ส่วนโซนห้องนอน ห้องน้ำ ก็ค่อยๆ ตกแต่งเพิ่มทีละน้อย เฟอร์นิเจอร์ทยอยเข้าแบบไม่รีบร้อน
ครัวนอกหรือครัวใน อะไรก็ได้สไตล์เราเอง
ด้วยความที่โดยส่วนตัวคุณกุนเชียงเจ้าของบ้านเป็นคนชอบทำอาหาร โดยเฉพาะอาหารท้องถิ่นเรียบง่าย สร้างบ้านครั้งนี้เธอจึงออกแบบพื้นที่ครัวให้มีทั้งครัวนอกและครัวใน วันไหนอยากทำอาหารเบาๆ ก็เข้าครัวในบ้านเล็กน้อย ทำห้องครัวในบ้านขนาด 3.5x3 เมตรกำลังดี เก็บของวางเครื่องใช้ต่างๆ ได้พอเหมาะ
ส่วนครัวด้านนอกที่ต่อออกมาเป็นระเบียง มีอ่างล้านจานและพื้นที่สำหรับทำอาหารหนักๆ ได้เต็มที่ ไม่ว่าจะปิ้งจะย่างก็ไม่ต้องห่วงเรื่องกลิ่นจะคลุ้งเข้าบ้านเลย แถมทำไปก็ชมวิวทุ่งนาไป ชิลกว่านี้ไม่มีแล้ว
ดูจากวัตถุดิบของเจ้าของบ้านแล้ว เป็นความเรียบง่ายที่เห็นได้ตามท้องถิ่นภาคเหนือ พืชผักที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล ไม่ว่าจะมะระขี้นก ผักบวบ ผักแว่น หอยนา หรือลูกอ๊อตตัวน้อย ตามตลาดในเมืองอาจจะมีให้หาซื้อได้อยู่บ้าง แต่ทุกคนคะ จริงๆ แล้วความฟินอยู่ที่การได้ออกไปหาเองตามท้องนา หรือการที่พี่ป้าน้าอาหามาแบ่งปันกันกิน นั่นคือ เสน่ห์ของท้องถิ่น ที่เราหาได้จากชีวิตกลางเมืองได้ยากนัก
ราคาจ่ายที่คุ้มค่า เพราะถือว่า ได้ซื้อความสุขให้แม่และครอบครัว
เจ้าของบ้านหลังนี้เล่าให้ฟังว่า...หลังจากที่คุณพ่อเสียไป ชีวิตเหมือนต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ 3 คน คุณกุนเชียง คุณแม่และน้องชาย จากเช่าห้องพักเล็กๆ อยู่กันก่อน พอช่วงทำงานโชคดีได้งานดีในตัวเมืองเชียงใหม่ มีโอกาสได้เครดิตดีๆ ของธนาคารแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเลยตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรร 1 หลัง (10 ปีที่แล้ว) ทำงานในตัวเมืองแล้วผ่อนมาเรื่อยๆ จนช่วงหลังพิษเศรษฐกิจเป็นเหตุ เลยทำให้สภาพคล่องทางการเงินเริ่มสะดุด ส่วนในเมืองเองมีความวุ่นวาย ตัดสินใจขายปิดหนี้และมาหาซื้อที่ดินใกล้ญาติพี่น้อง คุณแม่ชอบชีวิตธรรมชาติ ปลูกผักกินเอง สโลว์ไลฟ์ ตอนนี้ชีวิตลงตัวมากๆ "
"การสร้างบ้าน 5-6 เดือนที่ผ่านมาทำให้เราหลงรักการทำบ้านมากๆ เลยค่ะ มันคือ ความภูมิใจ ทุกขั้นตอนที่เราใส่ใจ ตั้งแต่เริ่มจนจบ ยิ่งผลงานออกมาได้ตรงความต้องการ และมีคนชอบยิ่งดีใจเลยค่ะ...
ทุกวันนี้ ตอนเช้าตื่นมาเราก็จะพบกับรอยยิ้มของคนในบ้าน ที่ไม่ใช่แค่บ้าน ได้กินอาหารที่เราชอบ ได้เลี้ยงน้องหมา ปล่อยเค้าวิ่งเล่นได้ตามใจชอบ ได้อยู่กับธรรมชาติ ได้นั่งมองท้องฟ้า รับสายลม หมอกสวยๆ และทุ่งนา ทำให้แต่ละวันผ่านไปอย่างมีความสุข ยิ่งคืนไหนฟ้าเปิด ดวงดาว พระจันทร์สวยมากค่ะ"
มาถึงตอนนี้ทุกคนน่าจะยิ้มตามเจ้าของบ้านกันแล้วใช่มั้ยคะ? ความสุขที่เธอตัดสินใจแลกมา แม้ว่าจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง กับอะไรหลายๆ อย่างที่ต้องจ่าย
งบประมาณที่สร้างบ้านพร้อมที่ดินหลังนี้รวมแล้วอยู่ที่ 2,250,000 บาท ถ้าไม่รวมที่ดินแยกออกมาเป็นงบเหมาค่าแรงและค่าอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ที่ประมาณ 1,350,000 บาท ซึ่งได้สถาปนิกและผู้รับเหมาอยู่ที่เชียงใหม่มาออกแบบและรับเหมาก่อสร้างให้
แต่ผลลัพธ์ของเธอวันนี้คือ "คุ้มค่า" เพราะเลือกลงทุนซื้อความสุขได้ตรงใจในแบบที่เธอและครอบครัวต้องการ ในขณะที่งานก็ยังไปด้วยกันได้ดี เห็นชัดที่สุดคือความสุขของ "แม่" ที่ตอนนี้อยากทำอะไรก็ได้ทำ อยากกินอะไรก็ได้กิน ได้อยู่ใกล้ๆ ญาติพี่น้อง มีอะไรก็ไปมาหาสู่และแบ่งปันกัน ความสุขเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน จนตอนนี้เตรียมสร้างบ้านมินิมอลสวยๆ เพิ่มอีกหลังในที่ดินผืนใหญ่ที่เธอซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง แล้วคุณละคะชอบบ้านหลังนี้มั้ย? ค้นหา "บ้าน" ในแบบที่เหมาะกับตัวคุณเจอหรือยัง? ถ้ายังฝากติดตามพวกเราต่อไปด้วยนะคะ ไม่ได้มีแค่บ้านกลางนา แต่เราจะตามหาบ้านกลางเมือง และแบบรูปแบบอื่นๆ อีกมากมายมาให้ชมกันอีกแน่นอนค่ะ
ขอขอบคุณเจ้าของบ้าน : คุณสิริพิมพ์รดา พึ่งพาภัทรสกุล (
กุนเชียง สิริพิมพ์)
ที่ตั้งของบ้าน : ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ผู้รับเหมา : คุณนรินท์ พิสมบูรณ์
สถาปนิก : คุณณรงค์ สุวรรณคีรี