รีวิว-เยี่ยมชม เอสเพน คอนโด ลาซาล (Aspen Condo Lasalle)

ค่ายน้องใหม่แต่เก๋าประสบการณ์อย่าง "มานะพัฒนาการ" เปิดตัวคอนโดใหม่ทั้งที Checkraka ก็ไม่พลาดที่จะพาทุกท่านมาเยี่ยมชมกันค่ะ โครงการนี้มีชื่อว่า "เอสเพน คอนโด ลาซาล" มาพร้อมกับแนวคิดแนวคิด Ultimate Simplicity โครงการนี้เป็นแบบ Low-Rise แต่งครบพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทน อีกทั้งใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง สถานีศรีลาซาล (ในอนาคต) เพียง 400 เมตร เรียกว่าทั้งทำเลและตัวโครงการน่าสนใจทีเดียว ไปชมรายละเอียดกันเลยค่ะ

• เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ : ถนนลาซาล (สุขุมวิท 105) แขวงบางนา เขตบางนา กทม.
• อาคารชุดพักอาศัยสูง : 8 ชั้น 2 อาคาร
• ขนาดที่ดินทั้งโครงการ : 3-3-78.1 ไร่
• ลิฟต์ : ลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้น 2 ตัวต่ออาคาร
• ห้องพักอาศัย : แบบ 1 ห้องนอน แบ่งเป็น 3 Type ขนาด 23.80 - 35.00 ตร.ม.
• ที่จอดรถ : ประมาณ 35% รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาเริ่มต้น : 1.45 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 27 ต.ค. 58)
• สถานะโครงการ : อยู่ระหว่างขอยื่น EIA
• วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด 27 ต.ค. 58

บริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 600,000,000 บาท เป็นบริษัทลูกของ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านวิศวกรรม และการก่อสร้างชั้นนำของประเทศ

ด้วยความรู้และประสบการณ์กว่า 40 ปี ที่เชี่ยวชาญการดำเนินการทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ จึงนำมาสู่การตัดสินใจก่อตั้ง บริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด ขึ้น เพื่อต้องการรุกธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง โดยมีทีมผู้บริหารมืออาชีพริเริ่มการพัฒนาโครงการ อาทิเช่น โครงการ บารานี พาร์ค ร่มเกล้า, และโครงการ บารานี การ์เด้นท์, ฯลฯ ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการ "สร้างบ้านเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าให้ได้มาตรฐานและตรงความต้องการให้มากที่สุด" เพราะเรามีความเชื่อว่า บ้านคือสถานที่ที่ทุกคนกลับมาเพื่อ "พักผ่อนอย่างมีความสุข"

เอสเพน คอนโด ลาซาล ตั้งอยู่ที่ ถนนลาซาล (สุขุมวิท 105) แขวงบางนา เขตบางนา กทม. อยู่เยื้องกับโรงพยาบาลศิครินทร์ และห่างจาก BTS สถานีแบริ่ง ประมาณ 5 กม. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีลาซาล ประมาณ 400 ม.

ภาพแผนที่โครงการ เอสเพน คอนโด ลาซาล (Aspen Condo Lasalle)

ภาพแผนที่โครงการแจกแจงให้เห็นระยะใกล้-ไกลของโครงการกับสถานที่ หรือ Landmark รอบๆ โครงการที่น่าสนใจ
google map พิกัด : 13.655142, 100.646420

โรงพยาบาลศิครินทร์ อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 10 เมตร

แมคโคร ศรีนครินทร์ อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.5 กิโลเมตร

บิ๊กซี ศรีนครินทร์ อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.6 กิโลเมตร

โรงเรียนลาซาล อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.3 กิโลเมตร

โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.7  กิโลเมตร

โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.9 กิโลเมตร

ตลาดสดลาซาล อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กิโลเมตร

เซ็นทรัล บางนา อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4 กิโลเมตร

1. เดินทางด้วยรถยนต์

การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถมาได้หลายเส้นทาง โดยมีเส้นทางหลักดังต่อไปนี้ค่ะ

ขาเข้าโครงการ เส้นทางที่ 1 จากถนนสุขุมวิทเลี้ยวเข้าถนนลาซาล

เดี๋ยวเราลองมาดูตัวอย่างการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากทางถนนลาซาลกันค่ะ

ขาเข้าโครงการ เส้นทางที่ 2 จากทางพิเศษเฉลิมมหานครเข้าถนนศรีนครินทร์

ขาออกโครงการ เส้นทางที่ 1 ออกทางถนนศรีนครินทร์และขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร

ขาออกโครงการ เส้นทางที่ 2 ไปชลบุรี สำโรง บางพลี

2. เดินทางด้วยรถไฟฟ้า

• รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง

แผนที่รถไฟฟ้า BTS 
ขอบคุณภาพจาก http://www.bts.co.th/

เมื่อถึงสถานีแบริ่งให้ลงทางออกที่ 1 จะลงมาเจอปากทางถนนลาซาลพอดีค่ะ ต้องนั่งรถ 2 แถวต่อเข้าไป

• รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง) เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ซึ่งกระทรวงคมนาคมโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรได้เร่งรัดแผนงานจากกำหนดการเดิมในปี พ.ศ. 2572 มาอยู่ในช่วงแผนงานปัจจุบันคือ พ.ศ. 2562 ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนลาดพร้าว โดยจะเป็นระบบรถไฟฟ้ายกระดับแบบโมโนเรล มีแนวเส้นทางอยู่ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานครและสิ้นสุดเส้นทางในจังหวัดสมุทรปราการ เริ่มต้นจากปากทางถนนลาดพร้าว แล้ววิ่งไปจนถึงด้านหน้าของแฮปปี้แลนด์ จากนั้นก็จะวิ่งไปต่อบนถนนศรีนครินทร์จนถึงปลายทางย่านสำโรงในจังหวัดสมุทรปราการ ระยะทางรวมทั้งหมด 30.4 กิโลเมตร โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือ "สถานีศรีลาซาล" ตั้งอยู่บริเวณแยกศรีนครินทร์ ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร

3. เดินทางด้วยรถโดยสาร

เมื่อลงรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง ทางออกที่ 1 มาแล้ว ก็เดินเข้ามาในถนนลาซาลประมาณ 100 เมตร ขึ้นรถสองแถวคันใหญ่มาได้เลยค่ะ รถสายนี้วิ่งทั้งเส้นลาซาล ผ่านหน้าโครงการพอดี

แผนที่แสดงสภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆ โครงการ

พื้นที่บริเวณรอบๆ โครงการส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้า ร้านอาหารค่ะ อาหารการกินเรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์มาก เดินมาซื้อได้เลยไม่จำเป็นต้องใช้รถค่ะ ส่วนความสูงรอบๆ นั้นส่วนใหญ่จะเป็น 2- 3 ชั้น ยกเว้นซิตี้โฮมแต่ก็ไม่ได้อยู่ติดกันกับโครงการนะคะ ห่างออกไปพอสมควร ที่สำคัญอุ่นใจได้เพราะอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลเลย  เดี๋ยวเราเริ่มเดินจากโครงการไปดูกันค่ะ

สำนักงานขายจะอยู่ติดถนนลาซาลค่ะ มองจากทางเข้า-ออกก็จะอยู่เยื้องๆ กับโรงพยาบาล

ติดกับโครงการทางขวามือก็คือโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น

เดินมาอีกนิดหน่อยก็จะเป็นทาวน์โฮมที่เปิดเป็นร้านขายยา ขายอาหาร ร้านเสริมสวยค่ะ

ไปฝั่งตรงข้ามกันบ้าง หน้ารพ.ศิครินทร์จะมีร้าน Starbucks ร้านใหญ่ใช้ได้เลยค่ะ

ถัดไปอีกหน่อยเป็นซูเปอร์มาเก็ต

มีร้าน S&P ด้วยค่ะ

เรายังอยู่ฝั่งโรงพยาบาลนะคะ เดินมาเรื่อยๆ จะเจอโครงการบ้านสวนลาซาล

เดินมาเรื่อยๆ จนใกล้จะถึง 4 แยก ตรงนี้จะเป็นทางเข้าโครงการพาร์คแลนด์

นอกจากร้านอาหารที่ร้าน แล้วยังมีร้านที่ให้อารมณ์เหมือนเดินตลาดน้ำ ตกแต่งสไตล์ท้องถิ่นได้อารมณ์ไปอีกแบบค่ะ

ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด บะหมี่ ก็มีให้เลือกซื้อกัน

ใกล้ๆ สี่แยกมีวินมอเตอร์ไซค์ด้วยค่ะ เดี๋ยวเราข้ามถนนไปอีกฝั่ง เดินดูสภาพแวดล้อมกันต่อเลย

อาหารการกินเยอะมาก อยู่แถวนี้ไม่ต้องห่วงมีอาหารทุกประเภทเลยค่ะ

เดินไปอีกหน่อยมีร้านล้างรถ 

อาคารนี้เป็นหอพักสำหรับพยาบาลโรงพยาบาลศรีนครินทร์ด้านล่างมี 7-11

ตัวที่ตั้งโครงการจะอยู่ห่างจากสำนักงานขายปัจจุบันลึกเข้าไปด้านในประมาณ 300 เมตร ตัวอาคารรูปทรงตัว U ความสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 425 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร 1 มี 212 ยูนิต และอาคาร 2 มี 213 ยูนิต โดยทั้ง 2 อาคาร หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ที่จะเป็นถนนศรีนครินทร์ การออกแบบสไตล์โมเดิร์น เลือกใช้สีเอิร์ธโทน เน้นความเป็นส่วนตัว จำนวนยูนิตไม่เยอะ โดยห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไปค่ะ

เดี๋ยวมาดูในส่วนของ Floor Plan ของโครงการกันค่ะ ว่าแต่ละชั้นมีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง

อาคาร 1 (ชั้น 1)  : จะมี Lobby, ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และพื้นที่จอดรถบริเวณใต้อาคาร และด้านหลังของอาคาร
มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนการใช้ลิฟต์อยู่ที่ 106 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดี
ส่วนชั้นใต้ดิน : จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด

อาคาร 2 (ชั้น 1) : จะมี Lobby, ห้องอ่านหนังสือ, ห้องประชุม สวนพักผ่อนพร้อมลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง และที่จอดรถด้านหลังอาคาร
ส่วนชั้นใต้ดิน : จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดเช่นกัน

ชั้น 2 : เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด มีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 26 ยูนิต/ชั้น

อาคาร 1 (ชั้น 3-8) : จะมี Layout เดียวกัน คือเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด มีจำนวนห้องพักอาศัยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 31 ยูนิต/ชั้น 
โดยแต่ละชั้นจะมีห้อง Type C ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่เพียง 6 ยูนิต/ชั้น เท่านั้น (สีเทาเข้ม) ซึ่งอยู่มุมๆ
โดยจะพิเศษกว่าห้องอื่นๆ ตรงที่จะได้หน้าต่างแบบเข้ามุมทำให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด

อาคาร 2 (ชั้น 3-8) : ก็จะคล้ายกันกับอาคาร 1 คือเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด มีจำนวนห้องพักอาศัย 31 ยูนิต/ชั้น
แต่ขนาดพื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องอาจจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกทางโครงการจัดมาให้ลูกบ้านค่อนข้างเยอะถ้าเทียบกับคอนโด Low-rise ทั่วไป โดยสิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 1 โดยกระจายอยู่ทั้ง 2 อาคาร หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ส่วนลานจอดรถจะอยู่ตั้งแต่ชั้นใต้ดิน และชั้น 1 บริเวณด้านหลังของทั้ง 2 อาคาร ที่จอดรถโดยรวมประมาณ 35% แบบจอดซ้อนคัน โดยสิ่งที่ทางโครงการให้มาก็จะมี

• โถงต้อนรับ แยกแต่ละอาคาร
• สระว่ายน้ำ
• ห้องออกกำลังกาย
• สวนส่วนกลาง พร้อมลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง
• ลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้น 2 ตัว/อาคาร
• ที่จอดรถประมาณ 35% (แบบรวมจอดซ้อนคัน)
• ระบบรักษาความปลอดภัย รปภ. 24 ชม.
• ระบบ Access control
• กล้อง CCTV
• ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน บริเวณโถงทางเดิน

ทางเข้าโครงการเป็นถนนส่วนบุคคล กว้าง 7 เมตร เดินรถ 2 ทางสวนกัน 
โดยริมถนน 2 ข้างทางจะปลูกต้นไม้สูงตลอดแนว ให้ความรู้สึกร่มรื่น

จากทางเข้าโครงการขับตรงเข้ามาจะเจอป้อม รปภ. และไม้กระดกกั้นอยู่ทางขวามือ
และถัดไปจะเป็นจุด Drop off ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร

จากจุด Drop off ขับตรงเข้ามาจะเจอกับพื้นที่จอดรถบางส่วนที่อยู่ด้านหลังของทั้ง 2 อาคาร
ส่วนทางขึ้น-ลง ลานจอดรถจะอยู่ใต้อาคารของทั้ง 2 ตึก

สระว่ายน้ำเล่นระดับระหว่างสระผู้ใหญ่ และสระเด็ก ส่วนห้องฟิตเนสก็อยู่ใกล้ๆ กับสระแค่นิดเดียว

บริเวณสวนพักผ่อน ทางโครงการจะปลูกต้นไม้ และจัดชุดเก้าอี้มาให้สำหรับให้ลูกบ้านได้มานั่งพักผ่อน
พร้อมมีลู่วิ่งจ๊อกกิ้งมาให้ด้วย

ด้านข้างของสวนจะประดับด้วยสระน้ำ เพิ่มความสดชื่น และถัดไปจะเป็นห้องอ่านหนังสือ,
ห้องประชุม และออฟฟิศนิติบุคลคล

ล็อบบี้ของอาคาร 1 แบบ Double Volume ตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย

ห้องออกกำลังกายก็เน้นตกแต่งด้วยกระจกเช่นกัน

จากห้องออกกำลังกายสามารถมองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำได้

สระว่ายน้ำระบบเกลือ 20x6 เมตร (สระผู้ใหญ่) ลึก 1.2 พื้นเป็นแบบเสมอกัน บันไดแบบยกระดับขึ้นมา ด้านข้างสระเป็นระเบียงไม้พร้อมเตียงนอนอาบแดด โดยความสูงของผิวน้ำที่สระว่ายน้ำจะอยู่ต่ำจากชั้น 2 ลงมานิดหน่อย 
ส่วนสระเด็กมีขนาดประมาณ 5x6 เมตร ลึก 0.45 เมตร ระหว่างสระเด็กกับสระผู้ใหญ่จะเป็นสระแบบน้ำล้น

ล็อบบี้ของอาคาร 2 ก็เป็นแบบ Double Volume เช่นกัน

ห้องอ่านหนังสือ ความสูง 2 ชั้น แบบ Double volume

จากห้องอ่านหนังสือมองออกไปจะเห็นเป็นวิวสวน และพื้นที่นั่งเล่นแบบ Out door

ห้องของโครงการนี้ทั้งหมดเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด โดยขายแบบ Fully Furnished ได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และแบบลอยตัว โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ทางโครงการสั่งทำ Built-in ขึ้นมาพิเศษเฉพาะสำหรับโครงการนี้ พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า 5 รายการ (ตู้เย็น ไมโครเวฟ ทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น Digital Door Lock) และ แอร์ ห้องละ 2 ตัว ที่ห้องนอน และห้องนั่งเล่น ยกเว้นของตกแต่ง ผ้าม่าน และฟูกที่นอน โดยห้องของที่นี้แบ่งออกเป็น 3 Type ด้วยกัน

1. ห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A (1 ห้องน้ำ, 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัวเปิด) - เนื้อที่ 23.80 - 24.50 ตร.ม.
    (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง)  
2. ห้องแบบ 1 ห้องนอน Type B (1 ห้องน้ำ, 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว) - เนื้อที่ 26.20 - 27.10 ตร.ม.
    (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง) 
3. ห้องแบบ 1 ห้องนอน Type C (1 ห้องน้ำ, 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว) - เนื้อที่ 34.30 - 35.00 ตร.ม.
    (คลิกเพื่อชมแปลนห้อง) 

ภาพห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Type A

Layout ห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24 ตร.ม.

ประตูแบบ Over size ขนาดใหญ่กว่ามาตรฐาน สั่งทำพิเศษ พร้อม Digital Door Lock ของ Samsung
สามารถใช้ได้ทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ (Finger scan) วิธีใช้คือกดปุ่ม Open และใช้นิ้วสแกน
สามารถจดจำได้สูงสุด 8 คน และระบบพาสเวิร์ด

พื้นห้องเป็นไวนิล กระเบื้องยาง ลายไม้ ได้ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง ทนน้ำ ทนแดด ไม่พองตัวง่าย
โดยพื้นในห้องจะเสมอกับโถงทางเดิน ทางโครงการติดตัวจบประตูมาให้ป้องกันฝุ่นและแมลงเข้าห้อง

ความสูงของห้อง 2.4 เมตร ไฟเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์แบบ LED ไม่ร้อน และประหยัดไฟ
 ผนังภายในห้องเป็นอิฐมวลเบา

ทางด้านซ้ายติดกับประตู จะเป็นโต๊ะทานข้าว พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว

ด้านขวาของประตูเป็นครัวแบบเปิด เคาน์เตอร์ครัวหน้า Top เป็นหินสังเคราะห์
ได้ชุดครัวของ FRANKE เครื่องดูดควันเป็นระบบหมุนเวียน พร้อมไมโครเวฟ และตู้เย็นขนาดประมาณ 6 คิว

ติดกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นชั้นวางทีวี โดยโครงการ Built-in ชั้นวางทีวีมาให้ตามแบบนี้
พร้อมทีวี LED ขนาด 40 นิ้ว ของ Samsung แบบตั้งโต๊ะ ไม่ได้ติดผนังมาให้นะคะ

โซฟาที่ได้แบบ 2 ที่นั่ง โทนสีขาวสะอาดตา
ระหว่างห้องนั่งเล่น กับห้องนอนกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อนแบบ 2 ตอน ความกว้างของระเบียงขนาด 2.55 x 0.90 เมตร
ราวกันตกแบบเหล็กซี่ สูง 1.20 เมตร ติดตั้งไฟโคมที่เพดานระเบียงมาให้ 1 ดวง
ส่วนเครื่องซักผ้าจะอยู่ทางด้านข้างของระเบียง ติดตั้งระบบน้ำ ระบบไฟมาให้เรียบร้อย
คอมเพรสเซอร์แอร์ แขวนไว้ด้านบน 2 ตัว เป่าลมร้อนออกด้านนอก

ภายในห้องนอนได้เตียงขนาด 5 ฟุต ฐานเตียงไม่ฟิก สามารถเคลื่อนย้ายได้
ผนังหัวเตียงตกแต่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ของจริงเป็นฉาบเรียบทาสี ชิดติดผนังไม่มีไฟซ่อนที่หัวเตียงนะคะ
ได้ตู้เสื้อผ้า Built-in สูงจากพื้นถึงเพดาน อยู่ด้านข้างของเตียง

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American standard ผนังเป็นกระเบื้องโมเสคให้แบบนี้ พร้อมไฟซ่อนด้านล่างใต้กระจก
ห้องขายจริงเพดานด้านบนจะชิดติดผนัง และไม่มีไฟซ่อนให้ Shower box เป็นกระจกเทมเปอร์ของ Oversea
ภายในโซนอาบน้ำเจาะช่องเป็นชั้นสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ทางโครงการติดเครื่องทำน้ำอุ่นแบบ 3,500 วัตต์ ของ Stiebel มาให้ด้วยค่ะ

อ่างล้างหน้าของ Mogen มีช่องเก็บของด้านล่าง
ของจริงโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้าจะชนกับผนังเลย ไม่มี Top ให้ เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด 

มีไฟดาวน์ไลท์สี่เหลี่ยม และตัวดูดอากาศให้

ภาพห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Type B

Layout ห้องแบบ 1 ห้องนอน Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอย 27 ตร.ม.

ประตูระบบ Digital Door Lock ของ Samsung เหมือนกัน

เปิดประตูเข้ามาทางขวามือจะเป็นโต๊ะวางทีวี พร้อมทีวี Samsung LED ขนาด 40 นิ้ว แบบตั้งโต๊ะเช่นกัน
จุดนี้จะได้แอร์ Samsung ขนาด 9,000 BTU 1 เครื่อง

ฝั่งตรงข้ามเป็นชุดโซฟาโทนสีเทาขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งอยู่ติดกับครัว

ห้องนี้จะได้ครัวปิด ประตูกระจกเป็นบานเลื่อนแบบ 2 ตอน สามารถเปิดได้ทั้ง 2 ด้าน
ข้อดีคือช่วยป้องกันกลิ่นได้ดีเวลาทำอาหาร

เคาน์เตอร์ครัวขนาดพอกันกับห้องที่แล้ว ตู้เก็บของได้ทั้งหมดตามนี้ หน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนต
สีตามนี้ ต่างกันที่ตำแหน่งตู้เย็นจะย้ายมาอยู่ทางซ้ายของเคาน์เตอร์

เปิดออกมาหน้าตาประมาณนี้ บานเปิดปิดเป็นแบบบานสวิง และบานกดกระเด้ง

ได้ชุดครัวของ FRANKE เช่นกัน เครื่องดูดควันเป็นระบบหมุนเวียน

ได้โต๊ะทานข้าวสีดำ พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ตั้งอยู่ภายในห้องครัว หรือจะใช้ส่วนนี้ไว้สำหรับเป็นพื้นที่เตรียมอาหารก็ยังได้

ระเบียงขนาด 2.20 x 0.90 เมตร เครื่องซักผ้าไว้ด้านนอกเช่นเคย

ติดตั้งก๊อกน้ำ และระบบไฟมาให้เรียบร้อย

ย้ายเข้ามาดูในส่วนของห้องนอนกันบ้างค่ะ ประตูห้องนอนจริงจะเป็นแบบเปิดเข้า
ภายในห้องจะได้เตียงแบบ 5 ฟุต ตั้งอยู่ริมหน้าต่าง

หน้าต่างเป็นแบบบานกระทุ้ง 1 บาน สำหรับระบายอากาศ และแบบบานติดตาย

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 30 ซม. มีปลั๊กไฟอยู่ที่หัวเตียง 1 จุด ไม่มีสวิตช์ให้นะคะ ที่เห็นนั้นเป็นเพียงของตกแต่ง

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ให้เดินได้สบาย และในห้องนอนนี้ยังได้แอร์ ขนาด 9,000 BTU ติดมาให้ด้วยอีก 1 ตัว

ตู้เสื้อผ้าขนาดเดียวกันกับห้องที่แล้ว ภายในตู้เป็นแบบนี้ค่ะ

สุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นกัน
แต่ฉากกั้นอาบน้ำของห้องนี้จะพิเศษกว่าห้องที่แล้วตรงที่เป็นกระจกแบบ 2 ด้าน

ฝักบัวของ American Standard

แต่กระจกจะบานเล็กกว่าห้องที่แล้ว ส่วนอ่างล้างหน้าของ Mogen เช่นกัน 

ภาพห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Type C

และห้องสุดท้ายเป็น Layout ห้องแบบ 1 ห้องนอน Type Bฺ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34 ตร.ม.

ประตูระบบ Digital Door Lock ของ Samsung เหมือนเดิม

เปิดประตูเข้ามาด้านหลังจะติดตัวกันกระแทกมาให้

เปิดเข้ามาทางขวามือจะเป็นตำแหน่งของโต๊ะทานข้าวและครัว

โต๊ะทานข้าวห้องนี้ใหญ่ขึ้นกว่าห้องที่แล้ว มีด้วยกัน 4 ที่นั่ง ได้วัสดุ และสีตามแบบนี้ เก้าอี้ตัวยาวเป็นไม้ดูแข็งแรงดีทีเดียว

เคาน์เตอร์ครัวได้แบบ และขนาดเดียวกันกับห้องก่อนหน้านี้
แตกต่างตรงที่เครื่องดูดควันของห้องนี้จะเป็นระบบดูดอากาศออกด้านนอก

ชั้นวางทีวีที่ได้ก็ขนาดใหญ่กว่าห้องที่ผ่านมา Built-in แบ่งเป็นช่องเก็บของเล็กๆ สูงถึงเพดาน สำหรับเพิ่มความเป็นระเบียบในการเก็บของ (แต่ไม่ได้กล่องใส่เอกสารสีดำนะคะ) แต่กล่องแบบนี้สามารถหาซื้อได้ตาม SB หรือ IKEA ค่ะ

ได้โซฟา 2 ที่นั่งเช่นเคย ได้แอร์ Samsung ขนาด 12,000 BTU 1 ตัว

ขนาดระเบียงก็ใหญ่กว่าห้องที่ผ่านมา ก็มีขนาดประมาณ 3.05 x 0.95 เมตร
จุดวางเครื่องซักผ้าอยู่ด้านข้างระเบียง

ขยับไปดูห้องนอนกันค่ะ

ได้เตียงขนาด 5 ฟุต หัวเตียงติดผนัง ห้องที่ขายจริงเป็นฉาบเรียบสีเทา

มีปลั๊กไฟที่หัวเตียงมาให้ด้วย ส่วนโต๊ะข้างเตียงเป็นเพียงของตกแต่ง

ปลายเตียงเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า และแอร์ขนาด 9,000 BTU อีก 1 เครือง

เปิดตู้ออกมาหน้าตาประมาณนี้

ด้านข้างตู้สามารถวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกะทัดรัด หรือจะวางเป็นชั้นวางทีวีก็ได้

ย้ายไปดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ ซึ่งจะอยู่ติดกับส่วนของครัว

พื้นห้องน้ำ Drop ลงมาประมาณ 5 ซม. ป้องกันน้ำไหลออกไปด้านนอก

กระจกได้แบบนี้ มีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศมาให้ 1 บาน

ห้องนี้จะได้ Top มาให้ตามแบบนี้ เพิ่มเป็นพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำได้อีกนิดหน่อย ได้กระเบื้องโมเสคเหมือนกัน

ได้ Shower box เหมือนห้อง Type A ค่ะ

ได้ชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำเหมือนกัน

1 ห้องนอน Type A ราคาเริ่มต้น 1.45 ล้านบาท
1 ห้องนอน Type B ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
1 ห้องนอน Type C ราคาเริ่มต้น 2.21 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง : 35 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี) ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
เงินกองทุนแรกเข้า : 500 บาท/ตร.ม. (เก็บครั้งเดียว) ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ : ผู้ซื้อและผู้ขายแบ่งชำระค่าใช้จ่ายคนละครึ่ง
ค่ามิเตอร์ไฟฟ้า : ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ
ค่าเงินประกันมิเตอร์น้ำ : ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ

• การเดินทางเข้า-ออกโครงการ - การเดินทางโดยรถยนต์สะดวกทั้งทางถนนสุขุมวิทและทะลุออกมาทางถนนลาซาล หรือจะเข้าทางถนนศรีนครินทร์เลยก็สะดวกค่ะ แล้วแต่ว่าจะมาจากทางไหน หากใช้ขนส่งสาธารณะก็สามารถลงสถานีแบริ่ง และต่อรถสองแถวที่หน้าปากซอยลาซาลผ่านหน้าโครงการได้เลย แต่ถ้าใครกลับดึกมากๆ อาจจะต้องนั่งแท็กซี่อย่างเดียวเลยค่ะ และในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีศรีลาซาล อยู่ที่บริเวณแยกศรีนครินทร์ คาดว่าจะสร้างเสร็จประมาณปี 2562

• ทำเลรอบโครงการ - ลาซาลเป็นถนนที่บางคนคิดว่าเป็นซอยเล็กๆ ไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้ว ลาซาลเป็นย่านที่มีของกินของใช้ขายอุดมสมบูรณ์ไปตั้งแต่หัวถนนไปถึงท้ายถนนเลยค่ะ ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ที่บริเวณท้ายๆ ของถนน ด้วยความที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลใหญ่ จึงทำให้สภาพแวดล้อมเจริญมาก อาหารการกินมีขายเยอะ ยิ่งช่วงเย็นๆ ยิ่งคึกคักค่ะ ตั้งแต่แยกศรีนครินทร์เป็นต้นไปจะมีโครงการทั้งคอนโดทั้งบ้านเดี่ยว รวมๆ แล้วก็ 3- 4 โครงการ แต่ทำเลที่ตั้งของโครงการนั้นไม่ได้ถูกตึกสูงบังวิว ยิ่งไปกว่านั้นที่ดินที่ติดกับโครงการปัจจุบันเป็นลานจอดรถของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ในอนาคตแว่วๆ มาว่าจะพัฒนาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ อารมณ์เดียวกับปาลิโอ เขาใหญ่อีกด้วย

• อาคารและตัวโครงการโดยรวม - เป็นคอนโด Low-rise สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ยูนิตต่อชั้นเฉลี่ยประมาณ 30 ยูนิต ค่อนข้างหนาแน่นไปหน่อย Facility กระจายอยู่ทั้ง 2 อาคาร ซึ่งถือว่าเยอะอยู่เมื่อเทียบกับคอนโดแบบ Low-rise ทั่วไป โดยที่ให้มาจะมี สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องอ่านหนังสือ, สวนพักผ่อน และ Lobby ปริมาณที่จอดรถอยู่ที่ 35% ตามมาตรฐาน มีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว แต่ไม่มีลิฟต์บริการ อัตราส่วนการใช้ลิฟต์อยู่ที่ 106 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าเป็นตัวเลขที่โอเค

• รูปแบบห้องและวัสดุ - ห้องพักส่วนใหญ่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ทำให้ห้องฝั่งนี้จะโดดแดดช่วงบ่ายแบบเลี่ยงไม่ได้ พื้นที่ห้องแต่ละ Type ขนาดไม่ใหญ่มากแต่จัด Layout และฟังก์ชั่นของห้องออกมาได้ค่อนข้างกว้าง และดูลงตัว ได้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ส่วนวัสดุที่ได้เทียบเท่าคอนโดระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็น พื้นยางไวนิล, ไฟ LED, ประตู Oversize, Digital door Lock หรือ ทีวี LED ถ้าเทียบกับโครงการในละแวกใกล้เคียงกันแล้วถือว่าโครงการนี้ให้วัสดุที่ดีกว่า

• ราคา - ถ้าเทียบกับโครงการที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน ราคาโดยรวมจะอาจจะไม่แตกต่างกันมากนัก โดยราคาของ เอสเพน ลาซาล อาจจะสูงกว่าบ้าง แต่ก็แลกกับวัสดุที่ดีกว่า สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่ครบกว่า และการันตีคุณภาพด้วยชื่อเสียงของ Developer อย่างเนาวรัตน์พัฒนาการ ซึ่งทำงานด้านก่อสร้างมากว่า 40 ปี

โครงการ เอสเพน ลาซาล อยู่ระหว่างขอยื่น EIA น่าจะอนุมัติช่วงประมาณไตรมาส 1/2559 โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างประมาณไตรมาสที่ 1/2559 และแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 4/2560 ปัจจุบันอยู่ในช่วง VIP Sale โดยมียอดจองไปแล้วกว่า 40% แล้ว ซึ่งทางโครงการจะเปิด Pre-sale อย่าเป็นทางการในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2558 นี้

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดพิเศษได้ที่ลิงก์ด้านล่างค่ะ

คลิกเพื่อลงทะเบียน