บลจ.ทิสโก้เปิดเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส แนสแดค ทริกเกอร์ 5M#2 ต่อเนื่อง หลังจากที่กองแรกถึงเป้าหมายโดยใช้ระยะเวลา 3 เดือนเศษ โชว์สถิติดัชนี Nasdaq 100 มักจะฟื้นตัวแรง ขณะที่ปัจจัยบวกรอเพียบ ทั้งกลุ่มหุ้นเติบโต (Growth stock) ที่กลับมาน่าสนใจอีกครั้งหลัง Fed มีแนวโน้มหยุดขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่อัตราราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ดัชนี Nasdaq 100 ลงมาจนเข้าใกล้ค่าเฉลี่ย 5 ปี มั่นใจบริหารกองทุนถึงเป้าหมายมีมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาทได้ใน 5 เดือน เปิด IPO 6 - 9 ก.พ. 66
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan Deputy Managing Director of TISCOASSET) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นกลุ่มเติบโต (Growth stock) ปรับตัวลดลงเพราะได้รับแรงกดดันจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้นตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แต่ในปีนี้ บลจ.ทิสโก้มองว่าหุ้นกลุ่มเติบโต โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีในดัชนี Nasdaq 100 จะพลิกกลับมาฟื้นตัวแรง เพราะ อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันราคาหุ้นเทคโนโลยีน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และคาดการณ์ว่า Fed มีแนวโน้มหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ตามสถิติที่ผ่านมา หากปีก่อนหน้าดัชนี Nasdaq 100 ปรับลงมาก ปีถัดมาดัชนีมักจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เช่น ปี 2545 ที่ดัชนี Nasdaq 100 ปรับลง -37.58% ในปีถัดมาคือปี 2546 ดัชนีฟื้นตัว +49.12% ต่อมาในปี 2551 ดัชนี Nasdaq 100 ปรับลง -41.89% แต่ในปี 2552 ดัชนีฟื้นตัวแรง +53.54% ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมาดัชนี Nasdaq 100 ปรับลง -28.27% จึงมีโอกาสที่ในปี 2566 ดัชนีจะปรับขึ้นแรงเหมือนในอดีต ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
อีกทั้ง หากดูในเชิงพื้นฐานราคาหุ้นพบว่าปัจจุบันดัชนี Nasdaq 100 เทรดในระดับราคาที่ไม่สูงเกินไป โดยมีอัตราราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ขณะที่ต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลงจากการทยอยปรับลดคนของบริษัทเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย
นายสาห์รัช กล่าวอีกว่า จากประเด็นข้างต้น บลจ.ทิสโก้มองว่าช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุนหุ้นเทคโนโลยีในดัชนี Nasdaq 100 จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส แนสแดค ทริกเกอร์ 5M#2 (TNDQT5M2) ต่อเนื่องจากกองทริกเกอร์ Nasdaq 100 กองแรกที่ถึงเป้าหมายไปในระยะเวลา 3 เดือนเศษ โดยกองทุนมีความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco QQQ Trust, Series 1 ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แนสแดค ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาท/หน่วย ภายในระยะเวลา 5 เดือน เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 6 - 9 กุมภาพันธ์ 2566 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท
"บลจ.ทิสโก้มั่นใจว่าจะสามารถบริหารกองทุนให้หน่วยลงทุนมีมูลค่าเป็นไปตามเป้าหมายในระยะเวลาที่กำหนด เพราะปัจจัยบวกของหุ้นเทคโนโลยีมีอยู่มาก และจากสถิติก็ชี้ให้เห็นว่าปีนี้หุ้นเทคโนโลยีมีโอกาสฟื้นตัวแรง และตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 30 มกราคม 2566 หุ้นเทคโนโลยีที่เคยปรับลดลงอย่าง Amazon และ Tesla ก็กลับมาฟื้นตัวแรงอีกครั้ง" นายสาห์รัชกล่าว
โดย ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 บลจ.ทิสโก้ออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์มาแล้วทั้งหมด 137 กองทุน (ถึงเป้าหมายในระยะเวลา 79 กองทุน และถึงเป้าหมายนอกระยะเวลาลงทุน 31 กองทุน) มีกองทุนที่อยู่ระหว่างลงทุน 7 กองทุน (ยังไม่ถึงเป้าหมายและเกินกว่ากำหนดเวลาลงทุน 6 กองทุน) และกองทุนไม่ถึงเป้าหมายและเลิกกองทุนแล้ว 20 กองทุน
ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงระยะเวลา 5 เดือนได้ ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก การกำหนดเป้าหมาย 10.50 บาทต่อหน่วย ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุน หากหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ลงทุนสามารถซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ โดยกองทุนยังคงมีเป้าหมายเลิกโครงการเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ เป้าหมายเลิกโครงการเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี)
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4