การ "ออมหุ้น" เป็น 1 ในวิธีการลงทุนยอดนิยมในปัจจุบัน ที่ถึงจะถูกพูดถึงกันมาอย่างยาวนาน แต่อาจจะยังมีหลายๆ คนสงสัยว่าการ "ออมหุ้น" คืออะไร แล้วต้องเลือกหุ้นในการออมยังไง ที่ทำให้ได้กำไรมากที่สุด บทความนี้จะมาอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ ให้ฟังกัน
"ออมหุ้น" คืออะไร และดีอย่างไร
ก่อนอื่นมารู้จักคำว่า "ออมหุ้น" กันก่อน การ "ออมหุ้น" คือ การที่เราแบ่งส่วนหนึ่งของรายได้มาลงทุนสะสมไว้เพื่อเป้าหมายต่างๆ ในอนาคต โดยมีหัวใจสำคัญคือการทยอยสะสมในหุ้นที่เราหมายตาเอาไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อคาดหวังการเติบโตในระยะยาว คล้ายๆ กับการฝากประจำ แต่เปลี่ยนเป็นการออมด้วยหุ้นเท่านั้นเอง
ซึ่งความแตกต่างของการออมหุ้นกับการซื้อหุ้นปกติ คือ การใช้ความสม่ำเสมอในการออม ทั้งในตอนที่ตลาดหุ้นดีและแย่ เพื่อถัวเฉลี่ยความเสี่ยง ซึ่งต่างจากการเก็งกำไรแบบการซื้อหุ้นปกติ ที่จะดูว่าหุ้นนั้นๆ จะปรับตัวขึ้นหรือลงในระยะเวลาสั้นๆ อาจจะทำให้เราผิดวินัยทางการเงิน และหลุดไปจากเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
ออมหุ้นอย่างไร ให้ได้กำไรมากที่สุด
แน่นอนว่าการลงทุนในหุ้น มีความเสี่ยงสูงมากกว่าการฝากเงินทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ได้มาเพื่อชดเชยความเสี่ยง ก็คือโอกาสในการทำกำไรหรือผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่เราก็ต้องเลือกหุ้นที่มีคุณภาพด้วย
บทความนี้จะมาแนะนำการเลือกหุ้นในการออม โดยจะพิจารณาเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนของการเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไร และส่วนของการลดความเสี่ยง
การเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไร
หลักๆ แล้วคือการเลือกบริษัทที่ดี ที่มีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว เมื่อบริษัทนั้นๆ เติบโตได้ดี ก็จะส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มมากขึ้น เพิ่มโอกาสสร้างกำไรมากขึ้น โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกตามนี้เลย
- ดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น การใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ถูกพูดถึงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การใช้เทคโนโลยี หรือ การให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค
- มีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน แต่พร้อมเปลี่ยนแปลง เช่น มีแผนงานในช่วง 5 ปีข้างหน้า แต่มีความยืดหยุ่นมากพอที่จะปรับแผนระหว่างทางได้ หากมีปัจจัยสำคัญเข้ามากระทบ อย่างในช่วงปี 2564 ที่ธนาคารไทยพาณิชย์เปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น และรูปแบธุรกิจให้ล้อไปกับกระแสการมาของ Digital Currency และ Decentralize Finance รวมไปถึง Fintech ต่างๆ ที่ตั้งใจเข้ามาเป็นคู่แข่งกับธนาคารไทยพาณิชย์โดยตรง เพื่อลดโอกาสการถูก Disrupt จากคู่แข่งให้น้อยลง พร้อมๆ กับเปิดรับโอกาสการสร้างรายได้รูปแบบใหม่
- มียอดขายและกำไรที่เติบโตสม่ำเสมอ เป็นหลักฐานยืนยันว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจ กำลังไปในทางที่ถูกต้อง และการบริหารต้นทุนที่ดี ทำให้สามารถสร้างกำไรให้สอดคล้องไปกับยอดขายได้
- มีเงินสดในมือในระดับที่เหมาะสม เพราะเงินสดนั้นเปรียบเสมือนเลือดที่หล่อเลี้ยงธุรกิจให้ดำเนินไปได้ ถ้ามีน้อยเกินไป อาจเจอปัญหาเรื่องสภาพคล่องได้ แต่ถ้ามีมากเกินไป อาจหมายถึงการที่บริษัทนั้นๆ ยังไม่มีแผนการการลงทุนที่ชัดเจนในอนาคต
การลดความเสี่ยง
เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การออมหุ้นมีโอกาสไปถึงเป้าหมายได้มากขึ้น เพราะยิ่งมีโอกาสขาดทุนน้อยเท่าไหร่ ย่ิงทำให้หุ้นตัวนั้นมีโอกาสทำกำไรที่มากขึ้น
- เลือกหุ้นที่ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีคู่แข่งเข้ามาแข่งขันด้วยยาก เช่น การเป็นธุรกิจกึ่งผูกขาด ทำให้ได้เปรียบเรื่องต้นทุน (Economies of Scale)
- เลือกหุ้นที่ที่เคยผ่านวิกฤติมาแล้ว เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่า ถ้าเกิดวิกฤติขึ้นในอนาคต หุ้นที่เราออมจะมีโอกาสผ่านได้อีกครั้ง แม้ว่าช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติจะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลง แต่ก็เป็นการช่วยให้เราได้ต้นทุนการออมที่ถูกลงด้วยเช่นกัน
- เลือกหุ้นที่มีหนี้น้อย กระแสเงินสดดี เพื่อลดโอกาสที่บริษัทนั้นๆ จะเจอกับปัญหาสภาพคล่องในช่วงที่เกิดวิกฤติ จนทำให้ต้องปิดกิจการลง
- เลือกหุ้นที่ผู้บริหารมีธรรมาภิบาล เพราะผู้บริหารคือผู้ที่กำหนดแนวทางของบริษัท ถ้าผู้บริหารไม่มีธรรมาภิบาลที่ดี อาจทำให้เกิดการโกงได้ แต่นักลงทุนอย่างเราเองก็ควรอ่านข่าวอย่างมีสติ เพราะบางข่าวจะจริงหรือไม่จริงก็ได้
ตัวอย่างหุ้นที่เหมาะสมในการออม
หุ้น AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นที่มีลักษณะตรงตามแนวคิด ทั้งการเพิ่มโอกาสในสร้างกำไร และการลดความเสี่ยง
- การที่ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการท่องเที่ยวเป็นภาคส่วนหลักของเศรษฐกิจ ทำให้ AOT มีรายได้เติบโตสม่ำเสมอในช่วงที่ผ่านมา
- ในช่วงปีที่ผ่านมาถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ในตอนนี้เกิดความอัดอั้น และในอนาคตจะเกิดความต้องการในการท่องเที่ยวสูง เพื่อชดเชยช่วงที่ผ่านมา
- อัตรากำไรของ AOT โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 20-40% ทำให้เห็นถึงการบริหารต้นทุนที่ดี ช่วยให้กำไรเติบโตขึ้นตามยอดขายอย่างสม่ำเสมอ มีเพียงช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตโควิด-19 เท่านั้นที่เกิดการขาดทุน
- การสร้างสนามบินมีต้นทุนที่สูง ทำให้เป็นการยากที่บริษัทใหม่ๆ จะเข้ามาแข่งขัน
- สามารถผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยตรงมาได้ และยังมีการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อต้อนรับการเปิดประเทศ ทำให้เห็นโอกาสในสร้างกำไรในช่วงที่กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
- เป็นบริษัทมหาชนที่กระทรวงการคลังถือครองในสัดส่วนที่มากกว่า 70% ทำให้เกิดการตรวจสอบอย่างเข้มข้นทั้งภายในบริษัท และภายนอกอย่างสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ช่วยลดโอกาสในการการฉ้อโกง
- อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปี 2563 แสดงถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีเพียงในช่วงปี 2564 ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมๆ กับการลงทุนเพิ่มเพื่อต้อนรับการเปิดประเทศ ทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงสั้นๆ
โดยสรุปแล้วการออมหุ้น คือ การทยอยสะสมเงินในหุ้นที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากทั่วๆ ไป เพื่อนๆ สามารถนำเกณฑ์ที่ใช้ในการเรื่องหุ้นในการออมที่ดี เพื่อเลือกออมในหุ้นที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของตัวเองได้ ทีมงานขอให้เพื่อนๆ เจอหุ้นที่สร้างความมั่งคั่งได้ในระยะยาว และประสบความสำเร็จในการลงทุนกันทุกคน