2. การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าโดยใช้ BTS
รถไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสำหรับโครงการนี้ค่ะ ซึ่งแบริ่งเป็นสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดในปัจจุบัน
แผนที่บริเวณรถไฟฟ้าสถานีแบริ่ง (E14)
(คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่) สำหรับในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปรการ) ได้แก่
สถานีสำโรง (E15) ตั้งอยู่ระหว่างสะพานข้ามคลองสำโรงกับแยกเทพารักษ์ โดยจะอยู่ ใกล้ตัวโครงการมากขึ้น
ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ ขอบคุณภาพจาก mrta-greenline.net
และยังเป็นจุดเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) ได้แก่สถานีสำโรง (YL23)
ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ตั้งอยู่บริเวณแยกสำโรง
VIDEO โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง
รถสาธารณะอื่นๆ
จริงๆ แล้วพี่วินมอเตอร์ไซค์ในซอยนี้มีมากมาย เรียกได้ว่าพลุกพล่านสุดๆ แต่จะมีวินหลักๆ อยู่ 2 จุด
จุดแรกจะอยู่ตรงปากซอยริมถนนสุขุมวิท และอีกจุดจะอยู่ตรงข้ามโครงการตามรูปค่ะ
และถ้าช่วงเวลาเร่งรีบหน่อยจะเรียกไป BTS แบริ่ง ค่าบริการจะอยู่ที่ 20 บาทเท่านั้นค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีระบบขนส่งเอกชนอื่นๆ มีทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถตู้ และรถสองแถว ป้ายรถเมล์
อยู่หน้าอิมพีเรียลเวิลด์สำโรงค่ะ
โครงการ "ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 76 - แบริ่ง สเตชั่น" เป็นคอนโดมิเนียม Low-Rise ความสูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร (อาคาร A, B, C และ D) ลักษณะที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยังคงคอนเซปต์เป็นอาคารประหยัดพลังงาน "Green Concept" ซึ่งจะถูกนำมาใช้ในทุกๆ โครงการของ LPN โดยอาคาร B กับ C ผังอาคารจะเป็นรูปตัว I ส่วนอาคาร A กับ D ผังโครงการเป็นรูปตัว L โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละอาคารจะมีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ประมาณ 200 นิดๆ ด้านหน้าโครงการติดซอยสุขุมวิท 76 สิ่งอำนวยความสะดวกจะกระจายอยู่บริเวณชั้น 1 ของแต่ละอาคาร ยกเว้นอาคาร D ที่จะมีสระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนสอยู่ที่ชั้น 2 แต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสารมาให้ 2 ตัว อัตราส่วนเฉลี่ยในการใช้ลิฟต์อยู่ที่ประมาณ 111 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยตำแหน่งที่ตั้งของตัวโครงการแต่ละทิศจะติดกับ
ทิศเหนือ : เป็นพื้นที่เปล่า รอการพัฒนา เป็นวิวแบบเปิดโล่ง ทิศใต้ : ติดถนนสุขุมวิท 76 ทิศตะวันออก : อาคาร A และ B ติดกับชุมชน และบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2-3 ชั้น ส่วนอาคาร C และ D จะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง หันหน้าไปทางถนนรางรถไฟสายเก่า ทิศตะวันตก : อาคาร A และ B ติดกับชุมชน บ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2-3 ชั้น และอู่ซ่อมรถ ส่วนอาคาร C และ D จะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง จะเป็นวิวเมือง หันหน้าเข้าหาถนนสุขุมวิท โมเดลโครงการมุมมองจากทิศตะวันออกของทั้ง 4 อาคาร
โมเดลอาคาร A มุมมองจากทิศใต้ ติดถนนซอยสุขุมวิท 76 โดยใต้อาคาร A จะมี 7-Eleven อยู่ด้วย
โมเดลอาคาร A มุมมองจากทิศตะวันออก จากประตูทางเข้า ขับตรงเข้ามาจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ โดยอาคาร A จะมีส่วนที่เป็นร้านอาหารอยู่ด้วย
ระหว่างอาคาร B และอาคาร C จะเป็นสนามเด็กเล่น
โมเดลอาคาร D มุมมองจากทิศตะวันตก ชั้น 1 ทางโครงการจัดเป็นโซนสำหรับออกกำลังกายกลางแจ้ง พร้อมสวนพักผ่อน
ส่วนบนชั้น 2 จะเป็นสระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนส ซึ่งลูกบ้านทุกคนสามารถเข้ามาใช้บริการร่วมกันได้
Master Plan อาคาร A ชั้นล่าง จะเป็นพื้นที่จอดรถ และร้านค้า 4 ร้าน (7-Eleven ร้านซักรีด ร้านเสริมสวย และร้านอาหาร), ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ชั้น 2-8 จะเหมือนกันคือเป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 37 ยูนิต โดยจะมีห้องใหญ่ขนาด 33.50 ตร.ม. อยู่ชั้นละ 1 ยูนิต Master Plan อาคาร B ชั้นล่าง จะมีห้องสมุดมีชีวิต, พื้นที่จอดรถ, ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ชั้น 2-8 เป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 29 ยูนิต Master Plan อาคาร C ชั้นล่าง จะมีห้องกิจกรรมผู้สูงอายุ, ห้องกิจกรรมสำหรับเด็ก, พื้นที่จอดรถ และมีสนามเด็กเล่นตั้งอยู่ด้านนอกอาคาร พื้นที่ระหว่างอาคาร B กับอาคาร C ชั้น 2-8 เป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 29 ยูนิต Master Plan อาคาร D ชั้นล่าง จะมีตู้จดหมาย, ที่จอดรถ, ห้องเครื่องซักผ้า, สวนพักผ่อน, โซนออกเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง, ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ชั้น 2 จะมีสระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส และส่วนพักอาศัย ชั้น 3-8 เป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 34 ยูนิต ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกทางโครงการจัดให้ลูกบ้านพอสมควร ตามมาตรฐานของลุมพินี โดยกระจายอยู่โดยรอบโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณชั้น 1 ของแต่ละอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ อย่างสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ของโครงการจะอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร D ซึ่งลูกบ้านสามารถขึ้นได้จากทาง บันไดเท่านั้น ไม่สามารถใช้ลิฟต์ได้
โดยสิ่งที่ทางโครงการให้มาก็จะมี
สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ตู้จดหมาย ร้าน 7-ELEVEN ร้านซักอบรีด ร้านเสริมสวย ห้องสมุด ร้านอาหาร สนามเด็กเล่น ห้องเครื่องซักผ้า ห้องกิจกรรมผู้สูงอายุ สวนพักผ่อนและออกกำลังกายกลางแจ้ง ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคาร กล้องวงจรปิด CCTV พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ที่จอดรถประมาณ 30% หรือ 269 คันโดยประมาณ แบบรวมจอดซ้อนคัน มีรถ Shuttle Bus ที่จะคอยให้บริการวิ่งไปส่งที่รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง สระว่ายน้ำ ขนาด 6.50 x 23 เมตร ความลึกประมาณ 0.80 - 1.20 เมตร เป็นแบบสโลปเอียงนิดๆ พร้อมสระเด็ก
ด้านข้างของสระว่ายน้ำที่เห็นทางขวามือ จะเป็นห้องฟิตเนส
ภาพจำลองบรรยากาศเครื่องเล่นออกกำลังกายกลางแจ้ง บริเวณด้านข้างของอาคาร D
ภาพห้องตัวอย่างและ Lay Out
ห้องของโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted ตามมาตรฐาน LPN มีเฟอร์นิเจอร์ให้บางส่วน อาทิ ชุดเคาน์เตอร์ครัวแบบ Built-in และตู้เสื้อผ้า ลักษณะห้องพักอาศัยหันหน้าเข้าหาฝั่งทางด้านทิศตะวันออก และทิศตะวันตก สำหรับห้องทางฝั่งทิศตะวันตกทางโครงการยังติดเป็นห้องฝั่งทิศตะวันตกจะติดเป็นกระจกตัดแสงสีเขียว และติดฟิล์มกันความร้อนให้ โดยห้องพักอาศัยของโครงการนี้ก็ยังคงมีขนาดมาตรฐานตามแบบฉบับของลุมพินี โดยแบ่งขนาดห้องพักอาศัยออกมาประมาณนี้
ห้องแบบกั้นส่วนนอน พื้นที่ใช้สอย 22.50 ตร.ม. (คลิกเพื่อชมตัวอย่างแปลนห้องขนาดใหญ่) ห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 26.00 - 26.50 ตร.ม.(คลิกเพื่อชมตัวอย่างแปลนห้องขนาดใหญ่) ห้องแบบ 2 ห้องนอน (Combine ขนาด 22.50 ตร.ม. 2 ห้องชุดรวมกัน) พื้นที่ใช้สอย 45.00 ตร.ม. (คลิกเพื่อชมตัวอย่างแปลนห้องขนาดใหญ่) แต่สำหรับลูกค้าที่ต้องการให้ทางโครงการตกแต่งให้เลย ทางโครงการก็มี แพ็คเกจแต่งห้องสำเร็จรูปไว้เป็นทางเลือกเพื่อความสะดวกของลูกค้าเช่นกัน โดยจะได้ สเปคเหมือนกับห้องตัวอย่างเลย (ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ไม่ได้) ซึ่ง ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสเปคได้ ซึ่งราคาในการตกแต่งของแต่ละห้องก็จะแตกต่างกันออกไป เดี๋ยวตามไปดูของตัวอย่างของโครงการนี้กันค่ะ
1) ห้องแบบ สตูดิโอ ขนาด 22.50 ตร.ม. (ห้องเปล่าที่ส่งมอบให้ลูกค้า)
แพ็คเกจชุดแต่งห้องพร้อมอยู่ขนาด 22.50 ตร.ม. ราคาค่าตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 55,000 บาท
เปิดประตูเข้ามาเข้ามาจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น หรือห้องพักผ่อน เชื่อมต่อกับส่วนของห้องนอน
ที่กั้นด้วยกระจกบานสไลด์ แบบ 2 ตอน ด้านล่างเป็นกระจกฝ้า ด้านบนเป็นกระจกใสปกติ กรอบอลูมิเนียม ส่วนทางขวาของห้องจะเป็นห้องครัว และห้องน้ำ อีกมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น สำหรับวางทีวี ทางโครงการมีปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟมาให้
พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ได้ไฟดาวน์ไลท์กลมแบบนี้ ข้อดีคือช่วยประหยัดพลังงาน และไม่ร้อน
ส่วนกระจกในห้องนอนด้านบนเป็นแบบบานสไลด์ ด้านล่างเป็นบานติดตาย ภายในห้องนอนจะได้ตู้เสื้อผ้า Built-in
ปิดผิวหน้า top เป็นลามิเนต บานพับแบบปกติ ตั้งอยู่บริเวณปลายเตียง ด้านขวาของประตูทางเข้าห้องจะเป็นตำแหน่งของชั้นวางทีวี ทางโครงการติดตั้งปลั๊กไฟมาให้ด้วย
ส่วนทางเข้าห้องครัวจะปาดมุมเพื่อเพิ่มพื้นที่ทางเดินให้ดูกว้างขึ้นเพื่อสะดวกต่อการเดิน
ห้องของโครงการนี้เป็นครัวแบบครัวเปิดทั้งหมดค่ะ ก็ได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวชุดนี้เลย หน้า Top เป็นพาร์ติเคิลบอร์ด
ปิดผิวด้วยเมลามีนกันน้ำ กันความชื้น ทางซ้ายของครัวติดกับระเบียง ทางขวาติดกับห้องน้ำ
ที่ผนังได้กระเบื้องสำหรับกันเปื้อนมาให้บางส่วน พร้อมชั้นวางของ
ด้านล่างของเคาน์เตอร์เป็นตู้สำหรับเก็บของ และช่องสำหรับวางไมโครเวฟ
ด้านนอกเป็นระเบียงซักล้าง สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า ต่อท่อน้ำดีน้ำทิ้ง และก๊อกเตี้ยมาให้
ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ติดตั้งไว้ทางด้านขวามือ บนเพดานได้โคมดาวไลท์ (Downlight) 1 ดวง
เดินเข้ามาสำรวจภายในห้องน้ำกันบ้าง ภายในห้องน้ำจะแบ่งส่วนแห้งและส่วนเปียกออกจากกัน โดยโซนเปียกเป็นพื้นลดระดับเพื่อป้องกันน้ำขัง สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเป็นของ American Standard ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้
อ่างล้างหน้าเป็นของ Charmer ได้กระจกทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าขนาดไม่ใหญ่มาก ส่วนฝักบัวเป็นของ Hafele พร้อมที่วางสบู่ ในห้องน้ำติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วย 2) ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26.00 ตร.ม.
ฟังก์ชั่นการจัดวาง Layout ของห้องขนาด 26.00 ตร.ม. เหมือนกันกับห้องขนาด 22.50 ตร.ม. แต่ว่าห้องนี้จะมีความลึกของห้องมากกว่า โดยมี หน้ากว้าง 5.10 เมตร ลึก 5.20 เมตร โดยห้องนี้เป็นห้องที่ตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้นนะคะ
ตัวอย่างชุดแต่งห้องพร้อมอยู่ขนาด 26.00 ตร.ม. ราคาค่าตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 185,000 บาท
ประตูห้องที่ได้เป็นแบบกลอนลูกบิดธรรมดา มีช่องมองตาแมวให้
ตัวจบประตูทางเข้าห้องเป็นลามิเนต
เดินเข้ามาให้ห้องก็จะเป็นห้องนั่งเล่น ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.40 เมตร พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มม.
ห้องนอนเป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นประตูบานสไลด์
ทางซ้ายของห้องเป็นมุมของชั้นวางทีวี ติดกับทางเดินเข้าครัว
ด้านบนเหนือชั้นวางทีวี เปิดตู้ออกมาเป็นเจอกับตู้เบรคเกอร์
ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง และด้านข้างยังวางโต๊ะทำงานได้อีก 1 ชุด
ในห้องนอนเหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 5 ฟุต เพื่อที่จะได้เหลือพื้นที่ข้างเตียงสำหรับตั้งโต๊ะหัวเตียงได้
ปลายเตียงเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in
เปิดมาด้านในเป็นแบบนี้ค่ะ ในครัวได้เคาน์เตอร์หน้า Top เป็นพาร์ติเคิลบอร์ดเหมือนเดิม แต่เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นกว่าห้องที่แล้ว
และได้ช่องเก็บของตรงกลางเพิ่มมากขึ้น
ด้านขวาของครัวติดกับระเบียงช่วยระบายกลิ่นเวลาทำอาหารได้ดี โต๊ะอาหารได้เป็นแบบ 2 ที่นั่งชิดผนังลักษณะนี้
ย้ายมาดูในห้องน้ำกันค่ะ ระหว่างห้องน้ำกับครัวจะกั้นด้วยธรณีประตูค่อนข้างสูง
ภายในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์เหมือนกันกับห้องที่แล้ว แต่ห้องนี้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยค่ะ
3) ห้องแบบ 2 ห้องนอน (Combine ขนาด 22.50 ตร.ม. 2 ห้องชุดรวมกัน) พื้นที่ใช้สอย 45.00 ตร.ม.
Layout และฟังก์ชั่นจะเป็นแบบตามที่เห็น ลูกค้าไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยหนึ่งห้องจะถูกปรับเป็นห้องนั่งเล่น
ส่วนอีกห้องจะทำเป็นห้องนอนใหญ่ และห้องนอนเล็ก โดยห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำอยู่ในตัว
แพ็คเกจชุดแต่งห้องพร้อมอยู่ขนาด 45.00 ตร.ม. ราคาค่าตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 495,000 บาท
เดินเข้ามาจะเจอกับส่วนของมุมทานอาหาร
ซึ่งเป็นโต๊ะขนาด 4 ที่นั่ง เชื่อมต่อกับส่วนของห้องรับแขก โดยพื้นที่รับแขกของห้องนี้มีขนาดและพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง ฝั่งซ้ายที่ติดกับประตูจะเป็นตู้เก็บของ ซึ่งมีช่องเก็บของทั้งด้านบน และด้านล่าง
ด้านขวาของประตูเป็นส่วนของห้องนอน แบ่งเป็นห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่
เข้ามาในห้องนอนเล็กติดกับประตูจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ทรงสูงจรดเพดาน
ถัดมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกะทัดรัด โทนสีเดียวกันกับตู้เสื้อผ้า
ภายในห้องนอนเล็กสามารถวางเตียงแบบ 3.50 ฟุต ได้
ที่มุมหัวเตียงมีหน้าต่างบานสไตล์เปิดไปมองเห็นส่วนของ Walk in Closet
ภายในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว พร้อมตู้เสื้อผ้า และมุมแต่งตัวที่เป็นแบบ Walk in Closet บริเวณด้านหลัง
ผนังบริเวณเยื้องๆ กับปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับติดทีวีแบบแขวนผนัง
เดินผ่านห้องนอนเข้ามาสำรวจ
Walk in Closet ด้านในกันค่ะ ในโซนนี้ตรงกลางจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in แบบบานเปิดทรงสูง ส่วนด้านข้างจะเป็นระเบียง ด้านนอกระเบียงติดตั้งท่อน้ำดี น้ำทิ้งไว้ให้เรียบร้อย คอมเพรสเซอร์ติดอยู่ทางผนังด้านขวาของระเบียง บนเพดานได้ไฟดาวไลท์ 1 ดวง ติดกันกับตู้เสื้อผ้ามีโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมกระจกเงามาให้ด้วย
ฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะเครื่องแป้งเป็นชั้นสำหรับวางของ มีหน้าต่างแบบบานเลื่อนมองเห็นห้องนอนเล็กได้
ส่วนสุขภัณฑ์เป็น American Standard และอ่างล้างหน้า Charmer เหมือนเดิม
เดี๋ยวย้ายไปดูในครัวกันค่ะ ห้องนั่งเล่นนี้สามารถวางโซฟาเข้ามุมแบบ L-Shape ได้
มีฉากกั้นเพื่อความเป็นสัดส่วนระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องครัว
เดินเข้ามาในครัวจะมีเคาน์เตอร์ครัวอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายติดกับห้องน้ำ ด้านขวาติดกับระเบียง
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำได้เหมือนกันค่ะ
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ (15 ธ.ค. 58)