รีวิว-เยี่ยมชม มาเอสโตร 03 รัชดา - พระราม 9 (Maestro 03 Ratchada - Rama 9)

อีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่น่าสนใจภายใต้แบรนด์ "มาเอสโตร" ที่จะพาไปชมกันคือ มาเอสโตร 03 รัชดา - พระราม 9 (Maestro 03 Ratchada - Rama 9) คอนโด Low-rise ทำเลใจกลางเมืองใกล้ MRT 2 สถานี ทั้งจากสถานีพระราม 9 และ MRT ศูนย์วัฒนธรรม ตกแต่งด้วยสถาปัยกรรมสไตล์ยูโรเปียน คลาสสิก เป็นโครงการแรกภายใต้แบรนด์ "มาเอสโตร" ที่มีเนื้อที่ขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ มาพร้อมคลับเฮ้าส์สูง 2 ชั้น และสระว่ายน้ำแบบ Semi Indoor แยกส่วนกลางออกจากอาคารพักอาศัย และเป็น Pet friendly เลี้ยงสัตว์ได้ทุกยูนิต ราคาก็ไม่แรงมาก ตามเราไปชมบรรยากาศจริงของโครงการนี้กันค่ะ

• เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  
• ที่ตั้งโครงการ : ซอยรัชดาภิเษก 3 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
• อาคารชุดพักอาศัย : 8 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จำนวน 3 อาคาร 335 ยูนิต
• ขนาดที่ดินทั้งโครงการ : 3-0-18 ไร่
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคาร
• ห้องชุด : มี 2 แบบหลักๆ ได้แก่ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน  
  

• ราคาเริ่มต้น : 3.8 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 5 มิ.ย. 61)
• วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด : 5 มิ.ย. 61

"แยกพระราม 9" ปัจจุบันถือเป็นแยกที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ในแง่ของการวัดว่าคุณภาพของทำเลดีหรือไม่ดี อุดมสมบูรณ์หรือไม่ คงต้องอิงหลักการที่ว่า ตรงตามความต้องการอยู่อาศัยของคนมากน้อยแค่ไหน ถ้าใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้ถือว่า มีครบทีเดียว เพราะเป็นแยกที่มีทั้งแหล่งช้อปปิ้งอย่าง เซ็นทรัลพระราม 9, ฟอร์จูน, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, เอสพลานาด, The Street รัชดา รวมถึงตลาดของกินของใช้ช่วงกลางคืนราคาย่อมเยาก็มีตลาดรถไฟรัชดา ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ จุดนี้นอกจากจะสะดวกในการหาของกินของใช้แล้ว ถ้าอยากทำรายได้เสริมก็ถือเป็นทำเลทำเงินอย่างหนึ่งเหมือนกัน นอกจากแหล่งช้อปปิงแล้ว แยกพระราม 9 ยังเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ เช่น อาคาร G Tower, The Super Tower, อาคาร Unilever, TKE Thailand, อาคารไชโย, อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส, ยูนิซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง ไทยแลนด์, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่, อาคาร อสมท., อาคาร เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย , สถานทูตจีน และ สถานทูตเกาหลี เป็นต้น ทำให้ผู้คนต่างเรียกย่านนี้ว่า "ทำเล CBD" เมื่อชีวิตอยู่อาศัยใกล้แหล่งช้อปปิงและที่ทำงานแล้ว อีกที่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือโรงพยาบาล ซึ่งใกล้กับแยกพระราม 9 ในระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร ก็มี โรงพยาบาลพระรามเก้า, โรงพยาบาลปิยะเวท และ โรงพยาบาลกรุงเทพ

โครงการที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ส่วนใหญ่เป็นแนวสูง มีหลายโครงการที่ตั้งอยู่ติดกับถนนรัชดาฯ ส่วนใหญ่เป็นโครงการ High Rise ซึ่งราคาก็สูงเพราะเป็นระยะที่ใกล้สถานี MRT มาก แต่เมื่อขยับเข้าไปดูในซอยก็มีโครงการ Low Rise ตั้งอยู่หลายโครงการทีเดียว ข้อดีคือ ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ลดเสียงรบกวนจากท้องถนนได้มากขึ้น ที่เราได้เข้าไปดูมาคือ โครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา - พระราม 9 (Maestro 03 Ratchada - Rama 9)  โครงการนี้เข้าไปในซอยรัชดา 3 (ซอยข้างสถานทูตจีน) แค่ 250 เมตร เดินลัดมาซื้อของหรือทานข้าวที่โลตัสได้ชิวๆ เดินมา MRT พระราม 9 ประมาณ 600 เมตร หรือเดินไป MRT ศูนย์วัฒนธรรม ประมาณ 900 เมตร   

Tesco Lotus (ห่างจากโครงการประมาณ 350 เมตร)

Central พระราม 9 (ห่างจากโครงการประมาณ 750 เมตร)

อาคารสำนักงาน G Tower (ห่างจากโครงการประมาณ 850 เมตร)

The Street รัชดา (ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กิโลเมตร)

การเดินทางโดยรถยนต์

เส้นทางการเดินทางขาเข้าโครงการ

เส้นทางที่ 1 มาจากถนนดินแดง ถ้ามาจากอนุสาวรีย์ มุ่งหน้าตรงมายังแยกพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาฯได้เลย จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้า "ซอยรัชดาภิเษก 3" มุ่งหน้าต่อประมาณ 250 เมตรก็ถึงโครงการแล้วค่ะ  

เส้นทางที่ 2 มาจากถนนประชาสงเคราะห์ เส้นทางนี้ใช้ลัดเข้าโครงการได้ เพราะซอยประชาสงเคราะห์จะไปทะลุเข้าซอยรัชดาภิเษก 3 (ซอยข้างสถานทูตจีน) ได้ค่ะ

เส้นทางการเดินทางขาออกจากโครงการ

เส้นทางที่ 1 ไปลาดพร้าวโดยใช้ถนนรัชดาภิเษก เพียงเลี้ยวซ้ายออกมาที่ถนนรัชดาฯ มุ่งหน้าต่อประมาณ  5 กิโลเมตร ก็ถึงโครงการ

เส้นทางที่ 2 ออกไปขึ้นทางพิเศษศรีรัช โดยใช้ทางลัดเข้าซอยอยู่เจริญ เลี้ยวซ้ายออกมาที่ถนนดินแดง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนอโศก-ดินแดงที่แยกพระราม 9 จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปวนรถขึ้นทางด่วน

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า

MRT สถานีพระราม 9 ทางออกที่ 1

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า คอนโด มาเอสโตร 03 รัชดา - พระราม 9 (Maestro 03 Ratchada - Rama 9) ตั้งอยู่ในซอยรัชดา 3 (ซอยข้างสถานทูตจีน) แค่ 250 เมตร ในระยะการเดินถือว่าใกล้มาก สำหรับคนที่อยากอยู่คอนโดย่าน CBD โครงการนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก ทั้งเรื่องของทำเลและเรื่องการอยู่อาศัยในโครงการ เพราะเป็นอาคาร Low Rise ที่มียูนิตค่อนข้างน้อย ที่สำคัญร้านค้าอาหารการกินเยอะมากๆ กระจายตัวอยู่แทบทั้งซอย ซึ่งมีทางเดินลัดไปฟอร์จูน และ Tesco Lotus และเดินข้ามไปเซ็นทรัลพระราม 9 ได้โดยใช้ทางเชื่อมของ MRT วันนี้จะพาไปเดินดูบรรยากาศจริง ไปกันเลยค่ะ

เริ่มต้นจากโครงการกันบ้าง

เห็นไหมคะว่าของกินเยอะมาก ทั้งข้าว ก๋วยเตี๋ยว ราคาย่อมเยา

ร้านสะดวกซื้อก็ตั้งอยู่ใกล้กับโครงการมากค่ะ

เลี้ยวขวาเข้าซอยรัชดา 3 แยก 3 เป็นทางลัดเดินไปโลตัสได้ค่ะ

เข้ามาในซอยรัชดา 3 แยก 3 ก็ยังคงมีร้านอาหารทั้งคาวหวานตั้งอยู่ทั้งสองฝั่ง

อยู่ซอยนี้ไม่อดแน่นอน มีแต่จะต้องระวังว่าจะอ้วนเกินไปค่ะ

ร้านอาหารใต้ก็มี

ในซอยมีอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัยสลับกันไปค่ะ ส่วนใหญ่สูงไม่เกิน 5 ชั้น

ผ่านร้านอาหารใต้มาเมื่อกี้ ต่อมาก็มีร้านอาหารอีสานแซ่บๆ อยู่หลายร้านเลยค่ะ

เลือกได้เลยว่าจะส้มตำไก่ย่างหรือไส้กรอกอีสาน

บรรยากาศในซอยรัชดา 3 แยก 3 ค่ะ

พอมาถึงแยกนี้ "ซอยรัชดา 3 แยก 3-1" เลี้ยวซ้ายได้เลย

เข้ามาแยกนี้ก็มีร้านอาหาร ผลไม้ ร้านสะดวกซื้ออีกเพียบ มุ่งหน้าต่อแล้วเลี้ยวขวาเข้าด้านหลังโลตัสได้เลย

ทางเดินเข้าด้านหลังโลตัสพระราม 9 ค่ะ

และแล้วเราก็เดินมาถึง ถนนรัชดาภิเษก

ด้านหน้าโลตัสพระราม 9 ค่ะ

เดินต่อไปยัง MRT สถานีพระราม 9

ผ่านมาเห็นจุดบริการของพี่วินค่ะ จริงๆ ขึ้นมาจาก MRT พระราม 9 แล้วนั่งวินเข้าโครงการก็สะดวกมากเลยนะคะ

เดินผ่านป้ายรถเมล์ จุดนี้รถเมล์ผ่านเยอะมากเลยนะคะ

ถึงแล้วค่ะ MRT พระราม 9

เดินลงมาข้างล่าง MRT พระราม 9 ก็มี Metro Mall จับจ่ายของกินของใช้ก่อนกลับคอนโด สะดวกไปอีก

เดินตรงไปอีกก็สามารถไปทะลุเข้าเซ็นทรัลพระราม 9 ได้ด้วยค่ะ สะดวกมาก

ทางเดินเข้าเซ็นทรัลพระราม 9

กลับทางออกเดิมนะคะ ใช้ทางออกที่ 1 ใกล้โครงการมากที่สุดค่ะ 
คราวนี้เราจะพาเดินเข้าซอยรัชดา 3 กันบ้าง

พอเดินผ่านหน้าโลตัสก็มีพี่วินอีกจุดค่ะ นั่งเข้าโครงการก็ไวขึ้นอีก

นี่คือบรรยากาศทางเดินไปยังซอยรัชดา 3 นั่นเอง

สังเกตป้าย "เส้นทางลัด ประชาสงเคราะห์" 

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยกันเลย

ปากซอยมีพี่วินคอยให้บริการอีก 1 จุดค่ะ

บรรยากาศทางเดินในซอยรัชดา 3 ค่ะ
จุดนี้มีร้านอาหารตั้งอยู่เยอะมากค่ะ อย่างบ้านหัวมุม มีร้านอาหารหลายแนวเลย

ด้านล่างเป็นร้านข้าวมันไก่ค่ะ ด้านบนเป็นร้านชาบู

พอเข้าไปลองชิมก็พบว่า ถ้ามาอยู่คอนโดมาเอสโตร 03 คงต้องฝากท้องไว้ที่นี่เป็นประจำแน่ๆ 
เป็นข้าวมันไก่ที่อร่อยมาก น้ำซุปคือดี คือดีมากจริงๆ ทั้งไก่ต้มไก่กรอบดีหมด ข้าวหมกก็ดี ต้องลองค่ะ

เดินเข้ามาอีกก็มีร้านขายของหลากหลายเลยค่ะ

The backyard cafe อีกหนึ่งร้านคาแฟ่น่ารักที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ

ถึงโครงการแล้วค่ะ แปปเดียวเอง

บรรยากาศหน้าโครงการเป็นร้านขายทอง ร้านขายยา ร้านนวดแผนไทย และร้านอาหารตามสั่ง

ถนนหน้าโครงการสามารถเดินรถสวนทางกันได้ เท่าที่สังเกตดูมีรถยนต์เข้าออกไม่เยอะมาก 
เพราะคนส่วนใหญ่น่าจะใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งถือว่าสะดวกมาก ไม่ต้องฝ่ารถติด และใช้บริการพี่วินก็สะดวกกว่า

คอนโด มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 เป็นคอนโด Low-Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร  (อาคาร A, B, C) รูปทรงตัว I และตัว L ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 3-0-18 ไร่ ถือเป็นโครงการแรกภายใต้แบรนด์ "มาเอสโตร" ที่มีเนื้อที่ใหญ่กว่า 1 ไร่ แต่มีห้องพักอาศัยทั้งหมด เพียง 335 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่เยอะเมื่อเทียบกับพื้นที่โครงการ สัดส่วนห้องขนาด 1 ห้องนอน กับ 2 ห้องนอนจะใกล้เคียงกัน รองรับทั้งผู้ที่ซื้อไว้อยู่เอง และผู้ที่ซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่าด้วย

ห้องพักอาศัยของอาคาร A เริ่มต้นที่ชั้น 2 ส่วนอาคาร B และอาคาร C ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 1 โดยห้องพักอาศัยเฉลี่ยต่อชั้นของแต่ละอาคารจะใกล้เคียงกัน อาคาร A ประมาณ 12 ยูนิต/ชั้น, อาคาร B ประมาณ 15 ยูนิต/ชั้น และอาคาร C ประมาณ 16 ยูนิต/ชั้น

รูปแบบโครงการตกแต่งสไตล์ยูโรเปียน คลาสสิก ผสมกลิ่นอายความโมเดิร์น สำหรับโครงการให้น้ำหนักไปทางคลาสสิกมากกว่าความเป็นโมเดิร์น สีโดยรวมของตัวอาคารเน้นโทนสีครีม-น้ำตาล เน้นกระจกสูงโปร่ง วัสดุลายไม้ และสี Copper บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังคงคอนเซปต์ ในสไตล์ "Classic Inspired Modern Twist" แต่ละอาคารจะมีระยะห่างกันพอสมควร โดยอาคาร A-B ห่างกันประมาณ 12 เมตร ส่วน B-C ห่างกันประมาณ 20 เมตร ทุกอาคารมีบันไดหนีไฟมาให้ 2 จุด

Facilities ส่วนกลางแยกออกจากส่วนพักอาศัย โดยทางโครงการทำเป็นคลับเฮ้าส์สูง 2 ชั้นอยู่ตรงกลาง พร้อมสระว่ายน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบ Outdoor ขนาดใหญ่ โอบล้อมด้วยอาคารพักอาศัยทั้ง 3 อาคาร ด้วยการออกแบบนี้จะทำให้ลูกบ้านรู้สึกเป็นส่วนตัว ถึงแม้จะอยู่ในซอยที่ค่อนข้างคึกคักแต่พอเข้ามาภายในโครงการแล้วจะได้ความรู้สึกค่อนข้างเงียบสงบ โดยมาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 ถือเป็นโครงการแรกภายใต้แบรนด์มาเอสโตรที่สร้างคลับเฮาส์แยกออกมาจากตัวอาคารพักอาศัย สำหรับพื้นที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินของแต่ละอาคาร รวมที่จอดรถทั้งหมดของโครงการประมาณ 45% ไม่ฟิกซ์ตำแหน่ง ซึ่งน่าจะเพียงพอกับจำนวนลูกบ้าน บวกกับลูกบ้านบางส่วนก็น่าจะใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินด้วยเพราะอยู่ใกล้ MRT ถึง 2 สถานี ทั้งสถานีพระราม 9 และสถานีศูนย์วัฒนธรรม มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว แบบล็อคชั้น อัตราส่วนการใช้ลิฟต์อยู่ที่ 55 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดี

ทุกโครงการของมาเอสโตรจะเป็น Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ทุกห้อง โครงการนี้ก็เช่นกัน โดยมีเงื่อนไขในการเลี้ยงประมาณนี้

กฎระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุด

1. การนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมาเลี้ยง จะต้องขออนุญาตฝ่ายบริหารอาคารฯ และลงทะเบียนประวัติสัตว์เลี้ยงไว้เป็นข้อมูลโดยชำระค่าธรรมเนียมในการลงทะเบียน จำนวน 3,600 บาท/ต่อตัว/ต่อปี (ค่าใช้จ่ายนี้จะนำมาเป็นกองทุนในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและลงน้ำยาฆ่าเชื้อทุกสัปดาห์)

2. ชำระเงินประกันความเสียหายจำนวน 5,000 บาท/ต่อตัว (เรียกเก็บครั้งแรกครั้งเดียว) และจะคืนให้เมื่อเจ้าของห้องชุดเลิกเลี้ยงสัตว์/สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต และไม่พบการกระทำผิดระเบียบข้อบังคับการเลี้ยงสัตว์ในอาคารชุดและ/หรือพบความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับเจ้าของห้องชุด/เจ้าของร่วม/อาคารชุดรวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง)

3. สัตว์เลี้ยงที่เจ้าของห้องชุดจะเลี้ยง จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัมเมื่อโตเต็มที่ เจ้าของห้องชุดสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ไม่เกินจำนวนดังต่อไปนี้

• 1 ตัว / พื้นที่น้อยกว่า 50 ตร.ม. และไม่เกิน 50 ตร.ม.
• 2 ตัว / พื้นที่ 100 ตารางเมตร
• 3 ตัว / พื้นที่ 150 ตารางเมตร เป็นต้นไป

(จำนวนสูงสุดของสัตว์เลี้ยงจะมีได้ไม่เกิน 3 ตัวต่อ 1 ห้องชุดเท่านั้น)

4. สัตว์เลี้ยงจะต้องมีสายผูก/จูงและมีผู้ดูแลตลอดเวลาที่อยู่บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

กฎระเบียบ ข้อห้าม ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ รวมถึงบทลงโทษ กรณีไม่ปฏิบัติตามกฎ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่ประจำโครงการ

โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแต่ละทิศจะใกล้กับ
ทิศใต้ : ด้านหน้าโครงการ  ติดกับซอยรัชดาภิเษก 3 ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3-5 ชั้น
ทิศตะวันตก : ติดกับอาคารพาณิชย์สูง 2-3 ชั้น 
ทิศเหนือ : ติดกับซอยอยู่เจริญ 9 ได้วิวค่อนข้างเปิดโล่ง
ทิศตะวันออก : ติดกับอาคารพาณิชย์สูง 2-3 ชั้น ได้วิวหันไปทางสถานทูตจีน

มาดูในส่วนของ Master Plan ของโครงการกันค่ะ ดูสิว่าแต่ละชั้นเค้ามีอะไรบ้าง

Master Plan ชั้น G : 

• อาคาร A : มีล็อบบี้, ห้องซักผ้า, ตู้จดหมาย, ที่จอดรถซูเปอร์ไบค์ และ ลิฟต์โดยสาร
• อาคาร B : เป็นห้องพักอาศัยจำนวน 15 ยูนิต ทั้งหมดเป็นแบบ 1 ห้องนอน
• อาคาร C : เป็นห้องพักอาศัยจำนวน 16 ยูนิต ทั้งหมดเป็นแบบ 1 ห้องนอน
• สิ่งอำนวยความสะดวกกลางแจ้ง และคลับเฮ้าส์

Floor Plan ชั้น 2-4 : 

• อาคาร A : จะคล้ายกันคือ เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 12 ยูนิต/ชั้น แบบ 1 ห้องนอน 10 ยูนิต และแบบ 2 ห้องนอน 2 ยูนิต
• อาคาร B : จะคล้ายกันคือ เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 15 ยูนิต/ชั้น แบบ 1 ห้องนอน 12 ยูนิต และแบบ 2 ห้องนอน 3 ยูนิต
• อาคาร C : จะคล้ายกันคือ เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 17 ยูนิต/ชั้น แบบ 1 ห้องนอน 14 ยูนิต และแบบ 2 ห้องนอน 3 ยูนิต

Floor Plan ชั้น 5-8 :

• อาคาร A : จะคล้ายกันคือ เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 12 ยูนิต/ชั้น แบบ 1 ห้องนอน 10 ยูนิต และแบบ 2 ห้องนอน 2 ยูนิต
• อาคาร B : จะคล้ายกันคือ เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 15 ยูนิต/ชั้น แบบ 1 ห้องนอน 12 ยูนิต และแบบ 2 ห้องนอน 3 ยูนิต
• อาคาร C : จะคล้ายกันคือ เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 16 ยูนิต/ชั้น แบบ 1 ห้องนอน 12 ยูนิต และแบบ 2 ห้องนอน 4 ยูนิต

ต้องบอกว่าโครงการ มาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 ก็จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ลูกบ้านไม่น้อยหน้ามาเอสโตรโครงการอื่นก่อนหน้านี้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่บริเวณชั้น 1 และโดยรอบโครงการ โดยมีทั้งส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางบริเวณ Outdoor รวมถึง Club House ความสูง 2 ชั้น และบางส่วนอยู่ภายในอาคารพักอาศัย (อาคาร A) โดยรวมแล้วประกอบด้วย 

สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง 

• แร็คจอดจักรยาน
• ลานจอดซุปเปอร์ไบค์
• ฟิตเนสบนชั้นลอยของคลับเฮ้าส์
• สระว่ายน้ำกึ่งในร่ม
• สระว่ายน้ำสไตล์ยุโรป
• ห้องสตีม
• ห้องซาวน่า
• ที่นั่งพักผ่อนริมสระ
• เก้าอี้ริมสระ
• สวนหินเพื่อความผ่อนคลาย
• ซุ้มอ่านหนังสือ
• ซุ้มทำอาหาร
• ลานบาร์บีคิว
• ซุ้มคนรักสัตว์เลี้ยง
• ทางวิ่งจ็อกกิ้ง
• ที่จอดรถชั้นใต้ดิน

ทางเข้าโครงการมีไม้กระดกกั้น เข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ด และมีกล้องวงจรปิด
ป้อม รปภ. อยู่ทางด้านซ้ายมือ

มีพื้นที่ทางเดินสำหรับให้ลูกบ้านเดินเข้า-ออก เพื่อความปลอดภัย
ตรงจุดนี้มีพื้นที่สำหรับจอดจักรยาน เผื่อให้ลูกบ้านปั่นไปซื้อของกินภายในซอย

ลู่วิ่งจ็อกกิ้งจะอยู่ด้านหลังอาคารพักอาศัยระยะประมาณ 150 เมตร สำหรับวิ่งออกกำลังกาย
รั้วโครงการสูงประมาณ 3 เมตร ปลูกต้นไม้ไว้โดยรอบโครงการเพิ่มความสดชื่นและพื้นที่สีเขียว

ทางลงที่จอดรถของอาคาร C
ส่วนถนนภายในโครงการกว้างประมาณ 12 เมตร

พื้นที่จอดรถ Superbike อยูที่อาคาร A 
มีรถ Shuttle Service ไว้คอยบริการรับ-ส่งไปยังสถานีรถไฟฟ้า MRT 

ทางลงพื้นที่จอดรถใต้อาคาร A และอาคาร B

พื้นที่จอดรถชั้นใต้ดิน
สามารถใช้ลิฟต์จากลานจอดรถขึ้นไปถึงห้องพักได้เลยไม่ต้องเดินไปขึ้นที่ล็อบบี้

คลับเฮ้าส์สูง 2 ชั้นอยู่ตรงกลางโอบล้อมด้วยอาคารพักอาศัยทั้ง 3 อาคาร ตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่
ชั้นล่างเป็นล็อบบี้แบบ Double Volume พร้อมตู้เก็บจดหมายของอาคาร B, C

ด้านหลังเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง

 ผนังห้องน้ำและเคาน์เตอร์อ่างล้างมือกรุด้วยกระเบื้องเล่นลวดลายโทนสีน้ำตาล

ในห้องน้ำมีทั้งห้องอาบน้ำ และห้องสุขาครบ

นอกจากนี้ในห้องน้ำชายยังมีห้องซาวน่า ส่วนในห้องน้ำหญิงจะมีห้องสตีมอีกด้วย

พื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระ

พื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor ก่อนลงสระ

สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 8x12 เมตร ลึก 1.2 เมตร ค่อนข้างใหญ่พร้อมสระเด็ก
ส่วนบนชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนส และตรงชุดเก้าอี้สีขาวนั้นเป็นช่วงที่โครงการจัดงานพอดี ช่วงเวลาปกติจะไม่มีนะคะ

สระว่ายน้ำแบบ Semi indoor กึ่งในร่มกึ่งกลางแจ้ง
ถึงแม้จะเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง แต่ก็มีพื้นที่บางส่วนที่ออกแบบให้มีร่มเงาช่วยบังแดดได้

ที่นั่งเล่นริมสระมีเตียง Sundeck มาให้ 8 ตัว

ถัดมาเป็นลานหินสำหรับนวดเท้า

จุดนี้กั้นแบ่งพื้นที่ด้วยประตูระแนงสีดำ

มุมนี้ออกแบบเป็นสวนหมากรุกดูเก๋ทีเดียว

ลาน BBQ มีเตาบาร์บีคิว และอ่างล้างจานมาให้พร้อมค่ะ

สวนสไตล์ยุโรป นั่งเล่นในยามแดดร่ม

ซุ้มอ่านหนังสือจัดเก้าอี้ยาวสีฟ้ามาให้ 6 ตัว 

ประตูเปิดเชื่อมต่อไปยังลู่วิ่งจ็อกกิ้ง และพื้นที่ Pet Zone ที่อยู่ด้านข้างอาคาร A
สำหรับพาน้องหมามาเดินเล่นออกกำลังกายได้

มุมนี้มองย้อนกลับไปยังสระว่ายน้ำและคลับเฮ้าส์

บันไดสำหรับเดินขึ้นไปยังห้องฟิตเนสที่อยู่บนชั้น 2 ของคลับเฮ้าส์

ห้องฟิตเนสเข้าออกได้เลยไม่ต้องใช้คีย์การ์ด ตกแต่งด้วยกระจกรอบด้าน
จัดเครื่องออกกำลังกายมาให้กว่า 10 เครื่อง 

มีมุม Boxing พร้อมกระสอบทรายให้เตะต่อยได้ด้วย

จากห้องฟิตเนสมองลงมาเห็นสระว่ายน้ำและสวน

วิวสวยๆ มุมมองจากห้องฟิตเนส

มีบันไดวนเดินขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า

ด้านบนเป็นพื้นที่โล่งปูด้วยหญ้าเทียมสีเขียวสามารถขึ้นมาเดินเล่นบนนี้ได้

สิ่งอำนวยความสะดวกใต้อาคาร A 

• ล็อบบี้
• กล่องจดหมายส่วนตัว
• ห้องซักผ้า
• ลิฟต์โดยสาร

ล็อบบี้อาคาร A พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน พร้อมชุดเก้าอี้สำหรับแขกมาอีก 2 ชุด

ตู้จดหมายเฉพาะของลูกบ้านอาคาร A เป็นโทนสีน้ำตาลลายไม้มีเลขห้องระบุพร้อมกุญแจล็อค

 ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวแบบล็อคชั้น หน้าประตูลิฟต์สกรีนโลโก้มาเอสโตร

ลิฟต์โดยสารเพดานสูง ตกแต่งด้วยลายไม้และกระจกเงาบานใหญ่ให้ความรู้สึกกว้าง

แผงปุ่มกดภายในตัวลิฟต์ ใช้ระบบ Key card

 โถงทางเดินกว้าง 1.5 เมตร โทนสีขาว ติดตั้งกล้อง CCTV ระบบไฟฉุกเฉิน และป้ายบอกทางหนีไฟไว้ให้ครบ
ไฟที่โถงทางเดินเป็นระบบเซ็นเซอร์ช่วยประหยัดไฟ มีช่องแสงที่ปลายโถงทางแต่ละฝั่ง
พื้นโถงทางเดินเป็นหินแกรนนิตโต้ลายหินอ่อนสีครีม

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ 

• จุดจอดรับส่ง
• อินเทอร์เน็ตไร้สาย 24 ชั่วโมง
• ระบบคีย์การ์ด
• ลานจอดรถชั้นใต้ดิน
• บริการรถรับส่ง (Shuttle service)
• ป้อม รปภ. และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ห้องของโครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ให้เลือก 2 สไตล์ คือแบบ Malvyn Style (โทนสีเข้ม) และ Monet Style (โทนสีอ่อน) ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบแบบมัลติฟังก์ชั่น ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวของ Modernform  พร้อมแอร์ยี่ห้อเทรน (TRANE) ขนาดของ BTU จะขึ้นอยู่กับ Type ของห้อง สิ่งที่ทางโครงการไม่ได้ให้มามีเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้า (ไมโครเวฟ ทีวี เครื่องซักผ้า ตู้เย็น) ผ้าม่าน ฟูกที่นอน และของตกแต่งเท่านั้น ขนาดห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ 29.00 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่เล็กจนเกินไปและสามารถใช้ชีวิตอยู่จริงได้แบบสบายๆ ไม่อึดอัด

Tower A
แบบ 1 ห้องนอน - เนื้อที่ 29 - 33.57 ตร.ม.
(คลิกเพื่อชมแปลนห้อง)
แบบ 2 ห้องนอน - เนื้อที่ 57.67 - 67.53 ตร.ม.
(คลิกเพื่อชมแปลนห้อง) 

Tower B
แบบ 1 ห้องนอน - เนื้อที่ 29.01 - 41 ตร.ม.
(คลิกเพื่อชมแปลห้อง)
แบบ 2 ห้องนอน - เนื้อที่ 50.39 - 74 ตร.ม.
(คลิกเพื่อชมแปลนห้อง)

Tower C
แบบ 1 ห้องนอน - เนื้อที่ 29 - 41.38 ตร.ม.
(คลิกเพื่อชมแปลห้อง)
แบบ 2 ห้องนอน - เนื้อที่ 57.24 - 74. ตร.ม.
(คลิกเพื่อชมแปลนห้อง)

ห้องตัวอย่างที่พามาชมมีด้วยกัน 2 Type คือแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 30.57 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 57 ตร.ม. ซึ่งห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร A เดี๋ยวเราไปดูกันที่ละห้อง เริ่มจากห้องแรก

1) ภาพห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.57 ตร.ม. (เฟอร์นิเจอร์โทนเข้มแบบ Malvyn Style)

 ประตูจะเป็น HDF ลายไม้โทนสีอ่อนแบบเซาะร่องลายเส้นสีเงิน มือจับแบบก้านโยก

พื้นห้องยกสูงจากโถงทางเดินประมาณ 4 ซม.

เข้าห้องมาจะเจอกับตู้เก็บของกว้างประมาณ 2 เมตร

เป็นที่เก็บเครื่องซักผ้า มีชั้นวางของอีก 2 ชั้นความลึกประมาณ 70 ซม. ถือว่าค่อนข้างลึกมากเก็บของได้เยอะ สูงจรดฝ้า
แบ่งฟังก์ชันมาให้หลากหลาย จะเก็บรองเท้า เก็บไม้กวาด หรือเก็บไม้กอล์ฟที่มีขนาดยาวๆ ก็ยังได้

ฝั่งตรงข้ามตู้จะเป็นเคาน์เตอร์ครัว
ห้องนี้ได้เป็นแบบครัวเปิด เหมาะกับการทำอาหารเบาๆ ที่กลิ่นไม่แรงมาก
 ความสูงจากพื้นถึงห้องครัวอยู่ที่ 2.35 เมตร ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนสูง 2.45 เมตร ผนังฉาบเรียบทาสี

ได้เคาน์เตอร์ครัวขนาด 190x90 ซม. ลึก 60 ซม. ติดไฟราวมาให้ตามแบบนี้ ช่วยเพิ่มแสงสว่างเวลาที่ทำอาหาร
พื้นที่สำหรับวางตู้เย็นกว้างประมาณ 70 ซม. วางตู้เย็นได้ขนาด 7.5 คิว

 มีช่องเก็บของด้านบน บานพับตู้แบบ Soft Close ทั้งหมด
เครื่องดูดควันของ Electrolux ระบบดูดออกด้านนอกช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่น

หน้า Top เป็นหินควอตซ์ ทนต่อความร้อน รอยขีดข่วน และทนต่อความเป็นกรดเป็นด่างได้ดี
ที่ผนัง Backsplash กรุด้วยกระเบื้องขุ่นและเรียบสลับกันโทนสีน้ำตาล
ได้เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว ของ Electrolux

ได้อ่างล้างจานสี่เหลี่ยมแบบฝังขนาดไม่ใหญ่มาก และก๊อกน้ำหมุนได้ซ้าย-ขวา ของ Hafele

ได้โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งลายไม้ พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว

สามารถพับเก็บได้เวลาที่ไม่ได้ใช้งาน ก็จะทำให้พื้นที่ทางเดินตรงจุดนี้กว้างมากขึ้น

ข้อดีของการวางโต๊ะในมุมนี้คือใช้เป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารได้
แต่การวางเก้าอี้ตรงนี้เวลาที่จะเปิดใช้งานไมโครเวฟคงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก

พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60x60 ซม. ทนน้ำ ทนความชื้น และทำความสะอาดง่าย
ส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.

ห้องนั่งเล่นได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี

 ระยะดูทีวีประมาณ 165 ซม.

ประตูแบบบานเลื่อน 3 ตอน กระจกสีเขียวตัดแสง

ธรณียกสูง 12 ซม. ถือว่าค่อนข้างสูง ช่วยป้องกันน้ำได้ดี แต่เวลาเดินเข้าออกระวังสะดุดด้วย

ราวระเบียงสูงประมาณ 110 ซม. พื้นที่ระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ต่อท่อน้ำดีน้ำทิ้งมาให้พร้อมใช้งาน
มีห้องเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ทางขวามือ

ด้านล่างติดก๊อกน้ำมาให้ 1 จุด และมีพื้นที่เก็บของที่ไม่จำเป็นได้อีกนิดหน่อย
 ระแนงบังสายตาสีดำดีไซน์ให้ซี่กริลเป็นรูปตัว Z เพื่อระบายลมร้อนให้ออกไปยังด้านนอกระเบียงจะช่วยให้มุมนี้เย็นมากขึ้น

ประตูห้องนอนแบบบานสวิง มือจับก้านโยก
พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนต 8 มม. แบบเดียวกับห้องนั่งเล่น

เข้ามาจะเจอเตียงนอนอยู่มุมขวาของห้อง ได้เตียง 5 ฟุต ไม่รวมฟูก

ฐานเตียงมีลิ้นชักสำหรับเก็บของได้

ได้โต๊ะข้างเตียงลายไม้ตามแบบนี้

พร้อมโต๊ะอเนกประสงค์ ถ้าพับปิดจะเป็นโต๊ะทำงาน ถ้าเปิดขึ้นจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมเก้าอี้สีขาว 1 ตัว

หน้าต่างด้านล่างเป็นบานฟิกซ์ ด้านบนเป็นบานเลื่อน เลื่อนจากด้านข้างมาตรงกลาง กรอบอลูมิเนียมสีดำ

ตัวล็อคมาตรฐานตามแบบนี้

เตียงถึงหน้าต่างเหลือพื้นที่เดินประมาณ 15 ซม.

ระยะเดินปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 15 ซม.

ตู้เสื้อผ้า Built-in หน้ากว้าประมาณ 80 ซม. สูงจรดฝ้า หน้าบานเป็น Hi-Gloss สีขาวสลับกับกระจกเงา
บานพับ Soft Close ในตู้มีไฟส่องสว่างระบบ Manual พร้อมลิ้นชัก และช่องเก็บของ

ห้องน้ำอยู่ในห้องนอน ประตูบานสวิงมือจับก้านโยก

พื้นลดระดับ 3 ซม. ปูด้วยกระเบื้องกันลื่น

มีตัวกันกระแทกให้ที่ด้านหลังประตู

 ผนังลายหินอ่อนสีโทนน้ำตาล ได้กระจกเงาบานใหญ่

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Lavenz มีพื้นที่วางของที่ขอบอ่างนิดหน่อย

 ทางโครงการเดินระบบน้ำร้อนน้ำเย็นไว้ให้ สามารถซื้อเครื่องทำน้ำร้อนมาติดตั้งได้ที่บริเวณใต้อ่างล้างหน้า

ได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกเทมเปอร์  มือจับก้านโยก ประตูบานสวิงผลักเข้าด้านใน ตัวจับรูปตัว U สามารถแขวนผ้าขนหนูได้
ขอบประตูติดยางกันน้ำมาให้ช่วยป้องกันน้ำกระเด็นออกไปด้านนอกได้ดี มีตัวกันกระแทกติดให้ด้านหลังประตู

ได้ชุดฝักบัวของ Kohler ทรงกลม พร้อมที่วางสบู่แบบใส

ก๊อกหัวผสมแยกระบบน้ำร้อนกับน้ำเย็น

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler แบบประหยัดน้ำ
เจาะผนังบางส่วนสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ 2 จุด

ได้พัดลมดูดอากาศของ Panasonic

สวิตช์ไฟ และปลั๊กไฟสีขาวของ siemens

2) ภาพห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 57.67 ตร.ม. 

ห้องนี้จัดวางห้องครัวเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและระเบียง ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนใหญ่ และฝั่งขวาเป็นห้องนอนที่ 2

เข้ามาทางซ้ายเป็นตู้ Built-in สำหรับเก็บของ ขนาดเล็กกว่าห้องที่แล้ว กว้างประมาณ 60 ซม. สูงจรดฝ้า

ห้องนี้ได้ครัวเปิดเคาน์เตอร์ครัวตัว L

หน้า Top เป็นหินควอตช์สีขาว พื้นที่วางตู้เย็นกว้างประมาณ 70 ซม.

ได้พื้นที่เก็บของมากขึ้น บานตู้แบบบานเปิด Soft Close ทั้งหมด
ตำแหน่งไมโครเวฟเปิดใช้งานได้สะดวกมากขึ้นกว่าห้องที่แล้ว

ได้เตาไฟฟ้า 4 หัว และเครื่องดูดควันของ Electrolux
ได้ไฟราวแบบ LED ส่องสว่างตามแบบนี้

ปุ่ม (สีดำ) สำหรับเปิด-ปิดไฟราว LED อยู่ใกล้กับเครื่องดูดควัน

ได้โต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง แบบมัลติฟังก์ชัน ส่วนปลายของโต๊ะสามารถพับขึ้น-ลงได้

หากพับส่วนปลายโต๊ะขึ้นมาแล้วเลื่อนไปทางซ้ายจะเพิ่มพื้นที่บนโต๊ะทานอาหารได้อีกประมาณ 30 ซม.

พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ห้องนั่งเล่นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.

ห้องนี้ยังคงวางห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับระเบียง ได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง และแอร์
มีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 270 ซม. ถือว่ากว้างมากติดทีวีขนาดใหญ่ได้เลย

มีห้องเก็บคอมเพรสเซอร์อยู่ด้านข้างกั้นเป็นสัดส่วน

เข้าไปดูในห้องนอนที่ 2 กันต่อ

ได้เตียง 5 ฟุต ไม่รวมฟูก โต๊ะหัวเตียงและโต๊ะอเนกประสงค์

หน้าต่างบานใหญ่แสงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ทำให้ห้องดูสว่าง

ผนังปลายเตียงติดตั้งปลั๊กไฟมาให้ ได้แอร์อีก1 ตัว
ประตูบานห้องนอนเป็นบานสวิงมือจับก้านโยก มีตู้เสื้อผ้าด้านหลังประตูหน้ากว้าง 75 ซม.
ทางโครงการติดตัวกันกระแทกด้านหลังประตูมาให้เรียบร้อยป้องกันประตูชนกับตู้เสื้อผ้า

ใกล้กับตู้เสื้อผ้าเป็นห้องน้ำ

ตู้เสื้อผ้าหน้าห้องน้ำใหญ่กว่าบานที่แล้ว หน้ากว้าง 110 ซม

ได้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และฉากกั้นอาบน้ำเหมือนห้องที่แล้ว ต่างกันแค่ตำแหน่งการจัดวาง

ห้องน้ำแบบ Double Access เข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องครัว และห้องนอน

ใกล้กับห้องน้ำจะเป็นตู้สำหรับเก็บเครื่องซักผ้า ด้านบนเป็นชั้นวางของ

ไปดูห้องนอนใหญ่กันต่อ

ได้เตียงวางใกล้กับหน้าต่าง 

ปลายเตียง Built-in เป็นที่ชั้นวางทีวียาวประมาณ 120 ซม. มาให้ พร้อมโต๊ะอเนกประสงค์
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 60 ซม. เดินผ่านเข้าออกได้สบาย

ห้องนี้ยังได้โซฟาเบด และตู้เสื้อผ้าบานเปิด 5 บาน กว้างประมาณ 220 ซม. พร้อมแอร์อีก 1 ตัว 
เตียงถึงโซฟาเบดกว้างมากประมาณ 160 ซม. เดินได้สะดวก

มีห้องน้ำในห้องนอน ทางซ้ายเป็นอ่างล้างหน้า Lavenz ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ Kohler

ตรงข้ามโถสุขภัณฑ์เป็นฉากกั้นอาบน้ำ พื้นที่อาบน้ำเล็กกว่าห้องน้ำที่แล้วเล็กน้อย