สัมผัสประสบการณ์ “ไฮบริด ลีฟวิ่ง” โครงการมิกซ์ยูส LANDMARK @MRTA STATION บนถนนพระราม 9

ราคาอสังหาริมทรัพย์ใจกลางเมืองยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่เองและปล่อยเช่าเป็นอีกทางเลือกการลงทุนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองเห็น “โอกาส” ที่เกิดขึ้นเป็นสองเท่าทันทีที่ได้ครอบครอง

โอกาสแรก “ซื้ออยู่เอง” การใช้ชีวิตที่แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกกับที่พักระดับไฮคลาส การเดินทางคล่องตัวส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตที่คนรุ่นใหม่มองหากับการใช้เวลาในแต่ละวันอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งเรื่องงาน ชอปปิ้ง สังสรรค์กับเพื่อน แทนที่จะหมดเวลาไปกับปัญหารถติดในเมือง

โอกาสที่สอง “ลงทุน” ทั้งระยะกลางและระยะยาวจากการปล่อยเช่าและคาดหวังถึงผลตอบแทนที่จะได้รับจากมูลค่าสินทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

เมื่อการเดินทางเข้าเมืองระหว่างบ้านและที่ทำงาน กลายเป็นปัญหาให้หลายคนต้องกลับมาทบทวนและวางแผนชีวิตตัวเองใหม่จากการรับมือกับความเครียดในแต่วันที่เกิดขึ้น  เวลาที่เสียไปบนท้องถนนจากปัญหาจราจร  ค่าเดินทางที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้คนรุ่นใหม่วัยทำงานเริ่มกลับมาตามหาแนวทางเพื่อสร้างสมดุล เพื่อคุณภาพชีวิตที่ใช่ในแบบฉบับของตัวเอง

คอนโดมิเนียมกลางเมืองได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงก่อนหน้าโควิด-19 ก็ด้วยเหตุผลของความสะดวกสบาย และการบริหารจัดการชีวิตที่ลงตัว ขณะที่การพัฒนาโครงการในคอนเซ็ปต์ “มิกซ์ยูส” จะเป็นอีกทางเลือกที่เข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตวิถีใหม่ ที่เน้นทำทุกอย่างครบในที่เดียว ได้แก่ การทำงาน การใช้ชีวิต ชอปปิ้ง และแหล่งสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน

แนวคิดการผสมผสานการใช้พื้นที่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดบนทำเลศักยภาพถนนพระราม 9  พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตสู่ความเป็นไฮคลาสได้อย่างลงตัว เริ่มต้นแล้วกับโครงการมิกซ์ยูส LANDMARK @MRTA STATION ที่มาใน Concept “WHY CHOOSE, WHEN YOU CAN HAVE IT ALL” รวมทุกความสะดวกสบายไว้ภายในโครงการเดียว

สิ่งที่บรรยากาศการอยู่อาศัยในสไตล์ “มิกซ์ยูส” มีให้นั้นคือ ทุกความต้องการสำหรับคนวัยทำงานรุ่นใหม่  ที่เพียบพร้อมด้วย อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัยและคอมมูนิตี้ มอลล์

แลนด์มาร์ค แอท เอ็มอาร์ทีเอ สเตชั่น เป็นโครงการมิกซ์ยูส 3 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 13 ไร่ โดยมี
ยูนิตที่พักอาศัยรวม 1,980 ยูนิต ประกอบด้วย Tower A ส่วนพื้นที่โรงแรม

Tower B Siamese Tower อาคารสูง 38 ชั้น มาพร้อม Hospitality Service สำหรับการซื้อเพื่ออยู่เอง และในกรณีซื้อเพื่อลงทุนให้เช่า โดยผู้เช่าจะได้รับที่สุดของบริการที่ได้มาตรฐานจาก Concierge services, Housekeeping, Laundry, Room Service.

Tower C Siamese Residence อาคารสูง 29 ชั้น จำนวน 584 ยูนิต แบ่งเป็น Residential 543 ยูนิต Commercial 8 ยูนิต และส่วนออฟฟิศ 15 ยูนิต ซึ่งทุกฟังก์ชั่นของการใช้งานจะได้รับมาตรฐาน และ Facilities ที่เป็นมาตรฐานระดับโลก

นอกจากนี้ยังมี Commercial Zone ประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และพื้นที่ขนาดใหญ่ที่รองรับการจัดกิจกรรมในอนาคต

Branded Residences เป็นอีกความพิเศษที่ LANDMARK @MRTA STATION เตรียมไว้สำหรับผู้ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในคอมมูนิตี้แห่งนี้ โดยมาพร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแบรนด์ระดับสากล ได้แก่ Cassia Residences Rama9 Bangkok, a branded of Banyan Tree Group ประกอบด้วยบริการ Concierge, Room Service และบริการอื่น ๆ ที่พร้อมให้บริการแบบโรงแรมมาตรฐานระดับโลก ในราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้น 4.7 ล้านบาท

นอกจากความครบครันของฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่รองรับการใช้ชีวิตแล้ว LANDMARK @MRTA STATION เป็นอีกโครงการที่เน้นการออกแบบที่ทันสมัย แต่เรียบหรู ทั้งในส่วนห้องพักที่เป็นห้องสไตล์ลอฟท์ทุกยูนิต ห้องโปร่งโล่งสบาย เพราะจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูงถึง 4.4 ม. และพื้นที่ส่วนกลาง เช่น Sky Bar ของ Tower B ที่เปิดให้เป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์โดยที่คนนอกสามารถเข้ามาใช้บริการได้ หรือในส่วนของ Infinity Edge Pool ที่เปิดมุมมองให้ชมวิวของใจกลางพระราม 9 ได้ในขณะที่ว่ายน้ำ

ที่พิเศษไปกว่านั้น ทำเลที่ตั้งโครงการ  LANDMARK @MRTA STATION ยังมีความโดดเด่น และสามารถเดินทางเข้าถึงย่านเศรษฐกิจและชอปปิงหลักของกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

รัชดาภิเษก แหล่งที่ทำงานและที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ รวมถึงห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัลพระราม 9, Esplanade รัชดา, Big C รัชดา และ The Street รัชดา เป็นต้น

ขณะที่การเดินทางเข้าออกจากโครงการ LANDMARK @MRTA Station ไปยังพื้นที่อื่น ๆ รอบนอก สามารถเดินทางด้วยสถานีรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 5 นาที และในอนาคต
เมื่อรถไฟฟ้าใต้ดินส่วนขยายสายสีส้มแล้วเสร็จ สามารถเดินทางด้วย สถานีรฟม. ซึ่งห่างจากโครงการเพียง350 ม. รวมถึงคล่องตัวในการใช้ทางด่วนศรีรัช ในกรณีที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว