บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัวที่สุด มั่นใจตลาดอสังหาริมทรัพย์มีสัญญาณการฟื้นตัว เตรียมเดินเครื่องเต็มที่รับเปิดเมือง โชว์ศักยภาพความพร้อมในทุกด้าน เร่งเตรียมความพร้อมแผนธุรกิจและโครงการที่อยู่อาศัยในมือทั้งโครงการพร้อมอยู่ พร้อมส่งมอบ กว่า 58,725 ล้านบาท
ปรับพอร์ตใหม่ขยายแนวราบสู่ Luxury Segment เตรียมรับรู้รายได้จาก 2 โครงการใหม่กว่า 6,000 ล้านบาทในปีนี้ พร้อมรับกระแสเงินสดรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) จาก 5 โครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ มั่นใจ 7 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 29,098 ล้านบาท จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างที่ผ่านมา หลังจากนี้เตรียมออกหุ้นกู้มูลค่า 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตตามแผนที่วางไว้
คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมประเทศเริ่มมีแนวโน้มในทิศทางดีขึ้นจากการเปิดเมืองมากขึ้น เห็นได้จากนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมามากขึ้น การจองห้องพักโรงแรมเพิ่มขึ้น รถติดมากขึ้น รวมถึงการปลดล็อกระบบ "Test & Go" ส่งผลให้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตคล้ายปกติมากขึ้น และที่สำคัญการกลับมาของวิถีชีวิตของคนเมือง แต่ก็ยังมีปัจจัยในเรื่องการปรับขึ้นของราคาที่ดิน ราคาน้ำมัน และการก่อสร้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับการปรับราคาในครั้งนี้ สำหรับอนันดาฯ นั้นถือว่าการเปิดเมืองเป็นโอกาสที่ดี เพราะอนันดาฯ เป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าคนเมืองทั้งตลาดคอนโดและแนวราบในเมืองได้เป็นอย่างดี โดยได้ทำการศึกษาและนำผลข้อมูลเชิงลึกของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยมาปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ อนันดาฯ ยังมีสินค้าที่ดีมีคุณภาพพร้อมอยู่ พร้อมส่งมอบในราคาต้นทุนเดิมนำเสนอให้กับลูกค้าได้เลือกสรรมากมาย และยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพคอนโดติดรถไฟฟ้าที่ยังเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตคนเมืองได้เป็นอย่างดี
คุณประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวล ลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อนันดาฯ ได้เตรียมแผนรองรับดีมานด์ที่จะฟื้นกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง โดยการนำเสนอสินค้าพร้อมอยู่ซึ่งมีโครงการ Inventory ที่แข็งแกร่งมูลค่ากว่า 58,725 ล้านบาท แบ่งตามพอร์ตดังนี้ คือ โครงการที่เป็น RTM (READY TO MOVE) มูลค่า 29,324 ล้านบาท โครงการที่จะสร้างเสร็จ ในปี 2022-2023 มูลค่า 19,397 ล้านบาท และ 3 จาก 7 โครงการ NEW PROJECTS LAUNCH ที่จะสามารถรับรู้รายได้ปี 2022-2023 มูลค่า 10,004 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการเติบโตในอีก 3 ปีข้างหน้า
ในส่วนของแนวราบมีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีการปรับพอร์ตใหม่ขยายสู่เซกเมนต์ลักชัวรี่ (Luxury Segment) พร้อมเปิดโครงการ Pool Villa หรูกลางใจเมือง ซึ่ง อนันดาฯ ได้นำประสบการณ์และความชำนาญในการขายคอนโดมิเนียมมาวางกลยุทธ์สำหรับ Luxury Pool Villa ครั้งนี้ ทำให้ขณะนี้มียอดพรีบุ๊คกิ้งแล้วกว่า 20% และมั่นใจว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ในส่วนของการเติบโตคาดว่าในไตรมาส 2 จะเริ่มทำยอดขายและรับรู้รายได้อย่างก้าวกระโดด จากการเตรียมรับรู้รายได้จาก 2 โครงการสร้างเสร็จใหม่ล่าสุด มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีอีก 6 โครงการ ที่เตรียมจะปิดการขายภายในปีนี้ มูลค่ากว่า 9,812 ล้านบาท ได้แก่
- โครงการอาร์เทล เอกมัย - รามอินทรา มูลค่า 1,531 ล้านบาท
- โครงการไอดีโอ สาทร-วงเวียนใหญ่ มูลค่า 2,352 ล้านบาท
- โครงการไอดีโอ รัชดา- สุทธิสาร มูลค่า 1,527 ล้านบาท
- โครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 66 มูลค่า 2,155 ล้านบาท
- โครงการยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส 2 มูลค่า 1,866 ล้านบาท
- โครงการยูนิโอ ทาวน์ เพชรเกษม 110 มูลค่า 383 ล้านบาท
ส่วนแผนการเปิดโครงการใหม่ทั้ง 7 โครงการ มูลค่ากว่า 29,098 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ ตามที่ประกาศไว้คาดว่าจะได้รับการตอบรับด้วยดีเหมือนที่ผ่านมา
สำหรับโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์คาดว่าสามารถรับกระแสเงินสดที่เป็นรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) จาก 5 โครงการเซอร์วิสอพารท์เม้นท์อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้เริ่มเปิดดำเนินการโครงการซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และจะมีการเปิดโครงการอย่างต่อเนื่องอีก 4 โครงการ คือโครงการแอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก โครงการแอสคอทท์ เอ็มบาสซี สาทร โครงการไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก และโครงการซัมเมอร์เซ็ต พัทยา ในเดือน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม ในปีนี้ เดือนละ 1 โครงการตามลำดับ
“อนันดาฯ มั่นใจว่าความเชื่อมั่นของลูกค้าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดีมานด์คอนโดมิเนียมในเมือง ยังไม่หายและกาลังจะกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากการใช้ชีวิตในเมืองยังคงเป็นความจาเป็น มีความสาคัญสาหรับกลุ่มคนในวัยทางาน กลุ่มคนที่กาลังศึกษาเล่าเรียน กลุ่มครอบครัว ตลอดจนกลุ่มระดับลักชัวรี่ในเมือง กลุ่มคนเหล่านี้ยังต้องการที่อยู่อาศัยที่มีความสะดวกสบายในการเดินทาง รวมถึงแวดล้อมด้วยสิ่งอานวยความสะดวก ซึ่ง “คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า” คือคาตอบที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เป็นคนเมืองได้อย่างตรงจุด และชัดเจน” คุณชานนท์ กล่าวทิ้งท้าย