แน่นอนว่าทุกคนที่เข้าสู่โลกการลงทุน ก็ล้วนอยากได้รับผลตอบแทนที่สูง เพราะอัตราดอกเบี้ยจากเงินฝากธนาคารก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ไม่เหมือนสมัย 30 ปีก่อน ที่เพียงแค่ฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์เฉยๆ ก็ได้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 10% แต่นอกจากเรื่องผลตอบแทนแล้ว อีกปัจจัยที่เพื่อนๆ ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือเรื่องของความเสี่ยงและการลงทุนให้เหมาะสมตามช่วงวัย
สำหรับใครที่ต้องการลงทุนระยะยาว แต่ไม่รู้จะจัดพอร์ตการลงทุนยังไงดี การลงทุนที่สอดคล้องกับช่วงวัย จะเป็นตัวช่วยให้เราลงทุนสำเร็จตามเป้าหมายได้
หากในตอนนี้เรายังมีอายุไม่มาก ยังมีเวลาสร้างรายได้ให้กับตัวเองไปอีกนาน ก็ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงสูง เพื่อให้มีได้รับโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงมากขึ้น แต่ถ้าตอนนี้อายุเริ่มสูงขึ้น ก็ไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงสูงมากเท่าไหร่ เพราะมีเวลาในการสร้างรายได้ที่ลดลงแล้ว ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากกว่า
แล้วแต่ละช่วงวัย ควรจะจัดพอร์ตการลงทุนยังไง บทความนี้จะเล่าให้ฟัง
วัยเริ่มต้นทำงาน (อายุ 21-30 ปี)
เป็นวัยที่มีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานที่สุด เรียกได้ว่าได้เปรียบในการลงทุนมากที่สุดเลยล่ะ เพราะเป็นวัยที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน อาจจะยังมีไม่มีภาระค่าใช้จ่ายมาก และยังมีเวลาสร้างรายได้ไปอีกนาน ดังนั้นวัยนี้สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้สูง เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนในระยะยาว ที่ยังมีเวลาลงทุนในอีกหลาย 10 ปี
พอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม หุ้น 70% ตราสารหนี้ 30%
โดยที่หุ้นที่ควรลงทุน ควรเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีสถานะการเงินที่มั่นคง เพื่อโอกาสเติบโตในอนาคต หรือหากใครไม่มีเวลาที่จะศึกษาเลือกหุ้นรายตัว จะเลือกลงทุนเป็นกองทุนรวมหุ้นก็ได้เช่นกัน ส่วนอีก 30% ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่มี่ความปลอดภัยของเงินต้นสูง อย่างกองทุนรวมตราสารหนี้ เพื่อในกรณีที่ตลาดหุ้นเกิดความผันผวน กองทุนตราสารหนี้จะเป็นส่วนช่วยให้พอร์ตโดยรวมติดลบได้น้อยลง
วัยสร้างครอบครัว (อายุ 31-40 ปี)
เป็นวัยที่มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นวัยที่สถานะการเงินตึงที่สุดเลยก็ว่าได้ บางคนอาจจะมีบ้าน มีรถที่ต้องผ่อน และหากกำลังจะสร้างครอบครัว ก็จะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการแต่งงาน เรื่องลูก ทั้งค่าดูแล ค่าเทอมในอนาคต ดังนั้นวัยนี้จะเป็นวัยที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง ควรลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงสูงลดลงมาจากวัยเริ่มต้นทำงานเพียงเล็กน้อย เพื่อคงระดับผลตอบแทนที่คาดหวังให้อยู่ในระดับปานกลาง
พอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม หุ้น 50% ตราสารหนี้ 50%
เนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้ไม่ควรลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงสูงมากเกินไป เพราะหากตลาดผันผวนขึ้นมา อาจจะทำให้กระทบค่าใช้จ่ายในอนาคตได้ การจัดสัดส่วนการลงทุนแบบนี้ จะทำให้สร้างสมดุลของพอร์ตได้ดีมากขึ้น
วัยกลางคน (อายุ 41-50 ปี)
เป็นวัยที่สถานะการเงินมั่นคงที่สุด เพราะอยู่ที่จุดที่สามารถสร้างรายได้ได้สูง ถึงจะยังมีภาระการผ่อนบ้าน และค่าใช้จ่ายเรื่องลูกอยู่ แต่ก็ถือว่าเบาตัวจากช่วงวัยสร้างครอบครัวมามาก แต่เนื่องจากมีเวลาสร้างรายได้อีกไม่มาก ควรปรับลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนลงมาอีกระดับ
พอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม หุ้น 70% ตราสารหนี้ 30%
ควรเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย แต่ยังคงมีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงอยู่บ้าง เพื่อให้ผลตอบแทนโดยรวมยังสามารถชนะเงินฝากและเงินเฟ้อได้
วัยใกล้เกษียณ (อายุ 50 ปีขึ้นไป)
เป็นวัยที่มีระยะเวลาในการทำงานอีกในระยะเพียง 5-10 ปี ภาระหนี้สินก็แทบไม่เหลือแล้ว แต่ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาจากวัยอื่นอย่างเห็นได้ชัด คือ ค่ารักษาพยาบาล ดังนั้นวัยนี้ควรที่จะเน้นลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำลงมาเพื่อปกป้องเงินต้นของเราเอาไว้
พอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม หุ้น 10% ตราสารหนี้ 90%
หากตลาดหุ้นผันผวน การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงในสัดส่วนเพียง 10% ก็จะไม่กระทบกับพอร์ตโดยรวมมากนัก ทำให้สามารถถอนเงินออกมาใช้จ่ายได้อย่างสบายใจมากขึ้น
และนี่ก็เป็นพอร์ตการลงทุนตามช่วงวัย ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ แต่สุดท้ายก็อย่าลืมกลับมาดูเป้าหมายการเงินของตัวเอง ว่าแต่ละเป้าหมายมีระยะเวลาในลงทุนเท่านานแค่ไหน ถ้ามีระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 3 ปี ยังไงก็ควรลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยดีที่สุด ทีมงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นส่วนช่วยให้เพื่อนๆ ทุกคนประสบความสำเร็จในการลงทุน