หุ้นปันผลเป็นหนึ่งในประเภทหุ้นที่ได้รับความนิยมตลอดกาล ไม่ว่าจะสำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือมือเก๋า หนึ่งในสาเหตุที่ได้รับความนิยมมาก เพราะหุ้นปันผลขึ้นชื่อว่าเป็นหุ้นที่มีเสถียรภาพ มีการจ่ายปันผลให้นักลงทุนสม่ำเสมอ ไม่ว่าสถานการณ์ตลาดจะดีหรือไม่ก็ตาม จุดหนึ่งคือแม้ราคาหุ้นไม่ขึ้นก็ยังมีปันผลให้ปลอบใจ หรือสำหรับบางคนที่เกษียณแล้วก็มีใช้ปันผลจากหุ้นปันผลในการเลี้ยงชีพ ได้รายได้ลักษณะคล้ายๆ Passive Income โดยไม่เงินต้นไม่ลดลงหรือลดลงน้อยมากๆ
ข้อดีของการลงทุนหุ้นปันผลที่คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้มีทั้งหมดประมาณ 5 ข้อด้วยกัน
- มีรายได้และผลตอบแทนกลับมาอย่างสม่ำเสมอ
- หากลงทุนด้วยเงินที่มากพอ จะเป็น PASSIVE INCOME ที่ทำให้เราไม่ต้องทำงานเลยก็ได้ แค่รอรับเงินปันผลมาใช้จ่ายในแต่ละเดือน
- หากมีหุ้นปันผลอยู่ในพอร์ตช่วงตลาดเกิดวิกฤต หุ้นปันผลจะจ่ายเงินออกมาให้เราสามารถไปช้อนหุ้นดี ราคาถูกได้
- เมื่อเกิดวิกฤต ราคาลงไม่มากนัก เพราะจะมีคนที่เล็งหุ้นปันผลตัวนั้นๆไว้และเข้าซื้อในราคาที่ถูกลงแต่ได้ปันผลเท่าเดิม
- บริษัทที่จ่ายปันผลได้มักเป็นบริษัทที่มีหนี้น้อย และมีกิจการมั่นคง ดังนั้นการเลือกลงทุนหุ้นปันผลจะเป็นการเลือกหุ้นที่มีคุณภาพดีอยู่แล้วในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตามแม้การซื้อหุ้นปันผลจะดูเหมือนง่าย และปลอดภัยแต่จริงๆ แล้วการเลือกหุ้นปันผลนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดกัน ด้วยความผิดพลาดดังต่อไปนี้
- ซื้อหุ้นเก็งกำไรแต่คิดว่าเป็นหุ้นปันผล สรุปคือ ไม่ได้ปันผลแถมยังขาดทุนราคาหุ้น
- ซื้อหุ้นปันผลพิเศษที่ปันผลเยอะๆ แค่ครั้งเดียว ได้ปันผลใหญ่ครั้งเดียวแล้วไม่ได้อีกเลย
- ซื้อหุ้นปันผลที่ราคาแพงเกินไป ได้ปันผลไม่คุ้มเงินลงทุน
- ซื้อหุ้นปันผลที่มีธุรกิจไม่มั่นคง ปันผลไม่มั่นคงตามธุรกิจของบริษัท
- ซื้อหุ้นปันผลตอนตลาดหุ้นถึงจุดสูงสุด ส่งผลให้ขาดทุนราคาหุ้นหนักจนอยากเอาปันผลไปคืนบริษัท
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างบน เลยเป็นที่มาของบทความการคัดเลือกหุ้นปันผลที่มีคุณภาพในวันนี้ โดยหลักการเลือกหุ้นปันผลที่ดี และใช้ได้ตลอดมีอยู่ทั้งหมด 6 ข้อด้วยกัน
1. ซื้อหุ้นปันผลที่มีรายได้ และกำไรเติบโต - การมองหาหุ้นที่มีรายได้ และกำไรเติบโตไว้ก่อน ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าหุ้นที่เรากำลังเลือกนั้นมีคุณภาพ ด้วยความที่รายได้ และกำไรมีการเติบโตนั่นหมายความว่าปันผลที่เราจะได้ก็จะมีการเติบโตตามขึ้นมาด้วย
2. ซื้อหุ้นปันผลที่หนี้น้อยหรือไม่มีหนี้เลย - ตามหลักแล้วถ้าบริษัทหนี้เยอะ ไม่ควรปันผลแต่ควรเอาเงินไปใช้หนี้ก่อน ดังนั้นจึงต้องระวังหุ้นที่หนี้เยอะ แต่มีการปันผล เมื่อดอกเบี้ยปรับตัวเป็นขาขึ้นอาจทำให้กำไรลดลง และปันผลที่ได้ลดลงตาม หรือในกรณีเลวร้ายที่สุด คือ ปันผลอาจหายไปเลยจากการที่ตัวบริษัทเองไม่มั่นคงเพราะมีหนี้สูงอยู่แล้ว
3. ไม่ซื้อหุ้นปันผลที่รายได้ และกำไรผันผวนสูงเด็ดขาด - ถ้ารายได้ และกำไรมีความผันผวนเหวี่ยงขึ้นลงตลอดเวลา จะมีความเป็นไปได้สูงว่าหุ้นตัวนั้นอยู่ในธุรกิจที่ไม่มีความมั่นคง หรือเป็นธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาเหวี่ยงขึ้นลงตามราคาตลาดโลก เช่น หุ้นน้ำมัน เป็นต้น มันคงแปลกมากๆ ถ้าเราซื้อหุ้นปันผล และคาดหวังความมั่นคง แต่รายได้ของบริษัทที่เราลงทุนกลับไม่มีความมั่นคง
4. DCA หุ้นปันผล ค่อยๆ ทยอยเก็บ ทยอยออม - เนื่องจากการลงทุนไม่มีใครรู้ว่าตลาดหุ้นจะเกิดวิกฤตเมื่อไหร่ ราคาหุ้นที่เราคิดว่าซื้อแล้วได้ราคาถูก ปันผลดีในวันนี้ พอเกิดวิกฤตอาจจะเจอราคาถูกกว่า ปันผลสูงกว่าเดิมก็ได้ ดังนั้นการซื้อหุ้นปันผลสำหรับคนที่ต้องการออมหุ้น ควรซื้อในลักษณะ DCA หรือเป็นการทยอยซื้ออย่างต่อเนื่องเพื่อเฉลี่ยต้นทุนให้ได้ในราคาที่เหมาะสม
5. ระวังหุ้นปันผลที่มีการปันผลพิเศษ - หุ้นปันผลบางตัวมีการปันผลมากเป็นพิเศษเพียงครั้งเดียว จากรายได้หรือกำไรที่ได้เข้ามาชั่วคราว ทำให้การปันผลครั้งต่อไปหุ้นจะไม่สามารถปันผลแบบมากๆ ได้อีกแล้ว ดังนั้นต้องเช็กดูให้ดีว่าการปันผลในครั้งนั้นมาจากรายได้หรือกำไรพิเศษหรือไม่?
6. ดูหุ้นปันผลที่มีปันผล 3-5% ขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง - หุ้นปันผล 1% ยังนับว่าเป็นหุ้นปันผลได้อยู่ แต่ในมุมมองของทีมงาน ถ้าคาดหวังปันผลที่มีนัยยะ แบบเอาผลตอบแทนมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ควรเลือกลงทุนเฉพาะหุ้นปันผลที่มีอัตราการปันผล 3-5% ขึ้นไป จะได้อัตราใกล้เคียงกับหุ้นกู้แต่ได้ลุ้นราคาหุ้นด้วย ถ้าไปเลือกหุ้นที่ปันผลเพียง 1% ใกล้เคียงกับอัตราเงินฝากประจำ หรือกองทุนตลาดเงิน ผลตอบแทนที่ได้นอกจากจะแพ้เงินเฟ้อแล้วยังไม่คุ้มกับความเสี่ยงจากความผันผวนของหุ้นด้วย
ทั้ง 6 ข้อนี้ คือ กฏเหล็กของการคัดเลือกหุ้นปันผล แบบไม่ต้องหาข้อมูลลึกลับมากมาย แต่ข้อมูลทั้งหมดนั้นสามารถหาได้ที่หน้าเว็บของ SET.OR.TH ได้เลย ทางทีมงานหวังว่ากฏเหล็ก 6 ข้อนี้ จะทำให้การลงทุนหุ้นปันผลของทุกคนสามารถลงทุนได้อย่างประสบความสำเร็จ และได้ปันผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ครับ