2. การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และรถสาธารณะอื่นๆ
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า หากเป็นสถานีที่เปิดให้บริการแล้วก็จะเป็นรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง (ห่างจากโครงการประมาณ 6 กม.) ซึ่งจะมีรถบริการจากทางโครงการรับส่งลูกบ้านค่ะ (ตามลูกศรสีน้ำเงินจากรูปแผนที่ด้านล่าง) ส่วนในอนาคตพอรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีสำโรงเปิดให้บริการ (ห่างจากโครงการ 4.6 กม. คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2560) ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายมาจากรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งอีกที ก็จะทำให้ระยะการเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้าใกล้ขึ้น จากที่ไปขึ้นที่สถานีแบริ่ง ก็สามารถมาขึ้นได้ที่สถานีสำโรงค่ะ และพอรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสร้างเสร็จ (คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2563) ก็จะทำให้มีทางเลือกในการใช้รถไฟฟ้าที่ใกล้กับโครงการเข้าไปอีก โดยมีสถานีที่ใกล้กับโครงการคือ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีศรีเทพา (ห่างจากโครงการ 700 ม.) และสถานีศรีด่าน (ห่างจากโครงการ 1 กม.) โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้จะไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีสำโรงค่ะ
แผนที่แสดงเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคตบริเวณรอบๆ โครงการ
(ขอบคุณแผนที่จากโครงการลุมพินี มิกซ์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์)
รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ)
แผนที่แนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปรการ) VIDEO วิดีโอจำลองเส้นทางการเดินรถของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปรการ)
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง)
แผนที่แนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง)คลิกเพื่อดูรูปขยายใหญ่ ) VIDEO วิดีโอจำลองเส้นทางการเดินรถของรถไฟฟ้าสายเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง)
รถสาธารณะอื่นๆ
สำหรับรถสาธารณะยอดฮิตของชาวเทพารักษ์ก็คงไม่พ้นรถสองแถวค่ะ โดยจะวิ่งผ่านด้านหน้าโครงการพอดี อิมพีเรียล เวิลด์ สําโรง โครงการ "ลุมพินี มิกซ์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์" เป็นคอนโดมิเนียม Low-Rise ความสูง 8 ชั้น จำนวน 7 อาคาร และมีอาคารจอดรถสูง 4 ชั้นอีก 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 22 ไร่ 2 งาน ลักษณะที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัวอาคารพักอาศัยแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซน A จะมีทั้งหมด 3 อาคาร ประกอบด้วยอาคาร A1, A2 และ A3 ส่วนโซน B จะมีทั้งหมด 4 อาคาร ประกอบด้วยอาคาร B1, B2, B3 และ B4 ซึ่งลักษณะห้องพักอาศัยทั้งหมดของโครงการจะหันหน้าเข้าหาทิศตะวันออก และทิศตะวันตก สิ่งอำนวยความสะดวกจะกระจายอยู่บริเวณชั้น 1 ของแต่ละอาคาร ยกเว้นอาคาร A3 ที่สิ่งอำนวยความสะดวกจะอยู่บนชั้น 2 โดยแต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสารมาให้ 2 ตัว อัตราส่วนในการใช้ลิฟต์ของโซน A เฉลี่ยอยู่ที่ 139:1 และอัตราส่วนในการใช้ลิฟต์ของโซน B อยู่ที่ประมาณ 155:1 ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจต้องรอลิฟต์กันนานนิดนึงค่ะ
โมเดลโครงการมุมมองจากทิศตะวันตกของทั้ง 7 อาคาร
โดยความลึกจากประตูทางเข้าโครงการจนถึงท้ายอาคาร B4 มีระยะห่างอยู่ที่ประมาณ 870 เมตร
โมเดลอาคาร A 1 มุมมองจากทิศเหนือ ติดถนนใหญ่เทพารักษ์ หันไปทางบางกะปิ
ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น
โมเดลอาคาร A1 มุมมองจากทิศตะวันออก
โดยประตูทางเข้าตัวอาคารของโซน A ทั้ง 3 อาคาร (A1-A3) จะอยู่ทางทิศนี้ทั้งหมด
โมเดลอาคาร A1 มุมมองจากทิศตะวันตก หันไปทางถนนศรีนครินทร์
ด้านหลังของอาคาร A1-A3 จะคล้ายกันคือด้านใต้อาคารจะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถ
โมเดลอาคาร A 2 มุมมองจากทิศตะวันออก
โมเดลอาคาร A3 มุมมองจากทิศตะวันออก อาคารนี้จะมีฟิตเนส และสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 2 ด้วยค่ะ
บนพื้นที่จริงระหว่างอาคาร A3 กับอาคาร B1 ตรงนี้จะมีสายไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่านซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน และใต้ดินจะมีแนวท่อก๊าซความลึกประมาณ 3 เมตร แต่ว่าทางโครงการมีการจัดการด้านความปลอดภัยแล้วเป็นอย่างดี โดยทั้งอาคาร A3 และ อาคาร B1 มีระยะร่นจนถึงตัวตึกอยู่ที่ประมาณเกือบ 30 เมตร ซึ่งที่จริงระยะร่นเพียงแค่ประมาณ 15 เมตร ก็ถือว่าเป็นระยะที่ปลอดภัยแล้ว ปัจจุบันพื้นที่ตรงจุดนี้เป็นของ ปตท. โดยทางโครงการกำลังยื่นเรื่องกับ ปตท. เพื่อที่จะขอเข้าไปปรับปรุงพื้นที่ตรงจุดนี้ให้เป็นพื้นที่สีเขียวในอนาคต
โมเดลอาคาร B1 มุมมองจากทิศตะวันตก
โดยประตูทางเข้าตัวอาคารของโซน B ทั้ง 3 อาคาร (B1-B3) จะอยู่ทางทิศนี้ทั้งหมด
โมเดลอาคาร B1 มุมมองจากทิศตะวันออก
ด้านหลังของอาคารโซน B จะเป็นพื้นที่สีเขียวทั้งหมดตั้งแต่อาคาร B1 ยาวไปจนสุดอาคาร B4
โมเดลอาคาร B2 มุมมองจากทิศตะวันตก
โมเดลอาคาร B3 มุมมองจากทิศตะวันตก
โมเดลอาคาร B4 มุมมองจากทิศตะวันตก
ส่วนฝั่งทิศใต้ของอาคาร B4 จะติดกับพื้นที่เปล่า ไม่มีอาคารสูงบดบังวิวด้านหลังนี้เลยค่ะ
Master Plan อาคาร A1 ชั้นล่าง จะมีร้าน 7-Eleven, ร้านซักอบรีด, ร้านเสริมสวย, สำนักงานนิติบุคคล, ตู้จดหมาย, ห้องเครื่องซักผ้า, ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และมียูนิตพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน จำนวน 9 ยูนิต ชั้น 2-8 จะเหมือนกันคือเป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 38 ยูนิต โดยห้องฝั่งทิศตะวันออกส่วนใหญ่เป็นของแบบ 1 ห้องนอน ส่วนฝั่งทิศตะวันตกและทิศเหนือจะเป็นห้องแบบสตูดิโอ Master Plan อาคาร A2 ชั้นล่าง จะมีห้องสมุด, ร้านอาหาร, ตู้จดหมาย, ห้องเครื่องซักผ้า, ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และมียูนิตพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน จำนวน 13 ยูนิต ชั้น 2-8 จะเหมือนกันคือเป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 38 ยูนิต โดยห้องฝั่งทิศตะวันออกส่วนใหญ่เป็นของแบบ 1 ห้องนอน ส่วนฝั่งทิศตะวันตกและทิศเหนือจะเป็นห้องแบบสตูดิโอ Master Plan อาคาร A3 ชั้นล่าง มีตู้จดหมาย, ห้องเครื่องซักผ้า, ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และมียูนิตพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอนจำนวน 7 ยูนิต ชั้น 2 จะมีสระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส และมียูนิตพักอาศัย 26 ยูนิต โดยห้องฝั่งทิศตะวันออกและทิศเหนือเป็นของแบบ 1 ห้องนอน ส่วนฝั่งทิศตะวันตกเป็นห้องแบบสตูดิโอ ชั้น 3-8 จะเหมือนกันคือเป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 35 ยูนิต Master Plan อาคาร B1 ชั้นล่าง จะมีห้องกิจกรรมผู้สูงอายุ, ตู้จดหมาย, ห้องเครื่องซักผ้า, ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และมียูนิตพักอาศัย 31 ยูนิต โดยห้องพักของโซน B ทั้งหมดจะเป็นห้องแบบสตูดิโอขนาด 21.50 - 22.00 ตร.ม. ชั้น 2-8 จะเหมือนกันคือเป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 40 ยูนิต Master Plan อาคาร B2 ชั้นล่าง จะมีร้านอาหาร, ตู้จดหมาย, ห้องเครื่องซักผ้า, ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และมียูนิตพักอาศัย 31 ยูนิต ชั้น 2-8 จะเหมือนกันคือเป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 40 ยูนิต Master Plan อาคาร B3 ชั้นล่าง จะมีห้องฟิตเนส, ตู้จดหมาย, ห้องเครื่องซักผ้า และลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ชั้น 2-8 จะเหมือนกันคือเป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 40 ยูนิต Master Plan อาคาร B4 ชั้นล่าง จะมีห้องสมุด, ตู้จดหมาย, ห้องเครื่องซักผ้า, ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และมียูนิตพักอาศัย 31 ยูนิต ชั้น 2-8 จะเหมือนกันคือเป็นส่วนพักอาศัยมียูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 40 ยูนิต ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกทางโครงการจัดให้ลูกบ้านพอสมควร แต่ถ้าเป็นช่วงวันหยุดหรือวันพักผ่อนสุดสัปดาห์ที่ลูกบ้านอาจจะพร้อมใจกันมาใช้บริการ บางทีก็อาจจะดูน้อยไปหน่อยสำหรับลูกบ้านในโครงการที่มีมากถึง 2,000 กว่ายูนิต โดยสิ่งอำนวยความสะดวกเด่นๆ อย่างสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ของโครงการจะอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร A3 นอกจากนี้ก็จะกระจายอยู่ภายในแต่ละอาคารแตกต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณชั้น 1 ของแต่ละอาคาร แต่สิ่งที่พิเศษกว่าโครงการอื่น คือ มีห้องผู้สูงอายุมาให้ด้วย สำหรับให้ผู้สูงอายุในโครงการได้มานั่งพูดคุย และทำกิจกรรมในช่วงกลางวันร่วมกัน เพื่อที่ผู้สูงอายุจะได้ไม่เหงาเวลาที่ลูกหลานออกไปทำงาน โดยสิ่งที่ทางโครงการให้มามีประมาณนี้ค่ะ
สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ตู้จดหมาย ร้าน 7-ELEVEN ร้านซักอบรีด ร้านเสริมสวย ห้องสมุด ร้านอาหาร สนามเด็กเล่น ห้องเด็กเล่น ห้องเครื่องซักผ้า ห้องกิจกรรมผู้สูงอายุ สวนพักผ่อนและออกกำลังกายกลางแจ้ง ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคาร กล้องวงจรปิด CCTV พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. อาคารจอดรถสูง 4 ชั้น และพื้นที่จอดรถรอบโครงการ สามารถจอดได้ประมาณ 30% มีรถ Shuttle Bus ที่จะคอยให้บริการวิ่งไปส่งที่รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง สิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณทางเข้า และใต้อาคาร A1
สระว่ายน้ำระบบคลอรีน ขนาดมาตรฐาน กว้าง 6.5 เมตร ยาว 20 เมตร และลึก 1.2 เมตร
บนชั้น 2 ของอาคาร A3 และฟิตเนสก็อยู่ที่ชั้นนี้เช่นกัน
อาคารจอดรถสูง 4 ชั้น ที่ตั้งอยู่ระหว่างอาคาร B2 กับ B3 ส่วนประตูทางขึ้น-ลง ลานจอดรถจะอยู่ทางทิศฝั่งตะวันตก
ภาพจำลองสวนพักผ่อนสีเขียวบริเวณด้านหลังอาคาร B4
ภาพจำลองพื้นที่สนามเด็กเล่นบริเวณด้านหน้าอาคาร B2
ภาพจำลองพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งภายในโครงการ
ภาพห้องตัวอย่างและ Lay Out
ห้องของโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted มีเฟอร์นิเจอร์ให้บางส่วน อาทิ ชุดเคาน์เตอร์ครัวแบบ Built-in และตู้เสื้อผ้า ลักษณะห้องพักอาศัยหันหน้าเข้าหาฝั่งทางด้านทิศตะวันออก และทิศตะวันตก โดยส่วนใหญ่ลูกค้าจะกังวลเรื่องแดดในช่วงบ่าย ซึ่งทางโครงการก็เข้าใจในจุดนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงติดเป็นกระจกตัดแสงสีเขียวมาให้ทุกห้อง และพิเศษสำหรับห้องทางฝั่งทิศตะวันตกทางโครงการยังติดเป็นฟิล์มช่วยในการตัดแสงและลดความร้อนเพิ่มมาให้ด้วยอีก 1 ชั้น โดยห้องพักอาศัยของโครงการนี้ก็ยังคงมีขนาดมาตรฐานตามแบบฉบับของลุมพินี โดยแบ่งขนาดห้องพักอาศัยตามนี้
ห้องแบบ สตูดิโอ (คลิกเพื่อชมตัวอย่างแปลนห้องขนาดใหญ่) ห้องแบบกั้นส่วนห้องนอน (คลิกเพื่อชมตัวอย่างแปลนห้องขนาดใหญ่) ห้องแบบ 1 ห้องนอน (คลิกเพื่อชมตัวอย่างแปลนห้องขนาดใหญ่) ห้องแบบ 2 ห้องนอน (คลิกเพื่อชมแปลนห้องขนาดใหญ่) ห้องแบบ 2 ห้องนอน (คลิกเพื่อชมตัวอย่างแปลนห้องขนาดใหญ่) ห้องแบบ 2 ห้องนอน (คลิกเพื่อชมตัวอย่างแปลนห้องขนาดใหญ่) ห้องพักอาศัยของโซน A และโซน B นั้นจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้างพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นขนาด ฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการจัดมาให้ แต่ว่าทางโครงการยังก็มีแพ็คเกจแต่งห้องสำเร็จรูปไว้เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการให้ทางโครงการตกแต่งให้เลย ทั้งสี ลาย แบบ ล็อคสเปคตามแบบห้องตัวอย่างเป๊ะ (ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ไม่ได้) ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสเปคได้ ซึ่งราคาในการตกแต่งของแต่ละห้องก็จะแตกต่างกันออกไป ลองไปดูกันว่าแต่ละห้อง แต่ละโซนแต่งออกมาแล้วหน้าตาจะเป็นอย่างไร
ตัวอย่างห้องพักอาศัยของโซน A
จะมีห้องขนาด 22.50 และ 26.50 ตร.ม. ซึ่งราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 900,000 - 1 ล้านต้นๆ ซึ่งจะแตกต่างจากโซน B เนื่องจาก โซน A ตรงที่จะมีฟังก์ชั่นมากกว่า อาทิ มีฉากกั้น ตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ครัว ไฟบนเพดานที่ได้จะเป็นไฟดาวน์ไลท์ และเพดานจะได้เป็นฝ้า ขนาดของห้องพักแบ่งแยกอย่างชัดเจน โดยทิศตะวันออกทั้งหมดเป็นห้องแบบ 26.00 - 26.50 ตร.ม. และทิศตะวันตกเป็นห้องขนาด 22.50 - 26.50 ตร.ม.
1) ห้องแบบ สตูดิโอ ขนาด 22.50 ตร.ม. (ห้องเปล่าที่ส่งมอบให้ลูกค้า)
แพ็คเกจชุดแต่งห้องพร้อมอยู่ขนาด 22.50 ตร.ม. ราคาค่าตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 160,000 บาท
เปิดประตูเข้ามา Layout ห้องหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ทางด้านซ้ายของห้องจะเป็นห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับส่วนของห้องนอน
ที่กั้นด้วยกระจกบานสไลด์ ส่วนทางขวาของห้องจะเป็นห้องครัวและห้องน้ำค่ะ ภายในห้องนอนจะได้ตู้เสื้อผ้า Built-in ตั้งอยู่บริเวณปลายเตียง ส่วนกระจกในห้องนอนเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง
ด้านขวาของประตูทางเข้าห้องจะเป็นตำแหน่งของชั้นวางทีวี ทางโครงการติดตั้งปลั๊กไฟมาให้ด้วย
ส่วนทางเข้าห้องครัวจะปาดมุมเพื่อเพิ่มพื้นที่ทางเดินให้ดูกว้างขึ้นเพื่อสะดวกต่อการเดิน
ห้องของโครงการนี้เป็นครัวแบบครัวเปิดทั้งหมดค่ะ เคาน์เตอร์ครัว หน้า Top เป็นพาร์ติเคิลบอร์ด
ปิดผิวด้วยเมลามีนกันน้ำ กันความชื้น ทางซ้ายของครัวติดกับระเบียง ทางขวาติดกับห้องน้ำ
ด้านนอกระเบียงเดินระบบท่อน้ำดีน้ำทิ้งสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้ ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ติดตั้งไว้ด้านบนแบบนี้ค่ะ
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเป็นของ American Standard และฝักบัวของ Hafele พร้อมที่วางสบู่
2) ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26.00 ตร.ม.
ฟังก์ชั่นการจัดวางของห้องขนาด 26.0 ตร.ม. เหมือนกันกับห้องขนาด 22.5 ตร.ม. แต่ว่าห้องนี้จะมีความลึกของห้องมากกว่า
ตัวอย่างชุดแต่งห้องพร้อมอยู่ขนาด 26.0 ตร.ม. ราคาค่าตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 225,000 บาท
เข้ามาในห้องหน้าตาแบบนี้ค่ะ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.4 เมตร พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 4 มม.
ห้องนอนติดฉากกั้นห้องด้วยประตูบานเลื่อนเป็นแบบ 2 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
แยกสัดส่วนชัดเจน ไฟในห้องได้เป็นแบบไฟดาวน์ไลท์
ทางซ้ายของห้องเป็นมุมของชั้นวางทีวี ติดกับทางเดินเข้าครัว
ห้องนั่งเล่นได้โซฟาใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยขนาด 2 ที่นั่ง ด้านล่างเป็นลิ้นชักเก็บของ
พร้อมโต๊ะทำงานหน้า Top เป็นกระจกอีก 1 ชุด
ในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ เหลือพื้นที่ข้างเตียงอีกนิดหน่อย
ปลายเตียงเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in
เปิดมาด้านในเป็นแบบนี้ค่ะ
ย้ายมาดูในครัวกันค่ะ เคาน์เตอร์หน้า Top เป็นพาร์ติเคิลบอร์ดเหมือนเดิม แต่ได้ช่องเก็บของตรงกลางเพิ่มมากขึ้น
ด้านขวาของครัวติดกับระเบียงช่วยระบายกลิ่นเวลาทำอาหารได้ดี ส่วนโต๊ะอาหารได้เป็นแบบ 2 ที่นั่งชิดผนังลักษณะนี้
ระเบียงต่อท่อน้ำดีน้ำทิ้งมาให้เรียบร้อย ด้านบนเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ ส่วนเพดานติดโคมซาลาเปามาให้ 1 ดวง
ย้ายมาดูในห้องน้ำกันค่ะ ระหว่างห้องน้ำกับครัวจะกั้นด้วยธรณีประตู
ด้านซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างเป็นวัสดุ Fiber ยาวติดผนัง พร้อมอ่างล้างหน้าทรงรี และพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ
ตรงกลางเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard และด้านขวามีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ส่วนชุดฝักบัวเป็นของ Hafele
ในห้องน้ำติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วย
3) ห้องแบบ 2 ห้องนอน (Combine ขนาด 22.5 ตร.ม. 2 ห้องชุดรวมกัน) พื้นที่ใช้สอย 45.00 ตร.ม.
แพ็คเกจชุดแต่งห้องพร้อมอยู่ขนาด 45.0 ตร.ม. ราคาค่าตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 495,000 บาท
เข้ามาในห้องจะให้อารมณ์เหมือนบ้านมากขึ้น ด้วยฟังก์ชั่นการตกแต่งและขนาดพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น
ตรงกลางห้องเป็นส่วนของมุมทานอาหารซึ่งเป็นโต๊ะขนาด 4 ที่นั่ง เชื่อมต่อกับส่วนของห้องรับแขก
ด้านขวาเป็นส่วนของห้องนอน แบ่งเป็นห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่
ภายในห้องนอนเล็กสามารถวางเตียงแบบ 3.5 ฟุตได้พอดีๆ ไม่เหลือพื้นที่ปลายเตียง ได้โต๊ะเครื่องแป้ง
และตู้เสื้อผ้าอีก 1 บาน ที่มุมหัวเตียงมีหน้าต่างบานสไตล์เปิดไปมองเห็นส่วนของ Walk in Closet
ภายในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว พร้อมตู้เสื้อผ้าและมุมแต่งตัวที่เป็นแบบ Walk in Closet บริเวณด้านหลัง
ผนังบริเวณเยื้องๆ กับปลายเตียงสามารถนำทีวีมาติดที่บริเวณนี้ได้
หน้าต่างของจริงไม่ใช่กระจกบานใหญ่แบบนี้ แต่เป็นแบบบานเลื่อนธรรมดา
ตู้เสื้อผ้าทรงสูงจากพื้นจรดฝ้า ด้านข้างมีโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ พร้อมกระจกเงามาให้ด้วย
ฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะเครื่องแป้งเป็นชั้นสำหรับวางของ มีหน้าต่างที่มองเห็นห้องนอนเล็กด้วยค่ะ
อ่างล่างหน้าเป็นวัสดุ Fiber เหมือนเดิม แต่อ่างล้างหน้าจะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
ส่วนสุขภัณฑ์เป็น American Standard เหมือนเดิมค่ะ
เดี๋ยวย้ายไปดูในครัวกันค่ะ ห้องนั่งเล่นนี้สามารถวางโซฟาแบบ L-Shape ได้สบายๆ
ฉากกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวได้สวยงามตามแบบนี้เลยค่ะ
เดินเข้ามาในครัวจะเป็นแบบนี้ มีเคาน์เตอร์ครัวอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายติดกับห้องน้ำ ด้านขวาติดกับระเบียง
สุขภัณฑ์ของ American Standard และชุดฝักบัวของ Hafele
ตัวอย่างห้องพักอาศัยของโซน B
ห้องของโซน B ทั้ง 4 ตึก จะเป็นห้องแบบสตูดิโอขนาดเดียวกันทั้งหมดคือ 21.5 ตร.ม. ซึ่งห้องที่ส่งมอบให้ลูกค้าได้ทั้งหมดแบบนี้เลยยกเว้นแอร์ที่ไม่ได้ให้ ตัวห้อง Standard เป็นห้องสตูดิโอ มีเคาน์เตอร์ครัวให้ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard เพดานเป็นแบบพื้นปูนฉาบเรียบ ส่วนไฟบนเพดานได้เป็นโคมซาลาเปา ตามนี้เลย
1) ห้องแบบ สตูดิโอ ขนาด 21.50 ตร.ม. (ห้องเปล่าที่ส่งมอบให้ลูกค้า)
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.4 เมตร พื้นเป็นลามิเนตหนา 4 มม. แต่จะเป็นคนละลายกับอาคาร A นะคะ
มุมขวาของห้องนี้จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ส่วนมุมซ้ายวางเป็นส่วนของเตียงนอนได้ค่ะ
จะสังเกตว่าบนเพดานเป็นแบบปูนสีขาวฉาบเรียบธรรมดา ติดโคมซาลาเปามาให้
เข้าประตูมาทางซ้ายจะเป็นตำแหน่งของชั้นวางทีวี ถัดมาเป็นส่วนของครัว
ครัวได้แบบนี้ค่ะ ทางซ้ายเป็นห้องน้ำ และทางขวาติดกับระเบียง
สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้นะคะ
ระเบียงทุกห้องของโซน B จะไม่ได้ติดตั้งท่อน้ำดีน้ำทิ้งมาให้นะคะ
2) ห้องแบบ สตูดิโอ ขนาด 21.50 ตร.ม. (พร้อมตกแต่ง)
แพ็คเกจชุดแต่งห้องพร้อมอยู่ขนาด 21.5 ตร.ม. ราคาค่าตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 175,000 บาท
ห้องนี้ตกแต่งด้วยโทนสีสดใส เข้าห้องมาด้านซ้ายเป็นส่วนของมุมนั่งเล่น พร้อมติดกระจกเงาบานให้มาให้แบบนี้
ถัดไปเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ปิดผิวด้วยพาร์ติเคิลบอร์ด
โซฟาแบบ 2 ที่นั่ง เบาะลายสก๊อต ด้านล่างเป็นลิ้นชักเก็บของ
ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นชั้นวางทีวี ติดตั้งชั้นวางของด้านบนมาให้ ส่วนด้านล่างก็เป็นชั้นเก็บของเช่นกัน เปิดมาหน้าตาประมาณนี้ และติดกันเป็นชุดเก้าอี้ทานข้าวแบบ 2 นั่ง หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานก็ยังได้
มีตู้เตี้ยกั้นส่วนห้องนอนกับตู้เสื้อผ้า ส่วนห้องนอนนี้วางเตียงได้แบบ 5 ฟุต
ผนังด้านหัวเตียงติดวอลล์เปเปอร์เฉพาะจุดมาให้แบบนี้
บริเวณข้างเตียงมีชั้นวางของมาให้ด้วย
พื้นที่ข้างเตียงเหลือให้พอเดินได้อีกนิดหน่อย
ปลายเตียงติดตั้งโต๊ะเครื่องแป้งแบบติดผนัง ด้านล่างมีช่องใส่ของได้เล็กน้อย พร้อมกระจกเงามาให้ด้วย
เดี๋ยวย้ายไปดูครัวกันต่อค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวหน้า Top เป็นพาร์ติเคิลบอร์ดเหมือนเดิม
ได้อ่างล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยวแบบฝังมาให้
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเป็นของ American Standard พร้อมชุดฝักบัว
หน้าต่างบานเกล็ดช่วยระบายกลิ่นเวลาที่ทำอาหาร
3) ห้องแบบ 2 ห้องนอน (Combine ขนาด 21.5 ตร.ม. 2 ห้องชุดรวมกัน) ขนาด 43.00 ตร.ม.
แพ็คเกจชุดแต่งห้องพร้อมอยู่ขนาด 43.0 ตร.ม. ราคาค่าตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 350,000 บาท
ห้องนี้ตกแต่ง
ด้วยโทนสีฟ้าดูอ่อนหวาน เข้ามาทางซ้ายเป็นชั้นวางทีวี ได้โต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง
ด้านหลังโต๊ะทานข้าวเป็นส่วนของครัว ซึ่งด้านขวาเป็นประตูออกไประเบียง
ห้องครัวเหมือนกันกับห้องขนาด 21.5 ตร.ม.
สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard ฝักบัวของ Hafele พร้อมที่วางสบู่
ย้ายไปดูในส่วนของห้องนอนกันค่ะ ผนังด้านหน้าห้องระหว่างห้องนอนทั้ง 2 กรุด้วยแผงไม้สีฟ้าสวยงามตามนี้
มีโซฟารับแขกสีขาวขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะวางของด้านข้างมาให้ด้วยอีก 1 ตัว
ภายในห้องจะได้เตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต พร้อมวอลล์เปเปอร์ติดผนังแบบนี้
ในห้องมีตู้ครอบเบรกเกอร์มาให้ด้วย เปิดมาก็หน้าตาแบบนี้ค่ะ
ด้านข้างเตียงได้โต๊ะหัวเตียง โต๊ะทำงาน หรือโต๊ะอ่านหนังสือของคุณหนูๆ ตู้เสื้อผ้าบานเปิด
และมีหน้าต่างสามารถมองทะลุไปห้องนอนใหญ่ได้ด้วย
ย้ายไปดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง
ห้องนอนใหญ่ได้เตียงขนาด 5 ฟุต พื้นที่บริเวณปลายเตียงและข้างเตียงเหลือเยอะพอสมควร เดินได้สบายเลยค่ะ
ผนังเยื้องๆ กับปลายเตียงทางโครงการ Built-in มาให้สำหรับติดทีวีแบบแขวนผนัง
แถมผนังด้านล่าง และด้านข้างยังเจาะช่องไว้สำหรับให้วางของใช้ได้อีกเล็กน้อย
ในห้องนอนใหญ่นี้มีห้องน้ำในตัวด้วยเหมือนกัน อยู่บริเวณด้านหลังค่ะ
เดินเข้ามาตรงกลางจะเจอกับตู้เสื้อผ้าทรงสูง และโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านขวาเป็นห้องน้ำ และด้านซ้ายเป็นระเบียงเช่นเคยค่ะ
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ (29 มิ.ย. 58)
21 พ.ย. 59
21,728
_1.jpg)
_2.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
_1.jpg)
.jpg)
.jpg)
_1.jpg)
0-2740-7400
