RML ผู้นำวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ เปิดให้ชมโครงการจริงของ ‘OCC (One City Centre)’ ครั้งแรก ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานลักชัวรี่ Grade A+ ที่สูงที่สุดในไทย ด้วยความสูง 61 ชั้น หรือ 275.76 เมตร บิ๊กโปรเจกต์ร่วมทุนกับ มิตซูบิชิ เอสเตท หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของญี่ปุ่น มูลค่าลงทุน 8,800 ล้านบาท ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘REIMAGINE YOUR WORLD’ ปักหมุดเป็น Happy Workplace และ Lifestyle Destination ศูนย์กลางแห่งใหม่ของโลก ชูจุดเด่นสุดยอดทำเลติด BTS เพลินจิต มีสะพานเชื่อม (Sky bridge) ตรงสู่อาคารได้เลย พร้อมมอบสวนใหญ่ใจกลางเมือง ด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตร.ม. อีกทั้งไฮไลต์ Sky Bar ชั้นบนสุดของอาคาร กับวิวสวยสุดที่ทุกคนต้องไปเยือน มองเห็นวิวรอบเมืองแบบพาโนรามา ที่เปิดอย่างไม่เป็นทางการเพียงไม่นาน ก็กลายเป็นจุดเช็คอินใหม่ของชาวเพลินจิตไปแล้ว ทางด้านผู้เช่าก็ได้รับการตอบรับท่วมท้น โกยยอดเช่าพื้นที่และความสนใจจากลูกค้าแล้วกว่า 70% มั่นใจหลัง Sky bridge สร้างเสร็จจะผลักดันอัตราเช่าเต็มพื้นที่ต้นปีหน้าแน่นอน
“OCC พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘REIMAGINE YOUR WORLD’ แลนด์มาร์กสำคัญทางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ใจกลางเพลินจิต ที่ตอบสนองชีวิตในรูปแบบใหม่ให้กับการใช้ชีวิตการทำงานควบคู่กับไลฟ์สไตล์ในทุกวัน ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ตอบโจทย์อย่างรอบด้านจึงทำให้ OCC ที่ปัจจุบันมีอัตราค่าเช่าประมาณ 1,500 บาทต่อตร.ม. ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม ขณะนี้มีอัตราเช่าพื้นที่สำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก (รีเทล) รวมถึงความสนใจจากผู้เช่าแล้วประมาณ 70% แบ่งสัดส่วนเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก 80% และบริษัทชื่อดังในไทย 20% โดยบริษัทที่เซ็นสัญญาเช่าและสามารถเปิดเผยชื่อได้ ได้แก่ มิตซูบิชิ เอสเตท (Mitsubishi Estate), มิตซูบิชิ เฮฟวี่ (Mitsubishi Heavy), มิตซูบิชิ พาวเวอร์ (Mitsubishi Power), มารูเบนิ (Marubeni), จัสโค (JustCo), ซีบีอาร์อี (CBRE), อะมาดิอุส (Amadeus), คอร์ติน่า วอทช์ (Cortina Watch), และโคคูโย (Kokuyo) นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 2 อาทิเช่น ดีน แอนด์ เดลูก้า (DEAN & DELUCA) ร้านกาแฟดังที่ถือกำเนิดมากจากอเมริกา, โอ ปอง แปง (Au Bon Pain) ร้านกาแฟกึ่งเบเกอรี่ ชื่อดังจากอเมริกา, %อาราบิก้า (%Arabica) คาเฟ่ที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น, คาซาน่า (Ksana) คาเฟ่ชาเขียวมัทฉะเข้มข้นชื่อดังจากญี่ปุ่น, แบลคโบบา (BLK.BOBA) ร้านชาไข่มุกออร์แกนิคชื่อดัง, โฟคาฟิเซีย (Focaficial) ร้านขนมปังพรีเมียมจากอิตาลี และลอว์สัน (Lawson) ร้านสะดวกซื้อชื่อดังจากอเมริกา
นอกจากนี้ ในไตรมาส 4 ยังเตรียมเปิด Sky Bar ที่ชั้น 61 และร้านอาหาร ที่ชั้น 58 ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงฟู๊ดคอร์ท กินนี่ฟู๊ด (Kinnie Food) ที่รวมร้านอาหารชื่อดังมากมายในราคาที่จับต้องได้มาไว้ที่นี่อีกด้วย ทั้งนี้เรามั่นใจว่าหลัง Sky bridge สร้างเสร็จ จะผลักดันให้อัตราการเช่า OCC เต็มพื้นที่ในต้นปี 2567 และหลังจากที่เปิดใช้บริการ OCC เต็มรูปแบบ จะส่งผลให้ RML มีสัดส่วนรายได้ประจำเพิ่มขึ้นถึง 15-25% ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ RML มีสถานะทางการเงินที่เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตระยะยาว” นายกรณ์ กล่าว
OCC ออกแบบด้วยดีไซน์โดดเด่นจากบริษัทที่ปรึกษาและดีไซน์ระดับโลกคือ สกิดมอร์, โอวิงส์ และเมอร์ริล ไทยแลนด์ (Skidmore, Owings & Merrill (Thailand) หรือ SOM Thailand ซึ่งได้สร้างอาคารที่สูงที่สุดในโลกมามากมาย อาทิ อาคารเบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) ที่ดูไบ และอาคารวันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (One World Trade Center) ที่นิวยอร์ก โดยทำงานร่วมกับบริษัทดีไซน์ชั้นนำในไทย อาทิ ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล (Design 103 International) และแทนเดม อาร์คิเท็ค (2001) (Tandem Architects) โดยมี ฉมา (Shma) เป็นที่ปรึกษาด้านภูมิทัศน์, ดีดับเบิ้ลยูพี (ประเทศไทย) (DWP (Thailand)) เป็นที่ปรึกษาด้านการตกแต่งภายใน และออเรคอน คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) (Aurecon Consulting (Thailand)) เป็นที่ปรึกษาด้านงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล โดยพัฒนาแนวคิด 'REIMAGINE YOUR WORLD' ให้เกิดขึ้นจริง ผ่านการกำหนดนิยามใหม่ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ให้ผู้ใช้งานอาคารในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น
• Reimagined Journey In and Out สะดวกสบายทุกการเดินทาง ติดบีทีเอสเพลินจิต ใช้เวลาเดินเพียง 2 นาที รวมทั้งใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร เพียง 200 เมตร ใกล้ MRT อโศก และสนามบิน นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยสถานที่สำคัญและไลฟ์สไตล์พรีเมียม อย่างสถานทูต ห้าง โรงแรมหรู ร้านอาหารดัง สวนสาธารณะ สถานศึกษา และสถานพยาบาลชั้นนำมากมาย
• Reimagined Daily Work Rhythm สร้างความสุขให้กับช่วงเวลาทำงาน ด้วยเทคโนโลยี Smart Building ที่ทันสมัย ตั้งแต่แอปพลิเคชั่นมือถือสำหรับเข้า-ออกอาคาร ระบบไร้สัมผัสภายในอาคาร ระบบเรียกลิฟท์ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ระบบจดจำเลขทะเบียนรถยนต์ และระบบการจ่ายเงินค่าที่จอดรถ รวมถึงสะดวกสบายด้วยพื้นที่จอดรถทั้งหมด 837 คัน แบ่งเป็นระบบจอดรถอัตโนมัติ (Automate parking) 400 คัน และพื้นที่จอดรถแบบธรรมดา (Conventional parking) 437 คัน
• Reimagined Office Space Possibilities OCC ออกแบบฟังก์ชั่นเพื่อการทำงานอย่างเพียบพร้อม และคำนึงถึง สุขภาวะที่ดีของผู้เช่า ด้วยจุดเด่น คือ
o ไม่มี ‘เสากลาง’ ผู้เช่ามีอิสระในการวางผังและออกแบบได้อย่างเต็มที่
o เพดานสูงสุดถึง 3 เมตร ปลอดโปร่ง
o กระจก 3 ชั้น Insulated Glazing Windows กรองแสงแดด และกรองเสียงได้
o Amenities Floor ที่เป็น Co-working Space เพื่อรองรับการใช้ห้องประชุมสำรองสำหรับผู้เช่า
o รองรับการออกแบบสำนักงานแบบ Knockout Panels เชื่อมระหว่างชั้นได้ สำหรับผู้เช่าที่ต้องการเช่าพื้นที่หลายๆ ชั้น
o มีระบบกรองอากาศ MERV14 กรองอากาศ และกรองฝุ่น PM 2.5
• Reimagined Retail and Food Selection นอกจากการเป็นที่สุดของการเป็นอาคารสำนักงานยุคใหม่ OCC ยังพร้อมจะสร้างประสบการณ์ใหม่ของไลฟ์สไตล์เดสทิเนชั่นระดับโลก สำหรับคนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทั้งในช่วงเวลาพักผ่อนหย่อนใจ พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือมื้ออาหารเพื่อสนทนาธุรกิจ ด้วยร้านค้าในพื้นที่ค้าปลีก บาร์ คาเฟ่ ร้านอาหาร ที่คัดสรรมาอย่างเหนือระดับ รวมทั้งรูฟท็อปเดสทิเนชั่น บนชั้น 58 และ 61 ซึ่งจะกลายเป็นสเปซแห่งการดื่มด่ำกับมื้ออาหารสุดพิเศษ ด้วยบาร์และห้องอาหารหรู พร้อมทิวทัศน์กรุงเทพฯ แบบพาโนรามา 360 ที่สูงที่สุดกลางแยกเพลินจิต
• Reimagined Daily Green Intake พื้นที่สีเขียวทั้งภายในและนอกอาคารกว่า 5,000 ตารางเมตร เพื่อนำบรรยากาศเขียวชอุ่ม สดชื่น เย็นสบาย ผ่อนคลาย มาสู่ใจกลางกรุงเทพฯ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ตัวแทนขาย CBRE โทร. 02-255-5555 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่
www.onecitycentrebangkok.com