หลายคนที่อยากเล่นบิทคอยน์ คงสงสัยว่าเล่นบิทคอยน์แล้วเนี่ย จะได้กำไรเท่าไหร่? และถ้าขาดทุนจะขาดทุนเยอะหรือไม่? ต้องถือนานแค่ไหนถึงจะได้กำไร 1 เท่า 2 เท่าแบบที่คนอื่นเขาได้กัน และถ้าเราเงินน้อยเล่นแค่ 1,000 บาทจะได้กำไรเท่าไหร่?
ต้องเกริ่นก่อนว่าบิทคอยน์ถือเป็นสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนได้ประเภทหนึ่ง ดังนั้นผลตอบแทนของบิทคอยน์จะอิงอยู่บนปัจจัย 3 อย่างด้วยกันคือ
จำนวนเงินต้น - ยิ่งลงทุนเงินต้นมาก ยิ่งได้ผลตอบแทนมาก โอกาสขาดทุนก็เช่นกัน
ระยะเวลาในการถือครอง - ตามทฤษฎีแล้ว ยิ่งถือครองนานควรจะได้ผลตอบแทนมาก ถือครองสั้นควรจะได้ผลตอบแทนน้อยกว่า แต่สำหรับบิทคอยน์ปัจจัยตัวใหญ่ๆที่จะกระทบผลตอบแทนคือช่วงจังหวะเวลาในการลงทุน
จังหวะเวลาในการลงทุน – ถ้าลงทุนถูกจังหวะในช่วงที่บิทคอยน์โอกาสได้กำไรก็มากตาม ถ้าลงทุนผิดจังหวะก็จะกลายเป็นโอกาสขาดทุนแทน
ในบทความนี้จะใช้เงิน 1,000 บาทเป็นตัวแทนเงินลงทุนของทุกคน เพื่อมาดูกันว่าถ้าลงทุนแค่ 1,000 บาท ซึ่งใครๆ ก็ลงทุนได้ จะได้ผลตอบแทนหรือกำไรเท่าไหร่บ้าง?
ในการวัดผลตอบแทนทางทีมงานจะใช้ข้อมูลจาก Twitter Account ชื่อ @CharlieBilello ใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติมลองไปติดตาม Twitter ของเขาได้เลย
ที่มา : Twitter @CharlieBilello ถ้าเราซื้อ Bitcoin ด้วยเงิน 1,000 บาทในปี 2011 และถือมาจนถึงเดือนมีนาคม (ข้อมูลตามในภาพ) เงินจำนวนนั้นจะมีค่าสูงถึง 200,372,420 บาท หรือพูดง่ายๆ คือมากกว่า 200 ล้านบาทเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามในปี 2011 ยากมากที่จะหาคนที่รู้จักบิทคอยน์ในประเทศไทย ซึ่งผลตอบแทนระดับนี้อาจดูไม่สมจริงเท่าไหร่ ดังนั้นเรามาดูกันว่าถ้าเปลี่ยนเป็นซื้อในปี 2017 แทนล่ะ? ตอนนั้นเริ่มมีกระแสบิทคอยน์ในไทยบ้างแล้วจะได้เงินเท่าไหร่?
ลงทุนเงิน 1,000 บาทในบิทคอยน์ ณ ต้นปี 2017 และถือมาถึงเดือนมีนาคมปี 2021 เงินก้อนนั้นจะกลายเป็นเงิน 63,144 บาทเลยทีเดียว เรียกได้ว่าได้กำไรมามากกว่า 60 เท่าตัว ใกล้เคียงกับระดับปัจจุบันเพราะช่วงกลางปี 2021 ราคาบิทคอยน์มีการปรับฐานอย่างหนัก และเพิ่งกลับมาอยู่ในระดับเดิมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 นี้เอง
สิ่งที่น่าสนใจของบิทคอยน์อีกอย่างคือ ถ้าซื้อแล้วถือมาตั้งแต่ปี 2011 ผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 230% เป็นระยะเวลาเป็น 10 ปี ให้ผลตอบแทนมากกว่าสินทรัพย์ทุกอย่างบนโลกนี้ มากกว่าหุ้นเทคโนโลยีในดัชนี NASDAQ ของสหรัฐที่ให้ผลตอบแทนเพียง 20% ต่อปี
และถ้าเทียบกับตลาดหุ้นไทยตรงๆ และหุ้นไทยที่ขึ้นเยอะๆ หลายๆ ตัวจะเป็นยังไง? ทีมงานได้นำราคาของบิทคอยน์ย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา เทียบกับ SET Index ซึ่งถือเป็นตัวแทนผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทย และหุ้นที่ขึ้นเยอะๆในระยะยาวอย่าง COM7 และหุ้นที่ขึ้นมาแรงๆ ในช่วงปีที่ผ่านมาคือ RCL ผลออกมาคือ ...
บิทคอยน์ให้ผลตอบแทน 8,900% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ขอใช้ผลตอบแทน BTC เทียบกับเงิน USD เพื่อความง่ายต่อการเข้าใจครับ)
หุ้น RCL ที่ขึ้นมาเยอะให้ผลตอบแทน 750%
หุ้น COM7 เป็นหุ้นพื้นฐานดี ขึ้นมาในระยะยาวให้ผลตอบแทน 480%
ตลาดหุ้นไทยหรือ SET Index ให้ผลตอบแทนเพียง 9.33% เท่านั้น (ไม่รวมเงินปันผล) หรือพอจะบอกได้ว่า 5 ปีที่ผ่านมาถ้าไม่นับรวมปันผล ตลาดหุ้นไทยแทบไม่ได้ไปไหนเลย !
ที่มา : Tradingview.com
หมายเหตุ :
- กราฟสีส้มผลตอบแทนบิทคอยน์เทียบกับเงิน USD
- กราฟสีเหลืองผลตอบแทนหุ้น RCL
- กราฟสีเขียวผลตอบแทนหุ้น COM7
- กราฟสีฟ้าผลตอบแทน SET Index
ในกรณีนี้คือถ้าการลงทุนซื้อบิทคอยน์ในระยะเวลาที่ได้ และจังหวะลงทุนดี แต่ในทางกลับกันถ้าจังหวะลงทุนไม่ดีเช่นไปลงทุนตอนต้นปี 2018 เงินจะหายไปมากกว่า 73% หรือถ้าลงทุน 1,000 บาท จะเหลือเงินพียง 270 บาทเท่านั้น
ถ้าคนลง 1 ล้านบาทจะเหลือเงินต้นแค่ 270,000 บาท! ดังนั้นก่อนจะลงทุนทุกครั้งต้องถามตนเองก่อนว่า จังหวะการลงทุนในตอนนี้ใช่จังหวะที่ถูกต้องจริงๆหรือไม่? เพราะถ้าลงทุนไปแล้วขาดทุนหนัก 73% แล้วตัดสินใจขายทิ้งไป เสร็จบิทคอยน์ดันกลับตัวเป็นขาขึ้น และขึ้นไปอย่างเยอะในปี 2019 - 2020 - 2021 จะเสียโอกาสมหาศาลเลยทีเดียว
นอกจากจะขาดทุนหนักแล้วกำไรก็ไม่ได้ ในขณะที่คนที่เข้ามาซื้อบิทคอยน์ทีหลังในตลาดได้กำไรกันมหาศาล .... ดังคำกล่าวที่ว่า รู้อะไรไม่สู้ "รู้งี้" จริงๆ ครับ