บิทคอยน์คืออะไร? เอาแบบภาษาชาวบ้าน?
บิทคอยน์ คือ Cryptocurrency และเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่สามารถซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน (Exchange) ได้ คล้าย ๆ กับหุ้น กองทุน หรือการเทรดสัญญาฟิวเจอร์ ปัจจุบันมีคนซื้อขาย Cryptocurrency ทั่วโลกมากกว่า 200 ล้านคน ดังนั้นจึงสามารถบอกได้ว่าในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนของบิทคอยน์อยู่เสมอ การซื้อ-ขายของบิทคอยน์แม้จะไม่ได้ง่ายเท่าหุ้นหรือกองทุน เพราะต้องซื้อขายในแพลตฟอร์มเฉพาะ แต่ก็ถือว่ามีสภาพคล่องเพียงพอให้ซื้อ-ขายได้ทุกเวลา 24 ชม. ต่างกับทองคำ พระเครื่อง หรือที่ดิน ที่สภาพคล่องน้อยกว่า และไม่สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา
สินทรัพย์ดิจิตอลคืออะไร?
ในมุมหนึ่งบิทคอยน์คือสินทรัพย์ดิจิตอลซึ่งไม่มีตัวตัวอยู่จริง แต่ถามว่ามีมูลค่าจริงหรือไม่? ก็ต้องตอบว่ามีมูลค่าจริง เพราะการที่คนจะเป็นเจ้าของบิทคอยน์ได้นั้นต้องใช้เงินจริง ๆ แลกมา อีกมุมหนึ่งบิทคอยน์มีลักษณะคล้ายกับสินทรัพย์ดิจิตอลอื่น ๆ ที่จับต้องไม่ได้ เช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร จำนวนสมาชิก แบรนด์ สัญญาฟิวเจอร์ เงินหรือไอเท็มหายากในเกมส์ จะเห็นว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนแล้วแต่ไม่มีตัวตนอยู่จริงแต่ก็มีมูลค่าได้เมื่อมีคนให้คุณค่า และมีคนยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้สิทธิครอบครองสินทรัพย์นั้น ๆ แม้สินทรัพย์นั้นจะอยู่ในรูปแบบของข้อมูลดิจิตอลก็ตาม
บิทคอยน์คือทองคำใช่หรือไม่?
มีหลายคนเปรียบเทียบว่าบิทคอยน์เปรียบเสมือนทองคำดิจิตอล ไม่ถูกทั้งหมดเพราะทองคำคือสินทรัพย์ที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศใช้เป็นเงินสำรองเพื่อควบคุมเสถียรภาพของค่าเงินในประเทศ และใช้ในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน ในขณะเดียวกันบิทคอยน์สามารถใช้ในการป้องกันความเสี่ยงได้ แต่ยังไม่มีประเทศไหนนำไปใช้เป็นเงินสำรองของประเทศ ดังนั้นการบอกว่าบิทคอยน์คือทองคำดิจิตอลจะถูกต้องเพียง 50%
การได้รับบิทคอยน์มีอยู่ 2 วิธีด้วยกันคือ 1. เอาเงินไปแลกในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Cryptocurrency เช่น BitKub หรือ Zipmex 2. ทำการขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อกับระบบของบิทคอยน์และร่วมประมวลผลธุรกรรมทางการเงินของบิทคอยน์ในระบบ ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนเป็นบิทคอยน์ มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณคนขุดบิทคอยน์ในแต่ละช่วงเวลา และราคาของบิทคอยน์ในช่วงนั้น ๆ
หากไม่มีใครมาขุดบิทคอยน์เลยจะทำให้ระบบการเงินดิจิตอลของบิทคอยน์ไม่สามารถทำงานได้ และมูลค่าของบิทคอยน์อาจลดลง แต่ในปัจจุบันสถานการณ์แบบนี้เป็นไปได้ยากมากจนแทบจะไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลย
ในต่างประเทศมีบริษัทที่เริ่มทำธุรกิจขุดบิทคอยน์มากมายเช่น Riot Blockchain (RIOT), Voyager Digital (VYGVF), Stronghold Digital Mining (SDIG)
Proof of Work คืออะไร?
Proof of Work คือ กระบวนในการขุดบิทคอยน์ และเป็นกระบวนการที่ใช้การประมวลผลของคอมพิวเตอร์ในการแกะรหัสตัวเลขของระบบบิทคอยน์เพื่อประมวลผลธุรกรรมของบิทคอยน์ ไม่ใช่ Cryptocurrency ทุกชนิดจะใช้วิธีการ Proof of Work ในการประมวลผล แต่ละชนิดมีวิธีที่แตกต่างกันไปเช่น Proof of Stake, Proof of Space, Proof of History เป็นต้น
บิทคอยน์มีประโยชน์ตรงไหน?
บิทคอยน์ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาด้านการเงินคือ ค่าธรรมเนียมที่สูง ระยะเวลาการทำธุรกรรมนาน ลักษณะการทำธุรกรรมที่ไม่โปร่งใส ตรวจสอบได้ยาก และไม่ปลอดภัย
ค่าธรรมเนียม – บิทคอยน์ตัดตัวกลางในการโอนเงินเช่นธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ ออก โดยใช้ระบบของบิทคอยน์เอง ซึ่งผู้เป็นเจ้าของคือ Community ของคนที่ถือบิทคอยน์ และคนที่ขุดบิทคอยน์ เมื่อไม่ผ่านตัวกลางทำให้ค่าธรรมเนียมในการโอนเงินลดลง ผลประโยชน์ในการทำธุรกรรมทั้งหมดตกอยู่ที่ Community ไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
ระยะเวลา – การโอนบิทคอยน์ข้ามประเทศใช้ระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 10-20 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนธุรกรรมในช่วงเวลานั้น และจำนวนคนขุดบิทคอยน์ในช่วงนั้นว่ามากหรือน้อยแค่ไหน ซึ่งระยะเวลาเท่านี้รวดเร็วกว่าระบบของธนาคารและสถาบันการเงินที่นอกจากจะช้ามากแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายสูง
ความปลอดภัย - เนื่องจากระบบของบิทคอยน์ไม่มีการรวมศูนย์กลางไว้ที่หน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่ง ทำให้โอกาสถูกแฮคเป็นไปได้ยากมาก ระบบของบิทคอยน์จึงมีความปลอดภัย และโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
บิทคอยน์ (BTC) กับอีเธอเรียม (ETH) เหมือนกันรึเปล่า?
ทั้งบิทคอยน์และอีเทอเรียม เป็น Cryptocurrency เหมือนกัน แต่ทั้งสองสกุลมีหลักการใช้งานที่แตกต่างกัน บิทคอยน์เกิดมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการรับ-โอนเงินโดยเฉพาะ ส่วนอีเธอเรียมเกิดมาเปรียบเสมือนเป็นระบบคอมพิวเตอร์ของโลกที่ไม่เพียงแค่รับ-โอนเงินได้ แต่ยังเขียนโปรแกรมในรูปแบบของ Smart Contract เพิ่มเติมลงไปให้ทำงานในรูปแบบอื่นได้ด้วยเช่น การจองโรงแรม การกู้เงิน การเทรดหุ้น เป็นต้น
ในปัจจุบันนี้มีเพียงประเทศ El Salvador ที่รับการซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยน บิทคอยน์ได้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนประเทศอื่น แม้ยังไม่ถูกกฏหมาย 100% แต่ก็ไม่ได้มีการปิดกั้นอย่างรุนแรง ประเทศที่มีการปิดกั้นอย่างรุนแรงคือประเทศจีนเพียงประเทศเดียวในปัจจุบัน
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลเบื้องต้นของบิทคอยน์ที่คนที่เริ่มต้นเทรดบิทคอยน์จำเป็นต้องรู้ และติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เพราะโอกาสอาจกลายเป็นวิกฤตได้หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง