เคยไหมคะ? รู้จักบ้านแบบนี้ ชอบบ้านแบบนี้แหละแต่เรียกชื่อไม่ถูกซะที เห็นแบบเรียบๆ ที่ไหนก็เหมารวมว่าเป็นสไตล์มินิมอลไปหมด รับรองว่าคราวนี้เรียกไม่ผิดแน่ อ่านจบปุ๊บเป็นสถาปนิกจูเนียร์ ดูมีความรู้ทันทีเลยจ้า :)
1. เรือนไทย
เรือนไทยไม้สัก ขอบคุณภาพจาก https://www.stellashows.net/
บ้านเรือนไทย (Traditional Thai House) เป็นบ้านที่มีความสง่า สวยงาม บ่งบอกถึงความเป็นไทย และเอกลักษณ์ของช่างไม้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรือนไทยโบราณแต่ละหลังสร้างด้วยการยึดสลักในทุกๆ ชิ้น ไม่มีการตอกตะปูเข้ากับไม้จึงทำให้มีความแข็งแรงและสื่อถึงภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนได้ดี เรือนไทยมีหลายแบบ แบ่งหลักๆ เป็น 4 ภาค แต่ละภาคก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป แต่จุดร่วมคือเรือนไทยจะมีการยกใต้ถุนสูง เพื่อใช้เก็บอุกรณ์ทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ รวมถึงใช้พักผ่อนด้วย ปัจจุบันเรือนไทยก็ยังได้รับความนิยมอยู่ทั้งแบบสร้างใหม่ รวมถึงแบบน็อคดาวน์ อีกทั้งยังมีการประยุกต์นำซีเมนต์เข้ามาใช้เพื่อยืดอายุของตัวบ้านแต่ยังคงเอกลักษณ์ไทยไว้ด้วย
2. โคโลเนียล
ขอบคุณภาพจาก http://homemax0001.blogspot.com/2017/09/colonial-style.html
สไตล์โคโลเนียล (Colonial) เป็นแบบบ้านสไตล์ตะวันตกที่ไทยนั้นได้รับอิทธิพลในช่วงรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ทำให้อาคารในสมัยนั้นมีสไตล์โคโลเนียลผสมผสานอยู่ แม้จะไม่ 100% ตามอย่างตะวันตก แต่ก็ได้นำมาปรับใช้กับประเทศไทย มีเอกลักษณ์ชัดเจนจนเรียกขานกันว่าเป็น "ตึกฝรั่ง" ในสมัยนั้น โดยลักษณะเด่นคือมีระเบียงกว้างรอบบ้าน มีเสารองรับชายคาเรียงต่อเนื่องกัน เน้นประตูทางเข้าที่กึ่งกลางอาคาร มีการออกแบบแนวเส้นประตูหน้าต่างของบ้านให้เป็นระเบียบในแนวเดียวกัน เป็นต้น
3. โมเดิร์น
สไตล์โมเดิร์น (Modern) ได้รับอิทธิพลมาจากช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 18 ซึ่งช่วงนี้เน้นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าสูงสุด ดังนั้นจึงลดทอนการตกแต่งที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อลดการใช้วัสดุ จึงเกิดออกมาเป็นสไตล์ที่มีความเรียบง่ายตามโครงสร้าง เป็นความสวยงามที่เกิดจากความพอดี เน้นพื้นที่ใช้สอย ทำให้โครงการต่างๆ ก็มักจะนำสไตล์โมเดิร์นนี้ไปใช้เป็นจำนวนมาก นำไปผสมผสานหลากหลายเช่น โมเดิร์น ลักชัวรี่ หรือการผสมผสานกับธรรมชาติ หรือความสดใส เป็นต้น
4. ปั้นหยา
สไตล์ปั้นหยา ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกประมาณรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 แบบบ้านปั้นหยานี้ลักษณะเด่นคือหลังคาจะมี 4 ด้าน และลาดเอียงต่อกันทุกด้านเหมือนพีระมิด ไม่มีหน้าจั่ว ในไทยนิยมทำบ้านสไตล์นี้เป็นอย่างมาก นิยมทั้งแบบ 1 ชั้น และ 2 ชั้น เพราะมีทนแดดทนลมได้ดี
5. อินดัสเทรียลลอฟท์
สไตล์ลอฟท์หรืออินดัสเทรียล ลอฟท์ (Industrial Loft) มาจากหลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมของแถบประเทศตะวันตก ที่มีการขยายตัวของโรงงานไปยังชานเมือง จึงทำให้โรงงานที่อยู่ในเมืองร้าง นักออกแบบจึงมองเห็นความสวยในความดิบเท่ของโรงงาน จึงได้ดัดแปลงโรงงานให้เป็นสตูดิโอรวมถึงที่อยู่อาศัย ดังนั้นสเน่ห์ของสไตล์ลอฟท์คือการตั้งใจให้พื้น ผนัง หรือฝ้าเพดานมีความดิบ ไม่ปรุงแต่ง ใช้ลวดลายและโครงสร้างของผิววัสดุของเหล็กและไม้ที่มีอยู่ตกแต่งให้เกิดความสวยงาม ฝ้าเพดานจะค่อนข้างสูงโปร่ง ปัจจุบันเราได้เห็นสไตล์นี้เป็นทั้งที่อยู่อาศัย และดัดแปลงโรงงานหรือโกดังเก่าย่านต่างๆ มาทำเป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร เป็นจำนวนมาก
6. บาหลี
สไตล์บาหลี (Bali) หรือคนที่มักเรียกกันว่าสไตล์รีสอร์ท เป็นแบบบ้านที่นิยมสร้างในจังหวัดบาหลี ประเทศอินโดนิเซียที่เป็นเขตร้อนชื้น โด่งดังมาจากสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่มีอยู่ทั่วไปของโรงแรมในบาหลี ถ้าเป็นแบบดั้งเดิมนั้นจะสร้างด้วยไม้ทั้งหมด มีงานแกะสลักไม้สำหรับตกแต่ง แต่ในปัจจุบันได้มีการใช้คอนกรีตมากขึ้น แต่ก็ยังคงเน้นเอลักษณ์ที่เน้นพื้นที่โล่ง มีระเบียงไม้ รวมถึงทรงหลังคา
7. ยูโรเปียน
โครงการ เวลตัน พระราม 3 สไตล์ยูโรเปียน (Europian) เป็นแบบบ้านที่มาแนวหรูหราแบบคลาสสิกที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมของประเทศทางแถบยุโรป จะเห็นได้ชัดตามพระราชวังที่ดีไซน์เรียบหรู และสง่างาม มีความเล่นระดับของ Facade ด้านหน้า มีหน้าจั่วและระเบียงที่เป็นเอกลักกษณ์ของสไตล์นี้ วัสดุจะเน้นหินไม้และสีโทนสว่างมักนำมาผสมกับหลายๆ สไตล์ อาทิ โมเดิร์นยูโรเปียน ในประเทศไทยก็มักนำสไตล์ยูโรเปียนนี้มาประยุกต์สร้างบ้านเพื่อสื่อถึงความหรูหรามีระดับ
8. อเมริกันคันทรี่
สไตล์อเมริกันคันทรี (American Country) เป็นแบบบ้านพักตากอากาศชานเมืองของชาวอเมริกัน เน้นพักผ่อน ชมวิวจากธรรมชาติ ตัวบ้านจึงมีระเบียง และชานบ้านไว้าหรับนั่งเล่นและทำกิจกรรม Semi-outdoor เยอะ โดยส่วนมากจะใช้ไม้เป็นหลักและมักใช้สีอ่อนๆ ตกแต่งบ้านด้วยดอกไม้ ลักษณะเด่นอีกอย่างคือจะมีหน้าจั่ว และมีหน้าต่างอยู่ด้วย บางหลังก็มักจะมีห้องใต้หลังคาสำหรับเก็บของหรือให้เด็กๆ ได้ใช้พื้นที่กัน ปัจจุบันได้มีการนำสไตล์นี้มาสร้างบ้านกันเยอะพอสมควร เพราะเป็นแบบบ้านที่อบอุ่นมีความน่ารัก แต่ก็ปรับโครงสร้างเป็นซีเมนต์เป็นส่วนใหญ่
9. นอร์ดิก
สไตล์นอร์ดิก (Nordic) เป็นบ้านที่มีต้นกำเนิดมาจากคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย หรือแถบประเทศนอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ ฯลฯ ซึ่งเป็นเมืองหนาวและได้รับแสงอาทิตย์เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อเวันเท่านั้น ดังนั้นการออกแบบบ้านของชาวคาบสมุทรนี้จึงต้องการบ้านที่แสงอาทิตย์เข้าถึงบ้านง่ายๆ จึงเกิดเป็นความโดดเด่นตรงรูปทรงจั่วแหลม ใช้กระจกเป็นส่วนประกอบ เพื่อนำแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาสู่อาคารได้มากขึ้น และจุดเด่นของสไตล์นอร์ดิกคือการใช้สีธรรมชาติ ใช้ส่วนประกอบของไม้ต่างๆ เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สไตล์นอร์ดิกได้รับความนิยมอยู่ตลอด
10. มินิมอล
สไตล์มินิมอล (Minimal) คือการออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย น้อยแต่มากด้วยฟังก์ชัน ไม่นิยมความยุ่งเหยิง ลวดลาย และใช้สีอ่อนๆ ที่นิยมกันคือสีขาว สีครีม สีเบจ สีเทา เป็นต้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการตกแต่งสไล์มินิมอลจะเน้นให้มีพื้นที่โล่ง 60% และเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งเพียง 40% เท่านั้น แต่ในความมินิมอลก็จะมีการแตกสาขาไปอีกหลายสไตล์ อาทิ มินิมอลญี่ปุ่น (มูจิ) มินิมอลลอฟท์ มินิมอลทรอปิคอล ฯลฯ แต่ก็ยังอยู่บนพื้นฐานน้อยแต่มากด้วยฟังก์ชันในทุกๆ การออกแบบ