ใครที่กำลังคิดไม่ตกและมีความลังเลว่าระหว่างการซื้อบ้านโนเนม กับบ้านแบรนด์ดัง จะซื้อบ้านแบบไหนดี วันนี้เรามีประสบการณ์จริงของ "คุณแดน และ คุณสิงห์" ผู้ที่ตัดสินใจซื้อบ้านโนเนมในจังหวัดชลบุรี แต่ได้บ้านที่มีความสวยงามไม่ต่างจากบ้านแบรนด์ดังมาแชร์ให้ฟังค่ะ
บ้านหลังนี้อยู่ในจังหวัดชลบุรี ชื่อโครงการ "เดอะ ห้วยใหญ่ ริเวอร์ไซด์" เป็นหมู่บ้านโครงการเล็กๆ สไตล์บูติค ตั้งอยู่ในโซนห้วยใหญ่ เป็นบ้านชั้นเดียวซึ่งเป็น Type เล็กสุดของโครงการ แบบ Pool Villa ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ขนาด 77.8 ตาราวา มีสระว่ายน้ำส่วนตัว เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในบ้านเป็นของที่ทางโครงการให้มาทั้งหมด รวมไปถึงครัว Built-in พร้อม Island, TV, เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด, รูปภาพที่ตกแต่งผนัง และของตกแต่งบ้านด้วย ซึ่งบ้านหลังนี้ซื้อมาได้ในราคา 4.3 ล้านบาทเท่านั้น
ตอนที่มาดูครั้งแรกบ้านหลังนี้ยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อยดี แต่ชอบตรงที่ทางโครงการช่วยออกแบบให้ด้วยในกรณีที่เราอยากได้แบบไหน ตกแต่งแนวไหน แจ้งทางโครงการได้เลย อารมณ์เหมือนซื้อบ้านพร้อมดีไซน์ให้ด้วย แต่ตอนที่มาซื้อหลังนี้คือเค้าดีไซน์พร้อมตกแต่งไว้ให้หมดแล้ว ซึ่งก็ถูกใจเราอยู่แล้ว เพราะทางโครงการตั้งใจจะทำบ้านหลังนี้เป็นบ้านตัวอย่าง เลยถือเป็นโชคดีของเรา
เดิมทีทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ที่เลือกพัทยาเพราะ ส่วนตัวไม่ชอบรถติด ชอบอากาศที่ปลอดโปร่ง จะเที่ยวก็ได้ จะอยู่กับธรรมชาติก็ได้ บวกกับมีเพื่อนที่นี่เยอะมากด้วย ถ้าเป็นคอนโดก็ขอให้เป็นชั้นสูงๆ ไว้ก่อน ยังงัยก็ได้ไม่เอาแบบที่เปิดหน้าต่างแล้วไปเจอกับคนอื่น ก็เลยไปซื้อคอนโดติดทะเล เป็นคอนโดหลังแรก ชื่อโครงการ "น้ำทะเล" เป็นห้องแบบ Studio ไว้สำหรับพักผ่อน หลังจากนั้นไม่นานก็ลาออกจากงานที่กรุงเทพ และย้ายมาทำงานที่พัทยาเต็มตัว หลังจากที่ทำงานเก็บเงินได้มากขึ้นก็เริ่มอยากขยับขยาย เลยขายคอนโดและมาซื้อบ้านหลังนี้แทน
หาจาก 2 ทางคือ 1 หาข้อมูลตามเว็บไซต์ และตามเพจของพวกนายหน้าขายบ้านขายคอนโด พวกเพจบ้านมือสองพัทยา และหาตามกลุ่มที่เค้าขายบ้าน ในเพจพวกนี้เวลานายหน้าเค้ามีบ้านอะไรที่ต้องการขายเค้าก็จะเอามาลงไว้ เราก็เข้าไปส่องหลังไหนที่เราสนใจเราก็เซฟเก็บข้อมูลไว้ แล้วก็แวะไปดู และ 2 คือใช้คอนเนคชั่นส่วนตัว ให้เพื่อนๆ ที่เป็นเอเจนท์เค้าหามาให้ โดยแจ้งสเปกไปว่าเรามีงบประมาณเท่านี้ อยากให้บ้านแบบนี้ แล้วเค้าก็จะส่งมาให้เราเลือกเรื่อยๆ ถ้าเราสนใจหลังไหนก็ไปดูเรื่อยๆ
- ดูวัตถุประสงค์ในการซื้อ : ดูด้วยว่าซื้อเพื่ออะไร ถ้าซึ้อไว้อยู่เองเราก็ตัดสินใจเอง แต่ถ้าซื้อให้ครอบครัวหรือพ่อแม่อยู่ก็พาเค้าไปดู แล้วก็ให้เค้าเป็นคนตัดสินใจ สรุปคือซื้อบ้านตามความชอบของผู้ที่จะอยู่อาศัย โดยส่วนตัวบ้านหลังนี้ซื้อไว้อยู่เองคนเดียว
- ดูทำเล : บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัวมั้ย อาหารการกินหาซื้อยากมั้ย มีร้านอาหารหรือร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ๆ มั้ย
- ดูรูปแบบและฟังก์ชั่นบ้าน : รูปแบบบ้าน และสเปกตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
- ดูงบประมาณที่มี : เลือกแบบที่อยู่ภายในงบประมาณที่เรามี และไม่เดือดร้อนการใช้จ่ายเงินในอนาคต
- สำรวจราคาตลาด : สำรวจ และเปรียบเทียบราคาจริงกับบ้านที่อยู่ภายในโครงการเดียวกันว่าราคาประมาณเท่าไหร่ ทั้งจากการเดินสำรวจด้วยตัวเองภายในหมู่บ้าน และจากการเสิร์ชหาข้อมูลราคาจากอินเตอร์เน็ต
- ดูหลายๆ ที่อย่ารีบตัดสินใจซื้อ : กว่าจะได้บ้านหลังนี้มาก็ใช้เวลาในการเลือกอยู่หลายเดือน และแวะไปดูมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 หลัง ไม่ใช่ว่าชอบแล้วจะปุ๊บปั๊บซื้อเลย
- เช็คโฉนดที่ดิน : เอาเลขหน้าหลังโฉนดให้เพื่อนเอาไปเช็คกับกรมที่ดินว่าติดอะไรมั้ย เคยมีประวัติอะไรหรือเปล่า
- คุยกับเจ้าของโดยตรง : ส่วนตัวเวลาจะซื้อบ้าน หรือซื้อคอนโดถ้าไม่ได้คุยกับเจ้าของโดยตรงจะไม่ซื้อ
- เลี้ยงสัตว์ได้ : เป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ เลยอยากได้บ้านที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย ซึ่งบ้านตามโครงการส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์
ไม่จำเป็นดูที่ความพึงพอใจเป็นหลัก จะเป็นบ้านโนเนมหรือเป็นบ้านแบรนด์ดังก็ได้ แต่ส่วนตัวไม่ถนัดในการที่จะต้องมานั่งคิดว่าต้องแต่งตรงไหนยังงัย เคยไปดูบ้านมือ 1 แบรนด์ดังๆ ส่วนใหญ่ได้เพียงบ้านโล่งโจ้ง สวนก็ไม่ได้ลงต้นไม้ไว้ให้ต้องมาปลูกเอง ต่อรองราคาก็ไม่ได้ แต่บ้านหลังนี้ถึงจะเป็นบ้านโนเนม แต่เค้าตกแต่งอะไรไว้ให้แล้ว และอีกอย่างก็สามารถต่อรองราคากับเจ้าของได้โดยตรงด้วย สมมุติว่าถ้าบ้านหลังนี้เป็นบ้านแบรนด์ดัง แต่ได้ทุกอย่างตามนี้ในราคาแบบนี้เราก็ไม่ติดนะ
ไม่ยุ่งยากครับ ตอนเข้ามาอยู่ทีแรกสระว่ายน้ำเป็นระบบครอลีน แต่ส่วนตัวไม่ชอบเลยให้เค้ามาเปลี่ยนเป็นระบบเกลือ เพราะดูแลง่ายกว่า และดีต่อผิวมากกว่า ซึ่งในส่วนของการทำความสะอาดทางโครงการเป็นธุระดูแลให้โดยคิดค่าใช้จ่ายในการดูแลสระว่ายน้ำพร้อมดูแลสวนอยู่ที่เดือนละ 1,300 บาท โดยจะมาตัดหญ้าให้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง และทำความสะอาดสระว่ายน้ำให้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ปัจจุบันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนตัวใช่บ่อยอยู่ครับ ว่ายเกือบทุกอาทิตย์ โดยเฉพาะเวลาสังสรรค์กับเพื่อนๆ ส่วนตรงมุมสวนหย่อมที่อยู่ริมสระจะมีชิงช้ารังนกตั้งอยู่ ไว้สำหรับมานั่งเล่นนอนเล่นบริเวณริมสระน้ำได้บรรยากาศชิลล์มาก
ก็อาจจะมีแต่หาได้ไม่ง่ายนัก ถ้าบ้านลักษณะแบบนี้ถ้าอยู่ฝั่งพัทยาโซนริมถนนสุขุมวิทยาวไปถึงฝั่งชายทะเล ราคาน่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เคยไปดูมาบ้านโซนหาดจอมเทียนขนาด 56 ตารางวา มีสระเล็กนิดเดียว 1 ห้องนอน ไม่มีที่จอดรถในบ้าน ราคาขายอยู่ที่ 6 ล้านบาท แนะนำว่าสำหรับคนที่มีงบจำกัด และไม่ซีเรียสว่าต้องอยู่โซนพัทยาจ๋าๆ ให้ขยับออกมาหน่อยจะได้บ้านที่ราคาน่าคบหาและถูกกว่ากันครึ่งต่อครึ่ง
สำหรับคนที่กำลังอยากซื้อบ้านไม่ว่าจะเป็นบ้านโนเนม หรือบ้านแบรนด์ดัง ก่อนอื่นอยากให้ถามใจตัวเองดูว่าซื้อเพราะแบรนด์หรือซื้อเพราะสเปกของบ้าน หลังจากนั้นเลือกให้เข้ากับตัวเองให้มากที่สุด ดูองประกอบรวมหลายๆ อย่าง ถ้าบ้านหลังนั้นตอบโจทย์ได้ในทุกๆ ด้าน ก็ถือว่าเป็นบ้านที่ดีและไม่ควรปล่อยผ่านไป
จากประสบการณ์ของ "คุณแดน และ คุณสิงห์" ทำให้เรามองเห็นว่า บางครั้งการซื้อบ้านโครงการโนเนมก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ซึ่งหากเลือกดีๆ บางทีเราอาจได้บ้านคุณภาพดีเทียบเท่ากับบ้านแบรนด์ดังๆ ในราคาที่คุ้มค่าได้เช่นกัน แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลย