ธนาคารกสิกรไทย (กสิกรไทย) ประเมินว่ามาตรการเปิดใหม่ของไทยที่จะดําเนินการในวันที่ 1 พฤษภาคมจะผลักดันให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาไม่น้อยกว่า 300,000 คนต่อเดือนโดยเฉลี่ย เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรายเดือน 166,000 คนในไตรมาสแรก ซึ่งจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 900,000 ล้านบาท ทั้งการเดินทางทั้งขาเข้าและภายในประเทศ เพิ่มขึ้นกว่า 650,000 ล้านบาทจากปีก่อน ธนาคารเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อให้บริการลูกค้ารายย่อยและธุรกิจซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมการท่องเที่ยวขาออกและขาเข้า ด้วยเหตุนี้บริการบูธแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะกลับมาดําเนินงานในกว่า 800 แห่ง โครงการอื่นๆ จะรวมถึงบัตรไร้เงินสดเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ 'New Normal' รวมถึงบัตรเดบิต KBank JOURNEY และบัตร YouTrip นอกจากนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายย่อย เช่น โรงแรม และร้านอาหารจะได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยช่องทางบริการใหม่ – แพลตฟอร์ม TAGTHAi ต่อจากนั้นเราควรจับตาดูการประกาศสถานการณ์โควิด-19 ที่จะเกิดขึ้นของประเทศไทยอย่างใกล้ชิดว่าเป็นถิ่นกําเนิด รวมถึงการประกาศมาตรการภายใต้แนวทางโควิด-19 ฉบับใหม่ที่มุ่งหวังที่จะอยู่กับการแพร่ระบาด
ดร. นายพิพัฒน์พงศ์ โพชยานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะเปิดให้บริการอีกครั้งผ่านการยกระดับมาตรการ Test & Go ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ นอกจาก 104 ประเทศที่เปิดให้บริการอย่างเต็มที่สําหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว (ที่มา: www. วีโก้ คอม) จะฟื้นฟูกิจกรรมการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวทั่วโลกหลังจากเผชิญกับวิกฤต COVID-19 มานานกว่าสองปี จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่าจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยคาดว่าจะมีจํานวนไม่น้อยกว่า 300,000 คนต่อเดือนโดยเฉลี่ยในไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2565 เทียบกับค่าเฉลี่ยของไตรมาสแรกที่ 166,000 คน ตลอดทั้งปีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวควรสูงถึงประมาณ 4 ล้านคน สร้างรายได้รวมประมาณ 240,000 ล้านบาทจากนักท่องเที่ยวขาเข้า จากสถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศที่ฟื้นตัว – ได้รับการสนับสนุนจากเทศกาลสงกรานต์และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ได้แก่ 'We Travel Together' และ 'Let's Go Halves' ใบเสร็จรับเงินการท่องเที่ยวปี 2565 ของประเทศไทยจะสูงถึงประมาณ 900,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 650,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ปี 2021 ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากประเทศและสถานที่ท่องเที่ยวเช่นเกาหลีใต้สิงคโปร์บาหลีและอินโดนีเซียยกเลิกข้อกําหนด การกักกันของตนเอง
ในรูปแบบการเดินทางในปัจจุบันนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็น FITs หรือ Free Individual Traveller โดยมีจุดประสงค์เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจหรือเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการทํางานเป็นแหล่งท่องเที่ยว ('workcations') เพื่อเตรียมความพร้อมสําหรับเรื่องนี้ธนาคารพร้อมที่จะให้บริการสิ่งอํานวยความสะดวกทางการเงินสําหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติดังต่อไปนี้:
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทย
- จุดบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกว่า 800 จุดที่ครอบคลุมเว็บไซต์สําคัญสําหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเช่นสนามบิน เครื่อง แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และสาขาธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ ซึ่งอํานวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อีกไม่นานธนาคารจะเปิดตัวบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศรูปแบบใหม่ตาม ไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยว แบบ 'new normal'
- มาตรการที่มุ่งสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก เน้นการสร้างความมั่นใจว่าพวกเขามีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรักษาธุรกิจของตน นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการส่งเสริมแอปพลิเคชัน TAGTHAi ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการด้านการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ และบริการของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว นอกจากนี้ TAGTHAi Pass – บริการบัตรผ่านดิจิทัลบน TAGTHAi จะมอบให้กับนักท่องเที่ยวเพื่ออํานวยความสะดวกในการชําระเงินเพียงครั้งเดียว ทําให้สามารถเข้าถึงบริการด้านการท่องเที่ยวที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากประชาชนในท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น รวมถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สําคัญ ร้านอาหาร บริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง สปา และศูนย์สุขภาพ พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีช่องทางการบริการใหม่สําหรับผู้ประกอบการรายย่อยในธุรกิจท่องเที่ยวเช่นผู้ที่เป็นเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์เพื่อขยายการเข้าถึงไปยังฐานนักท่องเที่ยวที่กว้างขึ้นผ่าน TAGTHAi
นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ
- บัตรไร้เงินสดสําหรับค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในช่วง 'New Normal' ได้แก่ บัตรเดบิต KBank JOURNEY ซึ่งช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถชําระผ่านสกุลเงินใดก็ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลงค่าปรับที่ 2 ร้อยละ 5 และประกันการเดินทางระหว่างประเทศคุ้มครอง 1. 5 ล้านบาท ฟรี นอกจากนี้บริการ YouTrip - กระเป๋าเงินหลายสกุลเงิน - ช่วยให้ลูกค้าสามารถแลกเปลี่ยน 10 สกุลเงินล่วงหน้าทําการซื้อในกว่า 150 สกุลเงินและใช้บัตร YouTrip โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลง 2 ร้อยละ 5 ธุรกรรมทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่าย
ดร. นายพิพัฒน์พงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีการปรับปรุงโดยทั่วไป ปัจจัยหลายประการยังคงส่งผลเสียต่อจํานวนนักท่องเที่ยว เช่น นโยบาย ZERO-CO VID ของจีน ซึ่งทําให้จํานวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเยือนไทยต่ํากว่าสถานการณ์ปกติ และวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อจํานวนนักท่องเที่ยวชาวยุโรปโดยรวม หากบานปลายเข้าสู่สงครามที่กว้างขึ้น ในทางกลับกันเราควรจับตาดูการประกาศ COVID-19 ที่จะเกิดขึ้นของประเทศไทยอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเฉพาะถิ่นและมาตรการที่เกี่ยวข้องในการจัดการกับไวรัสอาจช่วยค่อยๆกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ