เช็กลิสต์ หุ้นผลประกอบการดี ที่ใครๆ ก็อยากมีเก็บไว้ในพอร์ต พร้อมเช็กโปรโมชันลงทุนดีๆ ในงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ส่งท้ายปี ครั้งที่ 5 ที่นี่!!

ปี 2565 เป็นปีที่เศรษฐกิจ และตลาดหุ้นไทย กลับมาคึกคักจากการกลับมาเปิดเมืองเต็มรูปแบบรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผลประกอบการไตรมาส 2/2565 กำไรสุทธิรวม 346,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% (QoQ) และ 26.6% (YoY) เป็นกำไรสุทธิที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์

แต่หากไม่นับรวมผลประกอบการกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น พลังงาน อาหาร กำไรสุทธิทั้งตลาดอาจโตเพียง 5% (QoQ) และ 3% (YoY) ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์เคลื่อนไหวตามวัฏจักรเศรษฐกิจ และกำลังมีแนวโน้มชะลอตัว ดังนั้นหลังจากนี้ภาพรวมผลประกอบการตลาดหุ้นไทยอาจเติบโตไม่มาก

หากจะเลือกลงทุนหุ้นในตลาดหุ้นไทยก็ควรเลือกหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี แต่หลายคนคงสงสัยว่าผลประกอบการดีเป็นอย่างไร ไปดูได้จากที่ไหน แล้วต้องดูตัวเลขอะไรบ้าง
หุ้นผลประกอบการดีมีหน้าตาเป็นอย่างไร ดูได้ที่ไหน ควรดูตัวเลขอะไรบ้าง

เริ่มต้นจากผลประกอบการดูได้ที่ไหน สามารถดูได้จาก www.set.or.th แล้วพิมพ์ชื่อหุ้น จากนั้นคลิกงบการเงิน ก็จะพบกับผลประกอบการสำคัญย้อนหลัง ถ้าหากต้องการผลประกอบการเชิงลึกก็สามารถเปิดเว็บไซต์ของบริษัท กดที่ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ ซึ่งจะมีเผยแพร่งบการเงินฉบับสมบูรณ์

หุ้นผลประกอบการดีไม่จำเป็นต้องมีรายได้ และกำไรเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะแทบไม่มีบริษัทใดที่มีผลประกอบการเติบโตได้สูง และยาวนาน มากกว่านั้นหากบริษัทใดที่รายได้ และกำไรเติบโตรวดเร็วก็มักตามมาด้วยความคาดหวังที่สูง ราคาหุ้นก็จะพุ่งแรงเกินมูลค่าพื้นฐานไปมาก

นักลงทุนควรดูตัวเลขรายได้ และกำไรสุทธิที่สม่ำเสมอ อัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิคงที่หรือเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารคงที่หรือลดลง โดยสามารถวิเคราะห์รูปแบบธุรกิจประกอบไปด้วย ซึ่งควรเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม มีความสามารถแข่งขัน หรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่มีคู่แข่งน้อยรายหรือผูกขาด

 

 

ปี 2555 มีรายได้อยู่ที่ 19,540.96 ล้านบาท แตะจุดสูงสุดปี 2562 ที่ 38,402.81 ล้านบาท และลดลงเมื่อเจอ COVID-19 ปี 2564 อยู่ที่ 30,397.53 ล้านบาท กำไรสุทธิ ปี 2555 อยู่ที่ 6,251.85 ล้านบาท เพิ่มไปสูงสุดปี 2562 ที่ 11,809.25 ล้านบาท จากนั้นปี 2564 ลดมาที่ 7,229.95 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 67-79% อัตรากำไรสุทธิ 29-32% ซึ่งปี 2564 รับผลกระทบจาก COVID-19 ลดมาที่ 23.78% ขณะที่อัตราส่วนการขายและบริหารต่อรายได้อยู่ที่ 14-18%

จะเห็นว่าผลประกอบการมีความสม่ำเสมอ ผันผวนต่ำ มีความสามารถบริหารต้นทุนดี ซึ่งมาจากรูปแบบธุรกิจที่ค่อนข้างผูกขาดในธุรกิจศูนย์การค้า รายได้จากการให้เช่าพื้นที่ 87% เช่าออฟฟิศ 4% โรงแรม 3% และที่พักอาศัย 7%

CPALL - บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

นับเป็นผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ค้าส่ง Makro และค้าปลีก Lotus แทบไม่ต้องพูดถึงอำนาจต่อรองทางธุรกิจที่ทำให้บริหารต้นทุนได้ดี ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา รายได้เติบโตสม่ำเสมอทุกปี กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2557 รายได้ และกำไรสุทธิอาจมีลดบ้างช่วง COVID-19 ซึ่งกลับมาฟื้นตัวแล้วหลังเปิดเมือง ไตรมาส 3/2565 อัตรากำไรขั้นต้นฟื้นมาที่ 77.5% อยู่ในระดับเดียวกับก่อน COVID-19 ที่ 76-79% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 2.13% ต่ำกว่าก่อน COVID-19 ที่ 3-4%

GULF - บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเมื่อปี 2560 รายได้ก็เติบโตทุกปี ส่วนกำไรสุทธิมีลดลงปี 2563 เพียงปีเดียว อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มมาที่ระดับ 90-94% อัตรากำไรสุทธิคงที่ระดับ 18-24% อัตราส่วนการขายและบริหารต่อรายได้ลดลงต่อเนื่องจาก 21.05% เมื่อปี 2560 มาที่ 4.6% ในปี 2564

GULF เป็นผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าของประเทศ รายได้ 80.2% มาจากธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 9.2% มาจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียน 7.2% มาจากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค และ 2.3% มาจากการลงทุนบริษัทอื่น ซึ่ง GULF กำลังเพิ่มช่องทางรายได้ผ่านการซื้อหุ้นบริษัท INTUCH และ THCOM

BDMS - บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)

 

ผู้นำธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ทุกคนคงรู้จักชื่อ โรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นอย่างดี นอกจากธุรกิจโรงพยาบาล แล้วยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลิต และจำหน่ายยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ ปีนี้รับประโยชน์จากการเปิดเมือง รายได้จากผู้ป่วยชาวไทย 77% ผู้ป่วยต่างชาติฟื้นกลับมาที่ 23%

ข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี ชี้ว่ารายได้ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทุกปี ก่อนจะลดลงจากผลของ COVID-19 ซึ่งไตรมาส 3/2565 รายได้ และกำไรสุทธิกลับมาสูงกว่าก่อน COVID-19 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 75-79% อัตรากำไรสุทธิ 10-15% อัตราส่วนการขาย และบริหารต่อรายได้ 19-20% นับว่าบริหารต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้ดีมาก

COM7 - บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน)

 

มีรายได้หลักจากธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแม้จะต้องปิดสาขาจากนโยบาย COVID-19 แต่สินค้าได้รับประโยชน์จากการ Work From Home อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่สอดคล้องกับยุคดิจิทัล รายได้ และกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 อัตรากำไรขั้นต้นปี 2559 ต่ำสุดที่ 88.45% ก่อนปี 2564 เพิ่มมาที่ 92.59% เช่นเดียวกับอัตรากำไรสุทธิซึ่งจาก 1.47% เมื่อปี 2557 มาที่ 5.14% ในปี 2564 สะท้อนชัดว่าบริหารต้นทุนได้ดีขึ้นต่อเนื่อง ตอกย้ำด้วยอัตราส่วนการขาย และบริหารต่อรายได้ที่ลดลงทุกปี

AOT - บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

 

พูดถึงการท่องเที่ยวก็ต้องนึกถึงการบิน นึกถึงการบินก็ต้องคิดถึงสนามบิน ไม่มีใครไม่รู้จัก AOT ซึ่งบริหารท่าอากาศยานรวม 6 แห่ง โดยมีรายได้จากกิจการการบิน เช่น ค่าธรรมเนียมการขึ้นลงของอากาศยาน ค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน เป็นต้น และอีกแหล่งรายได้มาจากที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน เช่น ค่าเช่าสำนักงาน และอสังหาฯ รายได้จากการให้บริการ

ช่วงก่อน COVID-19 ระบาด รายได้ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อกลับมาเปิดเมืองก็หนุนผลประกอบการฟื้นตัว เช่นเดียวกับอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจาก 58.74% ไปที่ 69.16% ส่วนอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 40% ก่อนร่วงแรงหลังเจอ COVID-19 อัตราส่วนการขาย และบริหารต่อรายได้เคยลงไปแตะจุดต่ำสุดเมื่อปี 2561 ที่ 28.61% จากก่อนหน้าที่เคยอยู่ในระดับประมาณ 34-36%

---