บลจ.ทิสโก้เสิร์ฟกองทุนเปิด ทิสโก้ เวียดนาม อิควิตี้ ชี้จังหวะเหมาะลงทุน หลังราคาลงมาแตะจุดต่ำสุดรอบ 7 ปี สวนทางอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) สูงล่อใจที่ 24.6% โดยที่ระยะกลางถึงระยะยาวมีปัจจัยบวกรออยู่เพียบ ทั้งค่าแรงถูกเอื้อต่างประเทศแห่ลงทุนตรง ด้านบริโภคในประเทศคึกคัก หนุนเศรษฐกิจโต 7.2% เด่นสุดในอาเซียน เปิด IPO 17 - 24 พฤษภาคม 2565
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลงจากความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม (VNINDEX) ปรับตัวลงมาแล้ว 15.12% ลงมาเทรดที่ระดับอัตราปิดต่อราคาต่อหุ้น (P/E) ที่ 13.1 เท่า ต่ำสุดในรอบ 7 ปี สวนทางกับอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ที่เติบโตในระดับสูง โดยข้อมูลจาก Bloomberg คาดว่า ในปี 2565 – 2566 อัตรา EPS Growth ของตลาดหุ้นเวียดนามจะอยู่ที่ระดับ 24.6% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในอาเซียน
ดังนั้น การที่ดัชนีหุ้นเวียดนามปรับตัวลงมา บลจ.ทิสโก้มองว่าเป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าลงทุน เพราะทำให้มูลค่าหุ้น (Valuation) อยู่ในระดับต่ำจนน่าสนใจ นอกจากนี้ ในระยะกลางเวียดนามยังมีปัจจัยบวกรออยู่จำนวนมาก เช่น สภาพคล่องในตลาดหุ้นเริ่มสูงขึ้น ข่าวดีเรื่องการนำดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามร่วมคำนวณในดัชนี MSCI EM ในปี 2568 ทำให้หุ้นขนาดใหญ่ได้ประโยชน์ ในด้านเศรษฐกิจเองก็เริ่มเห็นกิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัวรับการเปิดประเทศ ค่าเงินมีเสถียรภาพจากทุนสำรองต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น หนี้ต่างประเทศต่ำและดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นบวกนับตั้งแต่ปี 2554
และด้วยค่าแรงขั้นต่ำที่อยู่ในระดับต่ำทำให้มูลค่าการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การบริโภคในประเทศยังคงคึกคัก เพราะในปี 2564 เวียดนามมีประชากรวัยทำงานมากถึง 49 ล้านคน และจำนวนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 ที่ผ่านมาชนชั้นกลางของเวียดนามมีสัดส่วนมากถึง 41% ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าในปี 2573 จะเพิ่มเป็น 74% ของจำนวนประชากรทั้งหมด* จากปัจจัยบวกข้างต้นทำให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าในปี 2565 เศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโต 6% ขณะที่ปี 2566 จะเติบโต 7.2% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในอาเซียน
ดังนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสลงทุนในประเทศดาวรุ่งของเอเชียอย่างเวียดนาม บลจ.ทิสโก้จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ เวียดนาม อิควิตี้ (TVIETNAM) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุน ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศเวียดนามหรือจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประเทศเวียดนาม หรือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลักหรือมีรายได้หลักจากการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม เสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 17 - 24 พฤษภาคม 2565 มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก 1,000 บาท
นายสาห์รัชกล่าวว่า เบื้องต้นกองทุน TVIETNAM จะกระจายความเสี่ยงเข้าไปลงทุนในหุ้นเวียดนามผ่าน 3 กองทุนหลัก คือ 1. กองทุน LionGlobal Vietnam Fund 2. กองทุน Lumen Vietnam Fund และ 3. กองทุน Vietnam Equity (UCITS) Fund ทั้งนี้ เพื่อให้กองทุนมีการกระจายการลงทุนไปยังกลุ่มหุ้นเวียดนามทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เพื่อให้ความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมไม่กระจุกตัวยังกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ส่วนตัวอย่างบริษัทที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุน เช่น Vietcombank เป็นธนาคารของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการให้บริการสินเชื่อเพื่อการนำเข้าและส่งออก ซึ่งเป็นกลจักรสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเวียดนาม มีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปี (CAGR) ตั้งแต่ปี 2559 – 2563 อยู่ที่ 17.31% ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ไตรมาส 4/2564 อยู่ในระดับต่ำที่ 0.64% อีกตัวอย่างคือ HOA PHAT ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์เหล็ก และท่อเหล็กอันดับ 1 ในเวียดนาม ซึ่งรายได้และกำไรมีโอกาสเติบโตไปตามเศรษฐกิจของเวียดนามที่มีแนวโน้มเติบโตสูง
พิเศษสำหรับลูกค้าที่มียอดเงินลงทุนในกองทุน TVIETNAM ตั้งแต่วันที่ 17 - 24 พฤษภาคม 2565 ตั้งแต่ 10 - 19.99 ล้านบาท รับทองคำหนัก 1 สลึง ตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป รับทองคำหนัก 2 สลึง และต่อที่สอง สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ลงทุนกองทุน TVIETNAM ผ่านช่องทาง eInvest และ TISCO My Funds ตั้งแต่วันที่ 17 - 24 พฤษภาคม 2565 ทุกๆ ยอดเงินลงทุนสะสม 50,000 บาท รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสั้น (TISCOSTF) มูลค่า 100 บาท สูงสุด 1,000 บาท
กองทุนเปิด TVIETNAM อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนรวม โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนที่ได้เปิดเผยไว้ที่ www.tiscoasset.com และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds