Adobe เปิดตัว Firefly ช่วยสร้างงานครีเอทีฟแบบมือโปรได้อย่างง่ายดาย ใครๆ ก็ทำได้ด้วย Generative AI

icon 24 มี.ค. 66 icon 5,005
ระยะเวลา 27 พ.ย. 67
  • Firefly รุ่นแรกจะช่วยให้ลูกค้าทุกระดับสามารถสร้างภาพที่มีคุณภาพสูงและเอฟเฟ็กต์ข้อความที่สวยงาม
  • อะโดบีเปิดตัว Firefly รุ่นเบต้ารุ่นแรกที่เน้นการใช้งานเชิงพาณิชย์
  • Firefly จะถูกรวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์ของ Creative Cloud, Document Cloud, Experience Cloud และ Adobe Express โดยตรง
  • อะโดบีจะเริ่มการใช้แท็ก "Do Not Train" สำหรับครีเอเตอร์ที่ไม่ต้องการให้คอนเทนต์ของตนถูกนำไปใช้ในการเทรน AI โดยแท็กดังกล่าวยังคงเชื่อมกับคอนเทนต์นั้นๆ ไม่ว่าจะถูกใช้งาน เผยแพร่ หรือจัดเก็บไว้ที่ใดก็ตาม
  • อะโดบีมีแผนที่จะให้ลูกค้าสามารถขยายการฝึกฝน Firefly โดยใช้งานครีเอทีฟของตนเอง สร้างคอนเทนต์ตามสไตล์ของตน หรือตามสไตล์ของแบรนด์
อะโดบี ( Adobe ) เปิดตัว Firefly ซึ่งเป็นโมเดล Generative AI สำหรับงานครีเอทีฟ โดยในเบื้องต้นจะมุ่งเน้นที่การสร้างภาพและเอฟเฟ็กต์ข้อความ Firefly จะช่วยเพิ่มความถูกต้องแม่นยำ ประสิทธิภาพ และความสะดวกรวดเร็วให้กับเวิร์กโฟลว์ Creative Cloud, Document Cloud, Experience Cloud และ Adobe Express ซึ่งรองรับการสร้างและแก้ไขคอนเทนต์ โดย Firefly จะเป็นส่วนหนึ่งของชุดบริการ Adobe Sensei generative AI บนแพลตฟอร์มคลาวด์ของอะโดบี
อะโดบี มีประวัติที่ยาวนานมากกว่าหนึ่งทศวรรษในด้านนวัตกรรม AI โดยนำเสนอความสามารถอัจฉริยะหลายร้อยรายการผ่าน Adobe Sensei ในแอปพลิเคชั่นที่ผู้ใช้หลายร้อยล้านคนไว้วางใจเลือกใช้  ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Neural Filters ใน Photoshop, Content Aware Fill ใน After Effects, Attribution AI ใน Adobe Experience Platform และ Liquid Mode ใน Acrobat ช่วยให้ลูกค้าของอะโดบีสามารถสร้าง แก้ไข วัดผล เพิ่มประสิทธิภาพ และรีวิวคอนเทนต์หลายพันล้านชิ้นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ง่ายดาย แม่นยำ และเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ นวัตกรรมเหล่านี้ได้รับการพัฒนาและปรับใช้โดยสอดคล้องกับหลักจริยธรรมด้าน AI ของอะโดบี ทั้งในแง่ที่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ ความรับผิดชอบ และความโปร่งใส
เดวิด วาดห์วานี ประธานฝ่ายธุรกิจสื่อดิจิทัลของอะโดบี กล่าวว่า "Generative AI คือวิวัฒนาการขั้นต่อไปของการสร้างสรรค์และการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการขับเคลื่อนของ AI เป็นการพลิกโฉมการสื่อสารระหว่างครีเอเตอร์กับคอมพิวเตอร์ให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงมีประสิทธิภาพและความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นด้วย ด้วยการทำงานของ Firefly อะโดบีจะผสานรวม 'องค์ประกอบของงานครีเอทีฟ' ที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI เข้ากับเวิร์กโฟลว์ของลูกค้าโดยตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ให้กับครีเอเตอร์ทุกคน ตั้งแต่บุคลากรครีเอทีฟระดับสูง ไปจนถึงผู้ใช้งานในทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจ Creator Economy"

Adobe Firefly มอบพลังพิเศษใหม่ๆ ให้กับครีเอเตอร์

อะโดบีออกแบบ Firefly เพื่อมอบพลังพิเศษให้กับครีเอเตอร์ทุกคนให้สามารถทำงานตามจินตนาการได้อย่างรวดเร็ว Firefly จะช่วยให้ทุกคนที่สร้างคอนเทนต์ ไม่ว่าจะมีประสบการณ์หรือทักษะมากน้อยเพียงใดก็ตาม สามารถใช้จินตนาการของตนเองเพื่อสร้างคอนเทนต์ในแบบที่พวกเขาต้องการ ตั้งแต่รูปภาพ เสียง เวกเตอร์ วิดีโอ และชิ้นงาน 3 มิติ ไปจนถึงองค์ประกอบด้านงานครีเอทีฟ เช่น พู่กัน การไล่ระดับสี และการแปลงวิดีโอ โดยทั้งหมดนี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน Firefly จะรองรับการผลิตคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด รวมถึงการปรับเปลี่ยนได้ตามใจ โดยทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว อะโดบีจะรวม Firefly เข้ากับเครื่องมือและบริการชั้นนำของอุตสาหกรรมโดยตรง ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของ Generative AI ภายในเวิร์กโฟลว์ที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย
อะโดบีเปิดตัว Firefly รุ่นเบต้าวันนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าครีเอเตอร์ที่มีประสบการณ์และทักษะทุกระดับไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็สามารถสร้างภาพที่มีคุณภาพสูงและเอฟเฟ็กต์ข้อความที่น่าทึ่งได้ อะโดบีเชื่อว่าพลังที่สมบูรณ์ของเทคโนโลยีไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากจินตนาการอันยิ่งใหญ่ที่จะเติมพลังให้กับเทคโนโลยีนั้น  ภายใต้การทดลองใช้งาน อะโดบีจะทำงานร่วมกับชุมชนครีเอเตอร์และลูกค้าเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญนี้ และจะผนวกรวมเข้ากับแอปพลิเคชั่นของอะโดบี  โดยแอปพลิเคชั่นชุดแรกที่สามารถใช้ Firefly ได้แก่ Adobe Express, Adobe Experience Manager, Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator
สามารถทดลองใช้เวอร์ชัน Beta ได้ที่นี่ >> firefly.adobe.com (ไม่ต้องเป็นสมาชิก Adobe Creative Cloud ก็สามารถทดลองใช้งานได้)

รูปภาพคุณภาพสูงที่รองรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย

Firefly จะประกอบด้วยหลายโมเดลที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีชุดทักษะและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่แตกต่างกัน โดยโมเดลเหล่านี้รองรับ use case ที่หลากหลาย โมเดลแรกสุดของอะโดบี จะได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับภาพ Adobe Stock, คอนเทนต์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานได้อย่างเปิดเผย และคอนเทนต์สาธารณะที่ลิขสิทธิ์หมดอายุแล้ว โดยจะมุ่งเน้นที่รูปภาพและเอฟเฟ็กต์ข้อความ โดยสามารถสร้างคอนเทนต์ที่สามารถนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย  ภาพลิขสิทธิ์ระดับมืออาชีพจำนวนหลายร้อยล้านภาพใน Adobe Stock เป็นส่วนหนึ่งของภาพที่มีคุณภาพสูงสุดในตลาด และช่วยรับประกันว่า Firefly จะไม่สร้างคอนเทนต์โดยอ้างอิงจากทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นหรือแบรนด์ต่างๆ โมเดล Firefly ในอนาคตจะใช้ประโยชน์จากทรัพยากร เทคโนโลยี และข้อมูลการเทรนที่หลากหลายจากอะโดบีและอื่นๆ และเมื่อมีการปรับใช้โมเดลอื่นๆ อะโดบีจะยังคงให้ความสำคัญกับการป้องกันอคติที่อาจเป็นอันตรายได้ (potential harmful bias)

แนวทางที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นหลัก

อะโดบี ออกแบบ Generative AI เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถใช้ประโยชน์จากทักษะและความคิดสร้างสรรค์ของตนได้อย่างเต็มศักยภาพ
  • ช่วยให้ครีเอเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น : คอนเทนต์กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงงานครีเอทีฟและงานออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  ผลการศึกษาล่าสุดของอะโดบีชี้ว่า 88% ของแบรนด์ระบุว่ามีความต้องการคอนเทนต์เพิ่มสูงขึ้นอย่างน้อยสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และสองในสามคาดว่าจะเติบโตถึง 5 เท่าในอีกสองปีข้างหน้า อะโดบีใช้ประโยชน์จาก Generative AI เพื่อแบ่งเบาภาระดังกล่าว โดยนำเสนอโซลูชั่นที่จะช่วยทำงานได้สะดวกรวดเร็วขึ้น และชาญฉลาดมากขึ้น อีกทั้งลูกค้ายังสามารถฝึก Firefly โดยใช้ทรัพยากรของตนเอง เพื่อสร้างคอนเทนต์ในสไตล์ที่เป็นตัวเอง หรือตามสไตล์ของแบรนด์ได้อย่างง่ายดาย
  • การตอบแทนแก่ครีเอเตอร์ : จุดประสงค์หนึ่งของอะโดบีในการสร้าง Generative AI ก็คือ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างรายได้จากความสามารถของตน เช่นเดียวกับที่อะโดบีทำกับ Adobe Stock และ Behance โดยอะโดบีกำลังพัฒนารูปแบบการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้มีส่วนร่วมใน Adobe Stock และจะแชร์รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากที่การทดลองใช้งาน Firefly เสร็จสิ้น
  • สนับสนุนมาตรฐานเปิด : อะโดบีได้ก่อตั้ง Content Authenticity Initiative (CAI) เพื่อสร้างมาตรฐานสากลในการระบุแหล่งที่มาของดิจิทัลคอนเทนต์ที่เชื่อถือได้ ด้วยสมาชิกมากกว่า 900 รายทั่วโลก บทบาทของ CAI จึงมีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมาก อะโดบีกำลังผลักดันมาตรฐานอุตสาหกรรมแบบเปิดโดยใช้เครื่องมือโอเพ่นซอร์สของ CAI ที่เปิดให้ใช้งานฟรี และได้รับการพัฒนาอย่างจริงจังผ่านองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร Coalition for Content Provenance and Authenticity (C2PA) เป้าหมายเหล่านี้ครอบคลุมถึงการใช้แท็ก "Do Not Train" ใน Content Credentials ของรูปภาพ เพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถร้องขอไม่ให้ผู้อื่นนำเอาเนื้อหาคอนเทนต์ของตนไปใช้ในการเทรนโมเดล AI  แท็ก Content Credentials จะยังคงเชื่อมโยงกับคอนเทนต์นั้นๆ ไม่ว่าจะถูกใช้งาน เผยแพร่ หรือจัดเก็บไว้ที่ใดก็ตาม  นอกจากนี้ คอนเทนต์ที่สร้างโดย AI ก็จะถูกใส่แท็กด้วยเช่นกัน
  • อีโคซิสเต็มของ Firefly : อะโดบีวางแผนที่จะทำให้ Firefly พร้อมใช้งานผ่าน API บนแพลตฟอร์มที่หลากหลายเพื่อให้ลูกค้าสามารถบูรณาการเข้ากับเวิร์กโฟลว์ที่ปรับแต่งและระบบอัตโนมัติได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง เทคโนโลยี adobe technology อะโดบี Generative AI Firefly
พูดคุยกับกูรูได้ที่


ดีล / โปรโมชั่นแนะนำ



เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)