ทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้า : ตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้คอนโดใกล้รถไฟฟ้า?

ช่วงเวลา 2-3 ปีมานี้ ตลาดคอนโดใกล้รถไฟฟ้าราคาเริ่มขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกันขนาดห้องที่ได้ก็กลับเล็กลงสวนทางกับราคาซะอย่างนั้น กลายเป็นว่า "จ่ายเยอะแต่ได้น้อย" ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้า และไม่จำเป็นต้องเป็นคอนโด High-Rise วันนี้ Checkraka มีตัวเลือกที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ ซึ่งก็คือ "ทาวน์โฮม/ทาวน์เฮ้าส์ใกล้รถไฟฟ้า" ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันค่ะว่า ทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้าเมื่อเทียบกับคอนโดแล้วจะมีความน่าสนใจ และเป็นตัวเลือกที่ดีแค่ไหนสำหรับคนมองหาที่อยู่อาศัยซึ่งเดินทางได้สะดวก และตอบโจทย์หลายๆ อย่างที่คอนโดอาจไม่มีให้

คำถามแรกที่พวกเราถามกันมาเยอะเวลามองหาคอนโด หรือทาวน์โฮม คือ "ซื้อทาวน์โฮมหรือคอนโดดี?" หรือ "ซื้อทาวน์โฮมกับคอนโดอะไรคุ้มกว่ากัน?" คำถามนี้ต้องบอกตรงๆ ว่าขึ้นอยู่กับความต้องการเราเป็นหลักเลยค่ะ เช่น บางคนอยู่คนเดียวก็อาจคิดว่าคอนโดสะดวกกว่า หรือบางคนอยากเลี้ยงสัตว์ก็อาจคิดว่าทาวน์โฮมสะดวกกว่า นานาจิตตังค่ะ ซึ่งหลักๆ ข้อดี-ข้อเสีย และข้อแตกต่างระหว่าง 2 ทางเลือกนี้เท่าที่เรารวบรวมมาได้จากกระทู้ pantip และหลายๆ ความเห็นของคนรอบข้าง ก็เป็นดังต่อไปนี้ค่ะ

จากข้อดี-ข้อเสียข้างบนจะเห็นว่าทาวน์โฮมสมัยก่อนมักอยู่ไม่ใกล้รถไฟฟ้ามากนัก แต่หลังๆ ต้องยอมรับว่ารถไฟฟ้าในบ้านเราเริ่มมีส่วนต่อขยายออกไปเรื่อยๆ (เช่นรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) หรือรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) เป็นต้น) และผู้ประกอบการก็สามารถหาที่ดินแปลงใหม่ๆ มาพัฒนาเป็นทาวน์โฮมในระยะที่บางทีก็เดิน หรือขับรถสั้นๆ ไปรถไฟฟ้าได้ไม่ยาก ดังนั้น ทำให้ทาวน์โฮมที่มีโลเคชั่นใกล้รถไฟฟ้ากลายมาเป็นตัวเลือกและคู่แข่งที่น่าสนใจของคอนโดใกล้รถไฟฟ้าได้ไม่น้อยทีเดียว นอกเหนือจากเรื่องโลเคชั่นแล้ว ทาวน์โฮมก็ยังมีข้อดีหลายประการ ซึ่งทาง AP ได้ทำภาพอธิบายถึงข้อดีของการอยู่ทาวน์โฮมใจกลางเมืองไว้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปดูเลยค่ะ

ทำเลแห่งอนาคตจุดหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะมีทั้งคอนโดใกล้รถไฟฟ้าและทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้า คือแนวถนนพหลโยธินของส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ซึ่งตามกำหนดการน่าจะสร้างเสร็จในปี 2561 ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ก็ได้มีบทความเจาะลึกทำเลนี้ หลักๆ คือทางโพสต์ทูเดย์ได้มีการแบ่งทำเลถนนนี้เป็น 3 โซนคือ โซนหมอชิต-ลาดพร้าว โซนรัชโยธิน และโซนสายหยุด (ตามรูปข้างล่าง) ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีทั้งคอนโด ทาวน์โฮม/ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยวกระจัดกระจายกันไป เรียกได้ว่าเป็นโซนซึ่งมีที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ และสามารถเข้าถึงรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้ได้ไม่ยากเลยค่ะ

ขอขอบคุณภาพจาก Posttoday.com

จากที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวตั้งแต่สถานีห้าแยกลาดพร้าวไปจนถึงสถานีคูคตนั้น เราสามารถแบ่งโซนที่พักอาศัยได้เป็น 2 โซนใหญ่ๆ ค่ะ คือ

1) โซนคอนโดมิเนียม ตั้งแต่สถานีห้าแยกลาดพร้าวจนถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ช่วงนี้มีศูนย์กลางคือเซ็นทรัลลาดพร้าว และเมเจอร์ รัชโยธิน เรียกได้ว่ายังอยู่ในพื้นที่ซึ่งค่อนข้างกลางเมือง เดินทางได้ค่อนข้างสะดวก และไม่ไกล ราคาที่ดินถือว่าไม่ถูก ดังนั้น โซนนี้ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจะเน้นพัฒนาเป็นคอนโดส่วนใหญ่ เช่น โครงการ Hi-Rise อย่าง M Ladprao (สถานีห้าแยกลาดพร้าว) หรือโครงการ Low-Rise อย่าง ศุภาลัย คิวท์ รัชโยธิน-พหลโยธิน 34  (สถานีเสนานิคม) ชาโตว์ อินทาวน์ เมเจอร์ รัชโยธิน 2 (สถานีรัชโยธิน) และ Chapter One The Campus เกษตร (สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) เป็นต้น (หากจะดูเพิ่มเติม โปรดดูบทความ "10 คอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่) มากที่สุด" ได้ที่นี่)

2) โซนบ้านแนวราบ ตั้งแต่สถานีกรมป่าไม้ยาวไปจนถึงสถานีคูคต ช่วงสถานีกรมป่าไม้ถึงอนุสาวรีย์หลักสี่จะเป็นหน่วยงานราชการ ทหารเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงอยู่ใกล้กับบริเวณที่ตั้งของสนามบินดอนเมืองจึงไม่สามารถที่จะสร้างคอนโดสูงๆ ได้ โซนนี้ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจึงเน้นพัฒนาเป็นโซนบ้านแนวราบค่ะ เช่น บ้านกลางเมือง พหลโยธิน 50 แต่หลังๆ ก็เริ่มมีการพัฒนาคอนโดมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ไนท์บริดจ์ สกายซิตี้ สะพานใหม่ (สถานีสายหยุด) ซิลค์ เพลส พหลโยธิน หลักสี่ (สถานีอนุสาวรีย์หลักสี่) เป็นต้น   

โครงการทาวน์โฮมหนึ่งที่น่าสนใจซึ่งทาง Checkraka ได้มีโอกาสไปดูของจริงมาในย่านใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต-คูคต) คือโครงการทาวโฮมดูเพล็กซ์ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง "บ้านกลางเมือง รัชโยธิน" ของค่าย AP โครงการนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจสำหรับคนมองหาบ้านพักอาศัยใกล้รถไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นต้องเป็นคอนโด เพราะโครงการนี้อยู่ในซอยเสนานิคม 2 (พหลโยธิน 34) ห่างจากรถไฟฟ้าประมาณ 700 เมตร นอกจากนี้ โครงการนี้ยังตอบโจทย์หลายๆ อย่างที่คนอยู่คอนโดไม่สามารถมีได้ เช่น ให้พื้นที่ใช้สอยมากถึง 193 ตร.ม. จอดรถได้แน่นอน 2 คัน ทำครัวหนักได้ เลี้ยงสัตว์ได้ และอยู่กันได้หลายคนมากถึง 4-5 คนเพราะมี 3 ห้องนอน และยังเป็นทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่แบบดูเพล็กซ์ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่งที่ไม่ค่อยมีในตลาดทาวน์โฮมอีกด้วย สำหรับซอยเสนานิคม 2 นี้ หากนั่งรถไฟฟ้า BTS จะใช้เวลาประมาณ 25 - 30 นาทีเท่านั้น ( 11 สถานี) ก็จะเข้าถึง BTS สถานีสยามได้สบายๆ โดยซอยนี้ช่วงหลังๆ มีแต่ผู้ประกอบการที่พัฒนาคอนโด Low-Rise กันหมด จะมีก็โครงการนี้แหละค่ะที่ AP ฉีกแนว และแตกต่างทำเป็นทาวน์โฮมคอนเซปต์ใกล้รถไฟฟ้า เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นมากๆ ที่ AP มีทาวน์โฮมในทำเลคอนโดค่ะ

ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยเสนานิคม 2 จะเห็นว่าในละแวกนั้นจะเป็นคอนโด Low-rise ซึ่งทำให้เห็นว่าที่ดินแถบนี้มีความต้องการสูง เป็นทำเลฮิตดังนั้นผู้ประกอบการจึงมักจะสร้างคอนโดแทนการสร้างเป็นบ้านหรือทาวน์โฮม แต่ "บ้านกลางเมือง รัชโยธิน" เป็นทาวน์โฮมทาวโฮมดูเพล็กซ์ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง แห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางกรุงเทพแห่งนี้ 

 
เรียกได้ว่าเป็นทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้าอย่างแท้จริงค่ะ เพราะตัวโครงการห่างจาก BTS สถานีเสนานิคมเพียง 700 เมตร

โครงการบ้านกลางเมือง รัชโยธิน มีจุดเด่นตรงที่มี 3.5 ชั้น ตัวบ้านจึงสูงถึง 14.5 เมตร
และความสูงเทียบได้กับคอนโด  Low-Rise โดยรอบเลยค่ะ 

ทาวน์โฮมพื้นที่ใช้สอยจะมากกว่าคอนโดจึงทำให้ไม่อึดอัดระหว่างการอยู่อาศัย อย่างเช่นบ้านกลางเมืองมี
พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. และสูงถึง 14.5 เมตร ในขณะที่คอนโดอาจจะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 50-60 ตร.ม. เท่านั้น

ทาวน์โฮมมีที่จอดรถแน่นอน ไม่ต้องคอยลุ้นเหมือนคอนโดว่าจะมีที่จอดหรือไม่ ซึ่งที่จอดรถสำหรับคอนโดมิเนียม
ส่วนใหญ่ก็จะมีเพียง 40-50% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดเท่านั้น

จุดเด่นของ "บ้านกลางเมือง รัชโยธิน"  คือพื้นที่รับแขกจากพื้นถึงเพดานสูงถึง 5.5 เมตร
ใขณะที่คอนโดเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2.8 เมตรเท่านั้น

ทาวน์โฮมมีพื้นที่มากพอสำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัว สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 6-8 ที่นั่ง ได้สบายๆ
แต่คอนโดวางได้มากสุดก็อาจจะแค่เพียง 4 ที่นั่ง

ทาวน์โฮมจะมีครัวแยกออกมาให้ หรืออาจจะเป็นมุมครัวให้และทำประตูกั้นเอง
แต่คอนโดส่วนใหญ่จะได้แค่ Pantry เล็กๆ ทำอาหารได้ไม่สะดวก

ทาวน์โฮมสามารถต่อเติมได้ซึ่งส่วนใหญ่มักจะต่อเติมพื้นที่หลังบ้านเป็นครัวไทย แต่คอนโดนั้นไม่สามารถที่จะต่อเติมได้ค่ะ

ความโดดเด่นอีกอย่างก็คือแบบ Duplex นี้จะสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่รับแขกด้านล่าง
แต่ก็ยังมีความเป็นส่วนตัว เป็นพื้นที่พิเศษที่หาได้ยากในคอนโด

ทาวน์โฮมมีหลายห้องสามารถปรับได้ตามไลฟ์สไตล์ของเราเอง เช่น อยากให้ชั้นลอยเป็นห้องทำงานหรือห้องสมุดก็ได้
แต่คอนโดมีห้องที่จำกัด ฟังก์ชันการใช้งานอาจจะต้องรวมๆ กันอยู่ในห้องเดียว

พื้นที่ของคอนโดส่วนใหญ่จะน้อย พื้นที่สำหรับเก็บของก็ไม่ค่อยมี แต่ถ้าหากเป็นทาวน์โฮมจะมีที่เก็บของ โดยเฉพาะบ้านกลางเมือง รัชโยธิน ที่ทำห้องเก็บของให้หลายจุดมาก เพราะทำการวิจัยจากความต้องการของลูกค้าจริงๆ

ห้อง Master bedroom ของทาวน์โฮมมีขนาดใหญ่ ในขณะที่คอนโดแบบ Studio
ทั้งห้องอาจจะมีพื้นที่เท่ากับห้องนอนนี้ห้องเดียวก็เป็นได้

หลายท่านอาจจะชอบวิวสูงๆ ซึ่งทาวน์โฮมบ้านกลางเมืองสามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ค่ะ
เพราะมีความสูงเท่ากับชั้นที่ 5 ของคอนโดโลว์ไรส์ในละแวกนี้เลย

บ้านกลางเมือง รัชโยธิน มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ หากจะหาคอนโดที่มีฟังก์ชันแบบนี้ราคาคงสูงมากแน่ๆ 

ส่วนกลางของโครงการบ้านกลางเมือง รัชโยธิน มีให้มาไม่แพ้กับคอนโดเลยค่ะ
มีครบทั้งสวน สระว่ายน้ำและฟิตเนสให้ออกกำลังกาย

หากดูคุณสมบัติหลายๆ อย่างของ "บ้านกลางเมือง รัชโยธิน" ตามภาพข้างบนแล้ว จะเห็นได้ว่าจุดเด่นที่ใกล้รถไฟฟ้าประมาณ 700 เมตรทำให้โครงการนี้มีความโดดเด่นขึ้นมาทันที เพราะเป็นการลบข้อด้อยที่หลายๆ คนมองว่าทาวน์โฮมมักไกลจากรถไฟฟ้า และต้องมีรถถ้าจะอยู่ทาวน์โฮมไปได้ไม่น้อยเลย นอกจากนี้การอยู่ทาวน์โฮมแบบนี้ ก็จะทำให้เรามีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกเยอะ ทั้งห้องน้ำหลายห้อง มีห้องทำงานก็ได้ ทำครัวหนักก็ได้ เลี้ยงสัตว์ก็ได้ และจอดรถก็สะดวกไม่ต้องแก่งแย่งกัน โดยโครงการนี้เริ่มต้นด้วยราคาประมาณ 7.9 ล้านบาท ซึ่งหากเราคำนวณเล่นๆ เป็นตารางเมตรเทียบกับคอนโด Low-Rise บริเวณใกล้เคียงแล้ว จะได้ตัวเลขออกมาประมาณนี้ค่ะ

ชื่อโครงการ	ปีที่เปิดตัว	ราคาเฉลี่ย/ตร.ม.
เดอะ คีย์ พหลโยธิน	2010	ประมาณ 70,000 บาท
ยู ทู คอนโด	2013	ประมาณ 61,000 บาท
ศุภาลัย คิวท์ รัชโยธิน พหลโยธิน 34	2014	ประมาณ 55,102 บาท
ยู รัชโยธิน	2012	ประมาณ 53,000 บาท
บ้านกลางเมือง รัชโยธิน	2014	ประมาณ 41,400 บาท

ดังนั้น ถ้ามองในแง่ "ความคุ้มค่า" ในด้านราคาเทียบกับคอนโด Low-Rise บริเวณใกล้เคียง ประกอบกับจุดเด่นของทาวน์โฮมหลายๆ อย่างในโครงการนี้แล้ว ก็เรียกได้ว่า "บ้านกลางเมือง รัชโยธิน" ดูเหมือนจะชนะขาดไปเลยค่ะ นี่คือเหตุผลที่เราจึงมองว่า ทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้าน่าจะเป็นตัวเลือกที่พวกเราควรหันมามอง และนอกจากเรื่องของทำเล แบบบ้านดีไซน์ใหม่ และราคาที่คุ้มค่าแล้ว "บ้านกลางเมือง รัชโยธิน" ยังมีโซนใหม่ที่มอบความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านอีกด้วย นั่นก็คือ "Private Zone" โซนนี้จะมีแค่ 29 หลัง หน้าบ้านไม่ชนกัน ไม่รู้สึกแออัดค่ะ อีกทั้งโครงการนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้านั้นจริงๆ แล้วก็ "มีดี" และ "คุ้มค่า" ไม่แพ้คอนโดใกล้รถไฟฟ้าที่หลายคนนิยมซื้อหากันเลยนะคะ

หากใครสนใจจะลองหาทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้าก็ลองเข้าไป Search หาในเว็บไซต์ www.checkraka.com เราได้ หรือถ้าใครเห็นรูปสวยๆ ของโครงการ "บ้านกลางเมือง รัชโยธิน" นี้แล้วเกิดสนใจขึ้นมา ก็เข้าไปลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษของโครงการนี้จากทาง AP ในราคาพิเศษ 7.69 ล้านบาทได้ที่ด้านล่างนี้เลยนะคะ แล้วพบกับเนื้อหาดีๆ น่าสนใจเกี่ยวกับบ้าน ทาวน์โฮม และคอนโดจากเราได้คราวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

(คลิกลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ)