คำถามที่ตามมาหลังคำถามว่าบิทคอยน์ดีไหม คือจะเล่นบิทคอยน์ยังไงดีให้กำไร? วันนี้...ทางทีมงานขอแนะนำเทคนิค 4 แบบ สำหรับนักเทรดบิทคอยน์ 4 สไตล์ ให้เลือกกัน! ชอบอันไหนใช้อันนั้นได้เลย
1. เล่นตามเหตุการณ์พิเศษ
สายแรกนี้สำหรับคนที่รู้เรื่องการพัฒนาการของบิทคอยน์หน่อย อาจจะเป็นคนที่ทำงานในวงการเทคโนโลยี หรือเป็นนักพัฒนาซอฟท์แวร์จะดีมาก เพราะส่วนใหญ่แล้วบิทคอยน์มักจะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงตอนมีเหตุการณ์พิเศษ เช่น
- ตอนที่ประเทศ El Salvado ประกาศรับบิทคอยน์เป็นสกุลเงินถูกกฎหมาย
- ตอนที่มีการ Launch ของ Bitcoin Lighting Network ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้น
- ตอนที่ Bitcoin เกิดการ Halving ซึ่งก็คือการปรับอัลกอริทึมของบิทคอยน์ เพื่อป้องกันการเกิดเงินเฟ้อ ซึ่งการปรับอัลกอริทึมนั้นจะส่งผลให้จำนวนบิทคอยน์ที่นักขุดบิทคอยน์ได้รับลดลงครึ่งหนึ่ง ทำให้ได้รับบิทคอยน์จากการขุดน้อยลง Supply น้อยลง Demand มากขึ้น หากปัจจัยอื่นๆ เหมือนเดิม จะทำให้ราคาของบิทคอยน์มีแนวโน้มขึ้นตามนั่นเอง
ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือการ Halving ครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในปี 2024 เป็นระยะเวลาอีก 3 ปีถัดจากปี 2021 นอกจากนั้นปัจจุบันบิทคอยน์กำลังเข้าสู่กระแส Mass ประเทศต่างๆ มีการรับบิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฏหมาย ธนาคาร และธุรกิจการเงินต่างๆ เริ่มต้นรองรับบิทคอยน์ในระบบของตนเอง รวมไปถึงออกกองทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์มากขึ้น หากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ยังดำเนินต่อไปในอนาคต อีก 3-5 ปี ถึงตอนนั้นบิทคอยน์อาจจะมีราคาสูงกว่า ณ ปัจจุบันหลายเท่าตัวก็เป็นได้
ที่มา : Investopedia.com
2. เล่นตามกราฟ
กลยุทธ์นี้มีความยากขึ้นมานิดหน่อยเพราะต้องใช้การเรียนรู้เรื่อง Technical Analysis ในรูปแบบเดียวกันที่ใช้กับหุ้น แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เล่นหุ้นอยู่แล้วก็น่าจะรู้เรื่อง Technical Analysis อยู่บ้าง และสามารถประยุกต์ใช้ได้
สิ่งสำคัญของการเล่นบิทคอยน์ตามกราฟ คือ
- ถ้าคุณเป็นคนเล่นสั้นต้องสามารถหาแนวรับ และแนวต้านของวันหรือเดือนได้
- ถ้าคุณเป็นคนเล่นระยะกลาง-ยาว ต้องสามารถบอกได้ว่าราคาบิทคอยน์อยู่ในขาขึ้นหรือขาลง
- สิ่งสำคัญอีกอย่างคือคุณควรจะต้องเชี่ยวชาญในกราฟแพทเทริน์เพื่อให้สามารถประเมินได้ว่าการเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงของราคาในครั้งนั้นจะเบาหรือแรงแค่ไหน
*หากสนใจศึกษาเรื่องกราฟสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน Community ของเว็บไซต์ Tradingview.com ซึ่งเป็นเว็บที่มีนักเทรดตีกราฟเป็นตัวอย่างไว้ให้มากมาย หรือถ้าอยากศึกษา Technical Analysis ตั้งแต่ต้น สามารถศึกษาได้ที่เว็บไซต์ Chaloke.com
3. เล่นตามพื้นฐาน
ข้อนี้น่าจะยากที่สุดเพราะต้องศึกษา และเข้าใจพื้นฐานของการทำงานของบิทคอยน์อย่างถ่องแท้ ซึ่งจะทำให้รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละเหตุการณ์จะกระทบกับราคาของบิทคอยน์มากหรือน้อยแค่ไหน สิ่งที่ต้องอ่านคือ White Paper ของบิทคอยน์ และการตามอ่านเอกสารการศึกษาของคริปโตเคอเรนซีต่างๆ เช่นเอกสารของ Ark Invest ที่ให้เป้าหมายบิทคอยน์สูงถึง 500000 ดอลลาร์ หรือ 17 ล้านบาทต่อ 1 บิทคอยน์
พื้นฐานการทำงานของบิทคอยน์หลักๆ อิงจากคน 2 กลุ่มด้วยกัน คือ ผู้ใช้/ครอบครองบิทคอยน์ และคนขุดบิทคอยน์ โดยการจะดูว่าพื้นฐานดีขึ้นหรือแย่ลงนั้นต้องไปดูที่ จำนวนธุรกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มูลค่าของบิทคอยน์ที่นักขุดบิทคอยน์ได้รับ ปริมาณ Hash Rate (กำลังการขุดบิทคอยน์ทั้งหมด) และจำนวนผู้ใช้งานที่มีบิทคอยน์ในครอบครอง จำนวนร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยบิทคอยน์ เป็นต้น
การขึ้นลงของปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้พื้นฐานของบิทคอยน์เปลี่ยนไป และทำให้ราคาของบิทคอยน์มีการขึ้นหรือลงตามการพัฒนาของแต่ละปัจจัย
เพื่อนๆ สามารถติดตามดูตัวเลขของปัจจัยแต่ละตัวในข้างต้นได้ที่เว็บไซต์ www.blockchain.com
4. เล่นตามรายใหญ่
ข้อสุดท้ายคือ การเล่นตามรายใหญ่ ซึ่งดูเหมือนง่ายแต่ก็ไม่ง่ายเพราะบางทีรายใหญ่ก็ติดดอยเป็นเช่นกัน ถ้าต้องการเล่นตามรายใหญ่ คนที่นักลงทุนควรติดตามในประเทศไทยคือ คุณ Kim Defi Daddy และเว็บไซต์ด้านคริปโตเช่น Siamblockchain ส่วนต่างประเทศจะเป็น Twitter ของ Elon Musk และ Michael Saylor
ส่วนในกรณีของคริปโตเคอเรนซีอื่นๆ ก็จะเป็นการติดตามเว็บไซต์ Discord และ Twitter ของ Protocol นั้นๆหรือคนที่เป็น Founder ของ Project
ส่วนการจะเลือกลงทุนยาวๆ หรือเก็งกำไรบิทคอยน์ระยะสั้นนั้นทางทีมงานมองว่าเป็นความชอบของบุคคลแต่ละคน รวมไปถึงหน้าตักและสัดส่วนเงินที่เอามาลงทุนบิทคอยน์ด้วย ตามผลตอบแทนที่ต้องการ และความเสี่ยงที่แต่ละคนรับได้
ก่อนเริ่มต้นเล่นบิทคอยน์ควรถามตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่าเข้ามาเล่นบิทคอยน์เพราะอะไร? ใช้หลักการอะไรในการลงทุน / เก็งกำไร เพราะสิ่งที่อันตรายที่สุดในการเล่นบิทคอยน์ไม่ใช่ใช้หลักการผิด แต่เป็นการไม่มีหลักการเลยตะหากที่อาจทำให้สูญเสียเงิน จนหมดตัวในที่สุด