x
icon-filter ค้นหาบ้าน
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

ตรุษจีนปีนี้ ตรงกับวันไหน? อะไรควรทำ - ไม่ควรทำบ้าง ?

icon 3 ม.ค. 66 icon 24,263
ตรุษจีนปีนี้ ตรงกับวันไหน? อะไรควรทำ - ไม่ควรทำบ้าง ?
ใกล้ถึง "เทศกาลตรุษจีน" แล้วนะคะ สำหรับประเทศไทยเราก็มีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่ค่อนข้างเยอะเลยนะคะ ประมาณเกือบ 10 ล้านคน หรือประมาณ 14% จากประชากรทั้งหมด 69 ล้านกว่าคน ทำให้ตรุษจีนเป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของคนไทย ที่มีการฉลองวันตรุษจีนกันอยู่ทุกปี ถึงแม้ว่าปีนี้จะมีเรื่องโควิด-19 เข้ามา แต่ก็ยังเห็นคนไทยหลายคนเตรียมพร้อมที่จะจัดงานกันอยู่ บทความนี้จะมาบอกเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับวันสำคัญวันนี้ รวมถึงความเชื่อในวันตรุษจีน เกี่ยวกับสิ่งที่ควร และไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีนกันค่ะ
เทศกาล "ตรุษจีน" ปีนี้ 2566 ตรงกับวันไหนบ้าง ?
คนไทยแท้ที่ไม่ได้มีเชื้อสายจีน บางคนอาจจะเคยสงสัยว่า วันตรุษจีนมี่กี่วันกันแน่ แล้วเป็นวันอะไรกันบ้าง ทำไมถึงเห็นเพื่อนร่วมงานบางคนหยุดงานไปประกอบพิธีเกี่ยวกับตรุษจีนกันหลายวัน ? สำหรับชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย (เป็นวันก่อนสิ้นปี), วันไหว้ (เป็นวันสิ้นปี) และวันเที่ยว (เป็นวันตรุษจีนขึ้นปีใหม่) ซึ่งในปี 2566 จะตรงกับวันดังต่อไปนี้ค่ะ
1. วันจ่าย หรือ ตื่อเส็ก
ในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2566 ซึ่งก็คือ วันก่อนสิ้นปี 1 วัน เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนออกไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว สำหรับปีนี้ที่ติดเรื่องโควิด-19 บางคนก็อาจจะหันมาเตรียมของด้วยการซื้อออนไลน์ ซึ่งก็มีหลายร้านที่ขายออนไลน์ เข้าไปดูกันได้ที่นี่ค่ะ ฉลองตรุษจีนแบบ New Normal ช็อปออนไลน์อยู่ที่บ้าน ก็ไหว้เจ้าได้
2. วันไหว้
ในปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2566 คือ วันสิ้นปี เป็นวันที่ทุกคนจะมาไหว้เทพเจ้าต่างๆ บรรพบุุรษ ญาติพี่น้องที่ล่วงลับ และผีไร้ญาติ โดยมีเครื่องเซ่นไหว้ อาหาร และผลไม้ ที่เตรียมไว้ตั้งแต่วันจ่าย ซึ่งจะแบ่งช่วงเวลาดังนี้
ตอนเช้ามืด จะเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ โดยจะมีเครื่องไหว้ เป็นเนื้อสัตว์ 3 อย่าง (ซาแซ) ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ หรือจะเป็นเนื้อสัตว์ 5 อย่าง (โหงวแซ) ก็จะเพิ่ม ตับ และ ปลา และมี เหล้า น้ำชา และกระดาษ กระดาษทอง
ตอนสายไม่เกินเที่ยง จะเป็นการไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว ซึ่งชาวจีนเขาเชื่อว่าเป็นการแสดงความกตัญญู เครื่องไหว้ประกอบไปด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน กระดาษเงินกระดาษทอง และของใช้กระดาษที่เชื่อว่าสามารถอุทิศไปให้แก่ผู้ล่วงลับได้ โดยหลังจากนั้นญาติพี่น้องก็จะเริ่มมารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารที่เซ่นไหว้ไปเพื่อความเป็นสิริมงคล และยังแลกเปลี่ยนอั่งเปากันด้วย
ตอนบ่าย จะเป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว โดยใช้เครื่องไหว้ประเภทขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง และรอบนี้จะมีการจุดประทัดเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย
3. วันขึ้นปีใหม่, วันเที่ยว หรือวันถือ
ในปีนี้ตรงกับวันอังคารที่ 22 มกราคาม 2566 ก็คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน วันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปี (วันชิวอิก) ในวันนี้ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน คือ ไป๊เจีย คือ การไปไหว้ขอพร และอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ และมักจะให้แต๊ะเอียกันในวันนี้ด้วย เหตุที่เรียกวันนี้ว่าวันถือ เนื่องจากเป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น
ข้อควรทำและไม่ควรทำเกี่ยวกับบ้านช่วงตรุษจีน
คนจีนมีความเชื่อว่า "บ้าน" นั้นถือเป็นสถานที่อันศิริมงคล ซึ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีน ก็จะความเชื่อว่ามีสิ่งที่ ควร และไม่ควรทำ อยู่หลายข้อด้วยกัน เชื่อกันว่าหากปฏิบัติตามแล้วก็จะมีแต่โชคดีเกิดขึ้น วันนี้เราก็เลยรวบรวมความเชื่อในเรื่องที่ ควร และ ไม่ควรทำ ในช่วงตรุษจีนมาฝากกันด้วยค่ะ
9 ข้อควรทำ
1. ติด "ตุ๊ยเลี้ยง" (กลอนคู่) ที่ประตูบ้าน
การติดคำอวยพรปีใหม่ไว้ที่ประตูบ้าน เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ถ้าไม่มีความรู้ก็จะไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ ซึ่งแหล่งใหญ่ก็คือ เยาวราช คำอวยพรที่เขียนจะประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ทำมาค้าขึ้น ให้มั่งมีเงินทอง ติดตามสองข้างประตูบ้าน และมีอีกแผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก เขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" แปลว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย
2. รวมญาติให้พร้อมหน้า แล้วกินเกี๊ยวร่วมกัน
ปกติในวันตรุษจีน คนจีนก็จะมีการรวมญาติกัน และนิยมกินเกี๊ยวร่วมกันในวันซาจั๊บก่อนขึ้นปีใหม่ โดยเกี๊ยวในความเชื่อของคนจีน จะมีความหมายว่า มั่งมีเงินทอง ร่ำรวยๆ และต้องพับเป็นก้อน เหมือนก้อนเงินของคนจีนในสมัยก่อน
3. มอบอั่งเปา ให้กับเด็กๆ หรือรับอั่งเปาจากผู้อื่น
อีกหนึ่งพิธีกรรมที่เด็กๆ ชอบในวันตรุษจีนเลยก็คือ การรับอั่งเปาจากผู้ใหญ่นั่นเองค่ะ ซึ่งก็จะเป็นซองแดงที่เต็มไปด้วยเงินทอง แต่กลับกัน ถ้าหากเป็นผู้ใหญ่ที่มีงานทำแล้ว ก็จะต้องเป็นฝ่ายให้บ้าง ซึ่งก็จะเป็นความเชื่อว่าจะทำให้เราได้รับเงินทองกลับมามากมายนั่นเอง
4. ไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้ผีไร้ญาติ
วันไหว้ของปีนี้ตรงกับวันที่ 21 มกราคม 2566 การไหว้เจ้าถือเป็นธรรมเนียมที่ยึดถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนา ในตอนเช้าไม่เกินเที่ยงจะเป็นการไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งก็จะมีการเผากระดาษเงิน-กระดาษทอง ซึ่งมีความเชื่อว่าจะนำความสุขมาสู่ครอบครัว พอตอนเที่ยงก็จะเป็นการไหว้ผีไม่มีญาติ ซึ่งจะเป็นในเรื่องการเสริมสิริมงคล
5. ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย
เทพเจ้า "ไฉ่ซิงเอี้ย" คือเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ที่จะช่วยให้โชคลาภในด้านของเงินทอง และทรัพย์สิน เป็นเทพเจ้าที่คนจีนเชื่อกันว่ามีความสำคัญมากที่สุด
6. กินเจในมื้อเช้าของวันตรุษจีน
วันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน เรียกกันว่า วันซิวอิก คนจีนมีความเชื่อว่าจะไม่รับประทานเนื้อสัตว์ จึงต้องกินเจ ให้ความรู้สึกเหมือนกินเจไปตลอดทั้งปี และจะได้บุญ
7. ใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส
ขึ้นชื่อว่าคนจีน ก็ต้องสีแดงไว้ก่อน แต่จะเป็นสีไหนก็ได้ที่เป็นสีสันสดใส และดูเป็นสิริมงคล ที่ไม่ใช่สีขาวดำ นั่นเองค่ะ
8. อวยพรญาติผู้ใหญ่
คนจีนมักจะนิยมไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ โดยจะต้องมีส้ม 4 ผลไปมอบให้ด้วย และอวบพรให้แก่ญาติผู้ใหญ่ให้สขุภาพแข็งแรง เพื่อความเป็นสิริมงคล
9. นำผลไม้มงคลวางไว้ข้างหมอน
ผลไม้มงคลของคนจีนได้แก่ ส้ม ที่หมายถึงความมงคล และลิ้นจี่ ที่หมายถึงผลประโยชน์และเงินทอง โดยนิยมไปวางไว้ข้างหมอนในช่วงวันเทศกาลตรุษจีนทั้ง 3 วัน เพื่อความเป็นสิริมงคล
12 ข้อ ที่ไม่ควรทำ
1. ไม่ควรเข้าไปในห้องนอนผู้อื่น
แม้เจ้าของบ้านป่วย ต้องนอนอยู่ในห้องนอน แต่เมื่อมีแขกมาเยี่ยมก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก อย่าให้แขกเข้ามาเยี่ยมในห้องนอนเด็ดขาด เพราะคนจีนหลายๆ คนถือว่าเป็นโชคร้าย
2. ห้ามทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า การทำความสะอาดบ้าน และทิ้งขยะในวันตรุษจีนนั้น จะเป็นการกวาดเอาโชคลาภ เงินทองออกไปจากบ้าน แม้ว่าบ้านในช่วงวันตรุษจีนจะสกปรกก็ตาม บางคนที่จำเป็นจะต้องทำความสะอาดบ้าน ก็จะเพียงกวาดเศษฝุ่นไปไว้ที่มุมบ้าน แล้วค่อยเอาเศษฝุ่นนั้นไปทิ้งในวันต่อไป ดังนั้น วันตรุษจีน จึงไม่ค่อยมีคนทำความสะอาดบ้าน แต่จะไปทำความสะอาดกันหนึ่งวันก่อนวันตรุษจีน เพื่อที่จะให้บ้านสะอาดรับปีใหม่ และใช้บ้านในการต้อนรับแขกที่จะมาเยี่ยมเยียนอีกทางหนึ่ง
3. ไม่ควรทำของแตกในบ้าน
มีความเชื่อกันว่า การทำสิ่งของแตก เช่น ทำแก้วแตก ทำจานแตก หรือทำกระจกแตก ในวันตรุษจีนนั้น จะหมายถึงลางร้ายที่บอกว่าครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว ดังนั้นในวันนี้ จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้สิ่งของในบ้านแตกหรือชำรุดเสียหาย หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
4. ห้ามสระผม หรือ ดัดผม
ทั้งนี้เพราะคำว่า "ผม" ในภาษาจีน ไปพ้องกับคำว่า มั่งคั่ง จึงมีความเชื่อว่า ไม่ควรตัด หรือสระผม เพราะเชื่อว่าจะไปตัดความมั่งคั่งออกไปนั่นเองค่ะ
5. ห้ามใส่ชุดสีขาว-ดำ
วันตรุษจีน ถือว่าเป็นวันมงคล เพราะฉะนั้นห้ามใส่ชุดสีขาว-ดำ เพราะถือว่าเป็นสีที่ไม่มงคลนั่นเองค่ะ
6. ห้ามพูดคำหยาบ หรือทะเลาะกับผู้อื่น
คนจีนนั้นมีความเชื่อว่า หากพูดสิ่งที่ไม่ดี หรือทะเลาะกับผู้อื่นในวันตรุษจีน จะทำให้เจอแต่เรื่องโชคร้ายไปตลอดทั้งปี จึงต้องหลีกเลี่ยงในการพูดคำหยาบ และระมัดระวังไม่ให้มีเรื่องกับผู้อื่นค่ะ
7. ห้ามร้องไห้
ห้ามร้องไห้ก็เช่นเดียวกันค่ะ ในวันมลคลแบบนี้ไม่ควรร้องไห้ เพราะจะทำให้เจอเรื่องเศร้าไปตลอดทั้งปีเช่นกัน
8. ห้ามใช้มีด-กรรไกร หรือของมีคม
ห้ามใช้ของมีคมทั้งหลาย เช่น มีด กรรไกร คัตเตอร์ หรือของที่สามารถตัดได้ เพราะคนจีนมีความเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ เป็นการตัดความโชคดีออกไปด้วย
9. ห้ามให้ยืมเงิน หรือไปยืมเงินผู้อื่น
การห้ามไม่ให้ยืมเงิน เพราะคนจีนเชื่อว่าจะทำให้มีคนมายืมเงินตลอดทั้งปี และไม่ควรไปยืมเงินผู้อื่นด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้เรามีหนี้ไปตลอดด้วย
10. ห้ามกินโจ๊ก หรือข้าวต้ม
โจ๊ก หรือข้าวต้มในความเชื่อของคนจีนสมัยโบราณคือ เป็นอาหารสำหรับคนยากจน จึงทำให้มีข้อห้ามว่าไม่ควรกินในวันตรุษจีน เพราะจะทำให้ยากจนไปตลอดทั้งปีนั่นเองค่ะ
11. ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
คำว่า รองเท้า ในภาษาจีน เป็นคำพ้องเส่ียงที่ไปตรงกับการถอนหายใจ จึงทำให้มีความเชื่อว่า ไม่ควรซื้อรองเท้า หรือนำเอาเรื่องไม่ดีที่ทำให้เราต้องถอนหายใจเข้ามาในตัวนั่นเองค่ะ
12. ห้ามนอนกลางวัน
การนอนกลางวัน แสดงถึงความขี้เกียจ เพราะฉะนั้นคนจีนจึงเชื่อว่า ไม่ควรนอนกลางวัน เพราะจะทำให้ขี้เกียจไปตลอดทั้งปี
เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ "อั่งเปา" และ "แต๊ะเอีย"
สำหรับ "แต๊ะเอีย" หรือ "อั่งเปา" ที่เรามักพูดถึงกันนั้นถือว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเทศกาลตรุษจีน เด็กๆ หลายคนรอคอยเทศกาลนี้เพราะจะได้ทานขนมอร่อยๆ และรอรับอั่งเปาหรือแต๊ะเอียจากบรรดาญาติผู้ใหญ่ บางคนอาจจะมีความสงสัยว่า "อั่งเปา" และ "แต๊ะเอีย" นั้นแตกต่างกันยังไง ทำไมถึงเรียกไม่เหมือนกัน
อั่งเปา
คือ ซองสีแดงที่ผู้ใหญ่ซึ่งทำงานแล้วหรือผู้ที่มีรายได้ นำมาใส่เงินแล้วนำมาให้ผู้น้อย หรืออาจจะแลกเปลี่ยนกันเองในหมู่ญาติพี่น้อง สีแดงของซองเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความโชคดี และเงินที่บรรจุภายในบางครั้งจะเป็นเลขนำโชค เช่น เลข 8 อ่านในภาษาจีนจะมีความหมายถึงความรุ่งเรือง หรือความร่ำรวย
แต๊ะเอีย
มีความหมายว่า "ของที่มากดหรือทับเอว" หรือ "ผูกไว้ที่เอว" คำนี้มีที่มาจากคนจีนสมัยก่อนจะใช้เงินเหรียญที่มีรูอยู่ตรงกลาง หากจะพกไปไหนก็ต้องร้อยเหรียญเป็นพวงมาผูกไว้ที่เอว และในเทศกาลตรุษจีน ผู้ให้ก็จะนำเชือกสีแดงมาร้อยเหรียญไว้ แล้วมอบให้ผู้รับ ทีนี้ผู้รับก็จะนำพวงเหรียญนี้มาผูกไว้ที่เอว เรียกว่า "แต๊ะเอีย" ในปัจจุบันไม่มีการใช้เงินเหรียญที่มีรูตรงกลางแล้ว "แต๊ะเอีย" จึงมีความหมายถึง "สิ่งของ" หรือ "เงิน" ซึ่งก่อนจะที่เอามาให้ผู้รับจะมีการเอา แต๊ะเอีย ที่ว่านั้นมาใส่ซองสีแดง (อั่งเปา) นั่นเอง ซึ่งจะนิยมให้แต๊ะเอียกันในวันเที่ยว (วันปีใหม่) 
หวังว่าหลายๆท่านคงจะได้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับตรุษจีน และข้อควรทำหรือไม่ควรทำภายในบ้านในช่วงเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2566 นี้ นอกจากนี้ใครสนใจเกี่ยวกับเรื่องฮวงจุ้ยห้องนอน ก็สามารถไปดูต่อได้ที่นี่ค่ะ "ความเชื่อเรื่อง "ห้องนอน" กับศาสตร์ "แดนมังกร" ที่เชื่อไว้ก็ไม่เสียหาย" สุดท้ายนี้ ขอให้มีความสุขในเทศกาลตรุษจีนปีนี้นะคะ "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้"

ขอบคุณข้อมูลจาก worldpopulationreview | akerufeed | thairath | chiangmainews

แท็กที่เกี่ยวข้อง เทศกาลตรุษจีน ตกแต่งบ้าน
Property Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Property Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)