8 วิธีประหยัดไฟฟ้าแสนง่ายช่วยลดค่าใช้จ่ายในช่วง "Work From Home" ได้จริง!!
ในช่วงที่กำลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 หลายคนจำเป็นจะต้อง "Work From Home" หรือทำงานอยู่ที่บ้าน ส่งผลโดยตรงทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พอสิ้นเดือนเห็นบิลค่าไฟบางบ้านเหมือนจะสิ้นใจ ทำไมมันถึงแพงขนาดนี้... ดังนั้นเราจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้วเพื่อให้สามารถทำงานที่บ้านได้อย่างสบายใจ และยังประหยัดค่าไฟฟ้าได้ด้วย วันนี้เรามีเคล็ดลับแบบง่ายๆ ที่จะช่วยประหยัดไฟ และช่วยเซฟเงินในกระเป๋ามาฝากกันค่ะ
การทำงานก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์ ดังนั้นห้องทำงานหรือตำแหน่งที่วางเครื่องคอมพิวเตอร์ควรที่จะระบายความร้อนได้ดี เพื่อไม่ให้เครื่องทำงานหนักจนเกินไป การเลือกเครื่องคอมพิวเตอร์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรเลือกใช้คอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับงานและขนาดหน้าจอไม่ควรใหญ่จนเกินไป เช่น จอภาพขนาด 14 นิ้ว จะใช้พลังงานน้อยกว่าจอภาพ ขนาด 17 นิ้ว มากถึง 25% และไม่ควรปรับจอให้สว่างจนเกินไปด้วย เพราะนอกจากจะกินไฟแล้วยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของจออีกด้วย หากใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบประหยัดพลังงาน Energy Star ด้วยยิ่งดี และที่สำคัญควรปิดเครื่องหรือ Shut Down ทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน หรือใช้ Sleep Mode เมื่อทำงานค้างไว้แต่ต้องไปธุระข้างนอก
ควรเปิดไฟเฉพาะบริเวณที่ใช้งานหรือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรเปิดไฟทั่วบ้าน แนะนำให้ใช้หลอดไฟแบบ LED หรือหลอดฟลูออเรสเซ้นส์แทนการใช้หลอดไฟแบบธรรมดาทั่วไป ถึงแม้จะมีราคาสูงกว่าหลอดไฟชนิดอื่นแต่ให้ความสว่างมากกว่า อายุการใช้งานยาวนานกว่า และยังช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าหลอดไฟแบบธรรมดาถึง 75% หากคำนวนการใช้งานในระยะยาวแล้วถือว่าคุ้มค่ามากกว่าเยอะ
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าการเสียบปลั๊กไฟเอาไว้ถึงแม้ว่าจะปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือปิดสวิตช์ที่ปลั๊กสามตาไปแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีกระแสไฟฟ้าไหลวนเข้าสู่ตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นอยู่ ซึ่งกระแสไฟที่ไหลเวียนอยู่นั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นการปิดสวิตช์อย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอแต่ควรถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งานด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้พักอาศัยภายในบ้าน ช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรด้วย ยิ่งกรณีหากจะซ่อมแซมหรือทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อความไม่ประมาทอย่าลืมถอดปลั๊กออกก่อนทุกครั้ง
การติดฉนวนกันความร้อนช่วยทำหน้าที่ป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ ช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านร้อนช้าลงกว่าบ้านที่ไม่ได้ติดตั้งฉนวนกันความร้อน บางทีในวันที่อากาศไม่ร้อนมากอาจนั่งทำงานในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกโดยไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์เลยก็ได้ เพียงแค่เปิดพัดลมก็เพียงพอแล้ว แต่หากบ้านไหนที่ใช้เครื่องปรับอากาศฉนวนกันความร้อนก็ยังทำหน้าที่ช่วยกักเก็บรักษาความเย็นให้ห้องเย็นเร็วและเย็นนานยิ่งขึ้น ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไปช่วยประหยัดไฟได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งฉนวนกันความร้อนที่ดีควรมีความหนามากกว่า 3 นิ้วขึ้นไป
ในห้องที่มีแสงสว่างมากๆ การติดผ้าม่านกัน UV หรือม่านทึบแสงถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ห้องได้ดี สามารถป้องกันแสงได้ประมาณ 80% - 90% ด้วยเนื้อผ้าม่านที่มีลักษณะหนากว่าผ้าม่านทั่วไป ส่วนใหญ่จะเป็นโทนสีเข้ม เช่น สีดำ สีเทา สีน้ำเงิน นอกจากจะทำให้ห้องเย็นสบาย ช่วยประหยัดไฟแล้ว ผ้าม่านก็ยังช่วยตกแต่งให้ห้องมีความสวยงามสร้างบรรยากาศให้น่าทำงานมากยิ่งขึ้นได้ด้วย
สำหรับคนที่ต้องทำงานลากยาวไปจนถึงตอนกลางคืนเป็นประจำ การตั้งโคมไฟเล็กๆ ไว้ที่โต๊ะทำงานแน่นอนว่าช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าการเปิดไฟทั้งห้องเพื่อนั่งทำงาน โดยข้อดีของโคมไฟคือให้แสงสว่างแบบเฉพาะจุด และยังเป็นการไม่รบผู้อื่นที่อยู่ภายในห้องเดียวกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกสบายอยากย้ายไปทำงานมุมไหนของห้องก็ได้
การที่ต้องทำงานอยู่บ้านทั้งวันก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเปิดเครื่องปรับอากาศกันบ้าง ก็แหม..อากาศมันร้อนซะเหลือเกินจะไม่ให้เปิดได้ยังไง ทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติตามไปด้วย แต่เราก็มีเคล็ดลับการใช้เครื่องปรับอากาศให้ประหยัดไฟได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การตั้งอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส เปิดพัดลมช่วยเพิ่มความเย็น หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศเพื่อลดการใช้พลังงาน หรือปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้งก่อนจะออกจากห้องอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
ในวันที่อากาศดีๆ ช่วงแดดร่มลมตกตอนเย็นๆ ลองออกมานั่งทำงานโซน Outdoor บางก็ดีนะ เปลี่ยนมุมนั่งเล่นบริเวณสวนหน้าบ้านให้กลายเป็นมุมทำงานในบรรยากาศชิลล์ๆ แทนการนั่งทำงานภายในตัวบ้านก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยประหยัดพลังงานได้เช่นกัน ทำให้ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งวัน ช่วยลดการใช้ไฟไปได้อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงต่อวัน
สำหรับใครที่กำลังปวดหัวกับค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ต้อง Work From Home อยู่ที่บ้านลองนำเทคนิคง่ายๆ นี้ไปปรับใช้ดูนะคะ รับรองว่านอกจากจะช่วยช่วยประหยัดไฟฟ้าได้แล้วยังช่วยลดค่าใช้จ่ายภายในบ้านทำให้เหลือเงินเก็บนำไปใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ได้อีกเยอะเลย ไม่เชื่อลองทำดู!!