เวลาไหนที่ผู้คนมักกักตุนอาหารกันบ้าง? ภาวะสงคราม ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือในภาวะที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่กับโรคระบาด ในปัจจุบันหลายๆ ครัวเรือนเริ่มกักตุนอาหารกันบ้างแล้วเพื่อลดความเสี่ยงจากการออกจากบ้านไปซื้อของ และลดความเสี่ยงถ้าหากระบบการขนส่ง โรงงาน หรือเกษตรกรไม่สามารถส่งวัตถุดิบเข้าสู่ตลาดได้ โดยสิ่งที่ควรมีติดบ้านไว้คือ ข้าวสาร ถั่วเหลือง สาหร่าย น้ำมันพืช ผักประเภทหัว ผลไม้อบแห้ง น้ำสะอาด เป็นต้น เพราะทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะให้สารอาหารครบถ้วน แต่สามารถเก็บไว้ได้นานหลายเดือนหรือบางชนิดเป็นปี ส่วนบะหมี่สำเร็จรูปและอาหารกระป๋องกักตุนได้แต่ควรรับประทานเวลาที่จำเป็นเท่านั้น เพราะอาหารเหล่านี้มีโซเดียมค่อนข้างมาก การกินอาหารที่สดใหม่ คุณค่าทางสารอาหารครบจึงจำเป็นที่สุด แต่ว่าอาหารสดไม่นานก็บูดเน่า วันนี้เราจึงมาบอกวิธีการยืดอายุวัตถุดิบให้นานขึ้นจากประสบการณ์ตรง Work from home ทำอาหารทานเองมาเกือบจะ 1 ปีแล้วค่ะ
1. เนื้อสัตว์
1. ควรเลือกซื้อเนื้อสัตว์จากแหล่งที่สดใหม่ ไม่ค้างคืน เพราะถ้าไม่สดจะทำให้เสียได้ง่าย เก็บรักษาได้ไม่นาน
2. ล้างเนื้อสัตว์ให้สะอาดและซับด้วยกระดาษ ไม่ให้มีน้ำเกาะอยู่กับชิ้นเนื้อ
2. หั่นเนื้อหรือแบ่งเนื้อใส่ถุงซิปล็อกหรือถุงแกงก็ได้ค่ะ แต่ต้องพับถุงหรือรัดให้แน่น กดเนื้อให้แบนเพื่อให้ความเย็นทั่วถึง โดยแบ่งไว้ให้พอดีในแต่ละครั้ง เช่น ถุงละ 300 กรัม ก็จะพอดีต่อการทำกับข้าว 1 จาน *สิ่งที่ควรระวังคือระวังอย่าให้อากาศเข้าไปในถุงหรือให้เข้าน้อยที่สุด
3. นำไปแช่ช่องฟรีซ สามารถยืดอายุวัตถุดิบได้ถึง 1 เดือนเลยค่ะ
วิธีสังเกตเนื้อสัตว์บูดเน่า - มียางเหนียวๆ มีกลิ่นเน่าและเป็นสีเขียว
2. ไข่ไก่
1. นำไข่ไก่ไปทาน้ำมันพืชเพื่อเคลือบไข่ไว้ จะยืดอายุไข่ได้ประมาณ 1 เดือนค่ะ
2. อีกวิธี 1 คือ นำไข่แช่ตู้เย็นปกติ แต่ให้นำด้านแหลมกว่าคว่ำลงพื้นก็จะทำให้ไข่แดงลงมาอยู่ด้านแหลมที่ไม่มีฟองอากาศ
วิธีสังเกตไข่ไก่บูดเน่า - มีกลิ่นออกมาแม้ไม่ได้ตอก ไข่แดงเละมีกลิ่นเหม็น
3. อาหารทะเล
1. พวกกุ้ง ปลา ปลาหมึก ให้ล้างให้สะอาดด้วยน้ำเกลือและน้ำสะอาด
2. หั่นหรือแกะเปลือกออกให้สะอาด แบ่งใส่ถุงพลาสติกหรือซิปล็อกไว้สำหรับทำรับประทาน 1 ครั้ง (ถุงละประมาณ200-300 กรัม)
3. นำไปแช่ฟรีซ ยืดอายุวัตถุดิบได้นาน 2 สัปดาห์เลยค่ะ
วิธีสังเกตอาหารทะเลบูดเน่า - มีกลิ่นเหม็นคาว มียางและน้ำเหนียวๆ ออกจากอาหารทะเล
4. ผักประเภทหัว
1. ผักประเภทหัว เช่น แครอท หัวไชเท้า บีทรูต ให้หักหัวหรือใบออกให้หมดและแช่ในตู้เย็นได้ปกติ สามารถเก็บได้นาน 1 เดือน
2. ส่วนฟักทอง ฟักเขียว แฟง เผือก มัน ให้วางไว้ในที่ๆ อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ต้องแช่ตู้เย็น และไม่จำเป็นต้องล้างเปลือกนอกนะคะ เพราะความชื้นจะทำให้เกิดราได้ สามารถเก็บได้นาน 2-3 เดือน แต่ถ้าตัดไปใช้แล้วก็ให้เก็บส่วนที่เหลือไว้มในกล่องสูญญากาศ จะเก็บได้นาน 1 สัปดาห์ค่ะ
วิธีสังเกตพืชผักประเภทหัวบูดเน่า - ด้านนอกแห้งเหี่ยว ด้านในเละ หรือมีแมลงเข้าไปด้านในจนไม่สามารถรับประทานได้แล้ว
5. มะนาว
1. มะนาวสามารถเก็บได้ทั้งลูกโดยล้างให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง ผึ่งลมไว้สักครู่
2. ห่อมะนาวด้วยกระดาษธรรมดา กระดาษมันห่ออาหาร หรือถุงพลาสติกก็ได้ โดยต้องมัดถุงให้แน่น
3. ถ้าไม่อยากเก็บทั้งลูกสามารถคั้นน้ำมะนาวแล้วหยอดลงในถาดทำน้ำแข็ง หุ้มถุงอีก 1 ชั้น วิธีทั้งหมดนี้สามารถยืดอายุวัตถุดิบมะนาวได้นาน 6 เดือน- 1 ปี เลยค่ะ
วิธีสังเกตมะนาวบูดเน่า - ผลมะนาวแห้ง ดำ ไม่มีน้ำ หรือน้ำมีรสขมฝาด
6. ผักชีต้นหอม
1. วิธีแรกคือการล้างผักให้สะอาด ไม่ต้องตัดรากทิ้ง นำผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดมาห่อและใส่ไว้ในถุงซิปล็อก หรือถุงพลาสติกและแช่ไว้ในตู้เย็น
2. วิธีที่สองคือการนำขวดพลาสติกขวดใหญ่มาหั่นเป็น 2 ส่วน เติมน้ำเล็กน้อย ใส่ผักเข้าไปด้านใน ครอบฝาปิดให้สนิท แช่ไว้ในตู้เย็น ทั้ง 2 วิธีเก็บได้นานประมาณ 2 สัปดาห์
วิธีสังเกตผักบูดเน่า - ผักแห้งเหี่ยว กลิ่นเฉพาะตัวหายไป
7. หอมแดง-กระเทียม
1. ห้ามนำไปแช่ตู้เย็น ให้หาตะกร้ารองด้วยผ้าบางๆ ห่อถ่านไม้เอาไปรองไว้ที่ก้นตะกร้า และเอาหอม-กระเทียมวางด้านบน
2. หรือใครที่ทานขนมแล้วซองกันชื้นเหลือ สามารถเอามาวางใส่ในตะกร้าหอม-กระเทียมได้ค่ะ เพราะตัวกันชื้นหรือถ่านจะช่วยดูดความชื้นได้
วิธีสังเกตหอม-กระเทียมบูดเน่า - มีราดำๆ เกาะ หรือหัวลีบแห้ง
8. ผลไม้
1. หากยังไม่ทานให้คงสภาพไว้อย่างนั้น เพื่อป้องกันอากาศเข้าไปโดนเนื้อด้านใน เช่น เงาะ ลำใย แอปเปิ้ล ฝรั่ง มะม่วง
2. หากปอกทานไปแล้วให้ใส่ไว้ในกล่องสูญญากาศจะเก็บไว้ไดอีก 3-4 วัน แต่รสชาติก็จะไม่เหมือนเดิมเท่าไหร่แล้วค่ะ
Tips 1 สรุปแล้วใครที่ทานของเก่าไม่หมดแต่มีของใหม่มาแล้ว เวลาแพคให้ใช้ปากกา Permanant เขียนวันที่ไว้ที่บรรจุภัณฑ์ได้ค่ะ จะได้นำของเก่ามาใช้ทำอาหารทานให้หมดก่อน
Tips 2 อยากให้ตู้เย็นเก็บของได้นานๆ ไม่ควรยัดของใส่ตู้เย็นมากเกินไป ควรกักตุนอาหารอย่างเหมาะสม เพราะนอกจากจะทำให้ความเย็นไปได้ไม่ทั่วถึงยังทำให้กินไฟมากกว่าปกติด้วยค่ะ