10 อันดับ เศรษฐีหุ้นไทย ปี 2559

น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2559 รวย 6.7 หมื่นล้านบาท

เผยแชมป์เศรษฐีหุ้นปี 2559 "หมอเสริฐ" น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของอาณาจักรโรงพยาบาลกรุงเทพ รักษาบัลลังก์เศรษฐีหุ้นไทยได้อีกเป็นปีที่ 4  ความมั่งคั่งรวม 6.7 หมื่นล้านบาท ตามด้วยเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 คีรี กาญจนพาสน์ เจ้าพ่อบีทีเอส รวย 2.93 หมื่นล้านบาท เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ บิ๊กบอสพฤกษา รวย 2.92 หมื่นล้านบาท ด้านตระกูลปราสาททองโอสถ ครองแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย 5 เครือญาติในตระกูลถือครองหุ้นรวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท

ปีนี้เป็นปีที่ 23 แล้วที่ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย

สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2559 ปรากฏว่า น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2559  โดยเป็นแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แล้ว  โดยในปี 2559 นี้ หมอเสริฐถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 67,244.71 ล้านบาท รวยขึ้น 4,879.52 ล้านบาท หรือ 7.82%

หุ้นที่หมอเสริฐถือครองมี 3 บริษัท ได้แก่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 18.26% รวมมูลค่า 61,680.46 ล้านบาท บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส 10.61% มูลค่า 5,502.60 ล้านบาท และ บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) 0.79% มูลค่า 61.64 ล้านบาท

ทั้งนี้ หุ้นที่หมอเสริฐถือครองล้วนแล้วแต่ปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2558 โดย ณ 30 กันยายน 2559 ซึ่งเป็นวันที่ใช้คำนวณมูลค่าความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นในปีนี้ หุ้น BA ปรับเพิ่มขึ้น 25.38%  BDMS เพิ่มขึ้น 17.84% และ NTV เพิ่มขึ้น 45.19% ทำให้ความมั่งคั่งของหมอเสริฐเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้

เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ได้แก่ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)    โดยหุ้นที่คีรีถือครองรวมมูลค่าทั้งสิ้น 29,348.60 ล้านบาท ลดลง 2,860.52 ล้านบาท หรือ 8.88% ประกอบด้วย หุ้น BTS ในสัดส่วน 27.50% มูลค่า 28,382.07 ล้านบาท กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGF) 0.94% มูลค่า 682.73 ล้านบาท บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย ( VGI) 0.54% มูลค่า 206.40 ล้านบาท และ บมจ.แกรนด์ คาเนล แลนด์ (GLAND) 0.51% มูลค่า 77.40 ล้านบาท

เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ได้แก่ นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 29,281.40 ล้านบาท ลดลง 5,998.69 ล้านบาท หรือ 17%  ประกอบด้วย หุ้น PS ในสัดส่วน 54.38% มูลค่า 29,136 ล้านบาท และ บมจ.แอล.พี.เอ็น   ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) 0.86% มูลค่า 145.40 ล้านบาท

เศรษฐีหุ้นอันดับ 4  ได้แก่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ทายาทอาณาจักรโอสถสภา สำหรับพอร์ตหุ้นของนิติประกอบด้วยหุ้นทั้งหมด 14 บริษัท มูลค่ารวม 27,147.25 ล้านบาท รวยขึ้น 7,275.60 ล้านบาท หรือ 36.61% เนื่องจากราคาหุ้นส่วนใหญ่ในพอร์ตได้ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนแทบทั้งสิ้น

เศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์  ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 25,600.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,573.80 ล้านบาท หรือ 11.18% ประกอบด้วย บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 24.27% มูลค่า 25,589.55 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.36% มูลค่า 10.90 ล้านบาท

เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 ได้แก่ นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 22,407.91 ล้านบาท ลดลง 10,087.83 ล้านบาท หรือ 31.04%  ประกอบด้วย  EA ในสัดส่วน 23.30% มูลค่า 22,380.87 ล้านบาท  และ บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE)  0.94% มูลค่า 27.04 ล้านบาท

เศรษฐีหุ้นอันดับ 7 ได้แก่ นายพิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ถือหุ้นมูลค่ารวม 19,886.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,395.17 ล้านบาท หรือ 7.54%ประกอบด้วย บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) ในสัดส่วน 71.35%มูลค่า 6,609.81 ล้านบาท และ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) 25.84%มูลค่า 13,277.14 ล้านบาท

เศรษฐีหุ้นอันดับ 8 ได้แก่ นางยุพิน ธีระโกเมน เจ้าของอาณาจักรธุรกิจแบรนด์สุกี้ MK ถือหุ้น บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) เป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 39.90% รวมมูลค่า 18,886.40 ล้านบาท ลดลง 2,083.70 ล้านบาท หรือ 9.94%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่ นางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ทายาทของหมอเสริฐที่รับผิดชอบดูแลกิจการโรงพยาบาลของตระกูล ถือครองหุ้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 15,609.44 ล้านบาท รวยขึ้น 1,763.30 ล้านบาท หรือ 12.73%  ประกอบด้วย บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ในสัดส่วน 3.37% มูลค่า 11,365.99 ล้านบาท และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) 8.18% มูลค่า 4,243.45 ล้านบาท

เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการ บมจ.เมืองไทยลิสซิ่ง (MTLS) ถือหุ้น MTLS ในสัดส่วน 37.38% มูลค่า 14,661.25 ล้านบาท รวยขึ้น 2,377.50 ล้านบาท หรือ 19.35%

สำหรับแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปี 2559 ได้แก่ ตระกูลปราสาททองโอสถ โดยยังคงรักษาแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยไว้ได้อีกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งนอกจากจะเป็นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปี 2559 แล้ว ตระกูลปราสาททองโอสถยังสร้างสถิติใหม่ โดยเป็นตระกูลแรกที่มีความมั่งคั่งแตะระดับแสนล้านบาท จาก 5 เครือญาติในตระกูลที่ถือครองหุ้นรวมกันเป็นมูลค่าสูงถึง 107,918.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 จำนวน 19,831.76 ล้านบาท หรือ 22.51%

ส่วนตระกูลอื่นๆ มูลค่าหุ้นที่ถือครองปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ความมั่งคั่งลดลงไป  โดย ตระกูลจิราธิวัฒน์ ปีนี้ยังอยู่ในอันดับ 2  ถือครองหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 58,142.15 ล้านบาท ลดลง 406.77 ล้านบาท หรือ 0.69% ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 3 ได้แก่ ตระกูลกาญจนพาสน์ ถือครองหุ้น รวมมูลค่า 42,210.54 ล้านบาท ลดลง 2,842.36 ล้านบาท หรือ 6.31%  อันดับ 4 ตระกูลวิจิตรพงศ์พันธ์ ถือครองหุ้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 35,401.40 ล้านบาท ลดลง 7,209.94 ล้านบาท หรือ 16.92% และ ตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ ตระกูลทองแตง ถือครองหุ้น รวมมูลค่าทั้งสิ้น 31,612.86 ล้านบาท ลดลง 10,040.74 ล้านบาท หรือ 24.11%

Top 10 เศรษฐีหุ้นไทยปี 2559 ณ 30 กันยายน 2559
อันดับ	ชื่อ - นามสกุล	มูลค่ารวม (ล้านบาท)	เปลี่ยนแปลง (ล้านบาท)	%
1	น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ	67,244.71	+ 4,879.52	+ 7.82
2	นาคคีรี กาญจนพาสน์	29,348.60	- 2,860.52	- 8.88
3	นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์	29,281.40	- 5,998.69	- 17.00
4	นายนิติ โอสถานุเคราะห์	27,147.25	+ 7,275.60	+ 36.61
5	นายอนันต์ อัศวโภคิน	25,600.45	+ 2,573.80	+ 11.18
6	นายสมโภชน์ อาหุนัย	22,407.91	- 10,087.83	- 31.04
7	นายพิชญ์ โพธารามิก	19,886.95	+ 1,395.17	+ 7.54
8	นางยุพิน ธีระโกเมน	18,886.40	- 2,083.70	- 9.94
9	น.ส.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ	15,609.44	+ 1,763.30	+ 12.73
10	นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ	14,661.25	+ 2,377.50	+ 19.35

ขอขอบคุณข้อมูลจากวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2559 www.moneyandbanking.co.th