นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่าจากปี 2563 ถึง 2564 ทุกภาคธุรกิจต่างยังต้องเผชิญกับภาวะ Ripple Effect (หรือปรากฎการณ์ระลอกคลื่น) ที่ศูนย์กลางก็คือความเสียหายทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 อย่างเลี่ยงไม่ได้ วิกฤตโควิด-19 ได้สร้างบททดสอบ และบทเรียนอย่างมากมายให้กับผู้คนทั่วโลก และในปี 2564 นี้ถือเป็นปีที่ 30 ที่เอพี ไทยแลนด์ ดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และสามารถก้าวผ่านวิกฤตมาได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้งหนึ่ง โดยมีพันธกิจ ‘EMPOWER LIVING' เป็นเจตจำนงสำคัญในการดำรงอยู่ของเอพี ไทยแลนด์ เพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิต ที่ดี ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ และถือเป็นเข็มทิศหลักในการกำหนดกลยุทธ์การแข่งขัน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ ควบคู่กับความพร้อมในการปรับตัวให้สอดรับกับวิถีชีวิตใหม่ที่เปลี่ยนไปอย่างถาวร
“แต่อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของโอมิครอน (Omicron) สะท้อนให้เห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้ไม่จบในเร็ววัน โรคระบาดต้องอยู่กับเราไปอีกระยะหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ ควบคู่ไปกับความเปราะบางของระบบเศรษฐกิจที่ขึ้นๆ ลงๆ ส่งผลต่อ sentiment ของผู้บริโภค การดำเนินธุรกิจในปีหน้ายังคงตั้งอยู่บนความไม่ประมาท เรายังคงต้องวิ่งมาราธอนที่ยังไม่เจอเส้นชัยกันไปอีกสักพักใหญ่ ถ้าออกตัวแรงไปเรื่อยๆ ก็จะหมดแรง ถ้าวิ่งช้าก็แพ้คนอื่น หนทางข้างหน้าต้องต่อสู่อีกยาวไกล มีเรื่องใหม่ให้เจอทุกวัน โดยคีย์สำคัญคือต้องตัดสินใจให้ไว ในแต่ละวันนี้มีเรื่องใหม่เกิดขึ้นทำให้ต้องเอาเข้ามาตัดสินใจ ซึ่งนี่คือหนึ่งในวิถีที่ทำให้เอพีผ่านวิกฤตโควิดมาได้เป็นปีที่ 2” นายวิทการ กล่าว
ถอดกลยุทธ์ความสำเร็จ ในวันที่วิกฤตยังไม่จางหาย
ทั้งนี้ หนึ่งใน Key Drive สำคัญที่ทำให้เอพี ไทยแลนด์ยังคงเติบโตท่ามกลางสภาวะผันผวนของปีนี้ได้อย่างแข็งแกร่งนอกจากความพร้อมของทีมงานแล้วคือ การบริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขาย ให้กระจายไปในหลากหลายทำเล เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากขึ้น
โดยในปี 2564 เอพีเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 24 โครงการ มูลค่าประมาณ 27,550 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 22 โครงการ มูลค่าประมาณ 19,650 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมจำนวน 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 7,900 ล้านบาท และเมื่อรวมกับโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการขาย ทำให้ปัจจุบันเอพี มีโครงการกระจายอยู่ทั่วประเทศ มากถึง 120 โครงการ มูลค่าพร้อมขายกว่า 196,000 ล้านบาท
โดย ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2564 เอพี ไทยแลนด์สามารถทำยอดขายจากอสังหาริมทรัพย์ในเครือได้มากถึง 35,800 ล้านบาท และคาดว่าปิดปี 2564 จะสามารถสร้างยอดโอนได้เกือบ 40,000 ล้านบาท ถึงแม้ตลอดปีที่ผ่านมา ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับภาวะล็อกดาวน์ที่ส่งผลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างมากก็ตาม แต่เอพี ไทยแลนด์ยังคงสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่นได้อย่างชัดเจน ทั้งผลการดำเนินงาน การดูแลพนักงาน และที่สำคัญการบริหารจัดการกระแสเงินสด และการรักษาสัดส่วนหนี้สิ้นต่อทุนที่ ณ ไตรมาส 3/2564 ต่ำเพียง 0.56 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ 0.71 เท่า
คนหลงบ้าน
เทรนด์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า HOMEBODY หรือเทรนด์ติดบ้าน กลายเป็นความคุ้นชินของคนวันนี้ ‘บ้าน’ ในโลกความเป็นอยู่ใหม่ จึงถูกยกระดับให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่ต้องเป็นทุกอย่างให้กับทุกคนในครอบครัว ทั้งพื้นที่ทำงาน ห้องเรียนออน์ไลน์ ฟิตเนส ห้องไลฟ์สด หรือแม้กระทั่งสตูดิโอทำเพลง
จากจุดนี้สะท้อนภาพความสำเร็จของสินค้าบ้านเดี่ยวเครือเอพีได้อย่างชัดเจน ซึ่งเทรนด์ติดบ้านที่เกิดขึ้นนี้เอง ส่งผลให้ดีมานด์บ้านเดี่ยวเอพีแรงไม่ตก โดยยอดขายที่เกิดขึ้นกว่า 60% ถือเป็นยอดขายที่มาจากสินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยวด้วย 2 กลยุทธ์สำคัญ 1. โมเดลบ้านที่ดีที่สุด คิดจากอินไซต์จริงเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้อาศัย อาทิ แปลนบ้านหน้ากว้าง ที่สามารถเพิ่มมุม Work from Home หรือ เรียนออนไลน์พร้อมรับแสงธรรมชาติ และ 2. นวัตกรรมบ้านที่เข้าใจชีวิต ที่ผสานเทคโนโลยีเข้ากับการออกแบบพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนรวมภายในบ้านหนึ่งหลังที่มีรายละเอียดการออกแบบที่ตอบโจทย์ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย
WORK FROM ANYWHERE จะไม่ใช่เทรนด์อีกต่อไป
นอกจากนั้น อ้างอิงข้อมูลจากบริษัท Morgan Stanley ได้ระบุว่าอีก 7 ปีข้างหน้า ครึ่งหนึ่งของแรงงานในสหรัฐฯ จะเป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดคะเนของปีเตอร์ เลเวลส์ (Pieter Levels) สตาร์ทอัพ โปรแกรมเมอร์ และดีไซเนอร์ชาวดัตช์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ nomadlist.com ที่เปรียบเสมือนเข็มทิศการเดินทางไปทั่วโลกสำหรับชาว Digital Nomad ในปัจจุบัน ที่ว่าภายในปี 2578 จะมีคนทำงานอิสระที่เรียกตัวเองว่า Digital Nomad หนึ่งพันล้านคน จากข้อมูลปี 2562 ที่มีอยู่จำนวน 25 ล้านคน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของคนรุ่นใหม่ที่การทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Work from Anywhere) จะกลายเป็น norm ปกติของชีวิตในอนาคต ถึงแม้วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคจะเริ่มคลี่คลายไปแล้วก็ตาม ดังนั้น การออกแบบพื้นที่อย่างชาญฉลาดจะกลายเป็นจุดขายใหม่ที่ดึงดูด Next Generation ที่มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างดีที่สุด ทั้งเรื่องการทำงาน และด้านชีวิตส่วนตัว
ซึ่งจากการเปิดตัว LIFE พระราม 4-อโศก คอนโดมิเนียมดีไซน์ใหม่ ที่ผสานแนวคิดการออกแบบสเปซในชีวิตวิถีใหม่ ให้เข้ากับชีวิตการอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัว ด้วยจุดต่างของโครงการที่มีครบหมดไม่ต้องเลือกกับ CHOOSE LIFE CHOOSE EVERYTHING โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง 5 ชั้น กว่า 8,635 ตารางเมตร หรือ 5.39 ไร่ ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นสวรรค์ของคนเมืองรุ่นใหม่ รองรับไลฟ์สไตล์ในทุกรูปแบบจะ WORK – PLAY – CHILL – PEACE ไม่ต้องเลือกเพราะได้หมดในที่เดียว
หรือทาวน์โฮมแบรนด์ บ้านกลางเมือง หรือพลีโน่ ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบทั้งภายในและภายนอก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “พลิกแนวคิดชีวิตแนวตั้ง” โดดเด่นด้วย 3 จุดขาย 1. พลิกมิติเปิดมุมมองที่กว้างขึ้น ด้วยบ้านหน้ากว้างที่กว้างสุดถึง 11.5 เมตร 2. พลิกฟังก์ชั่นใหม่ เพื่อรองรับการ Work from Home ได้อย่างไร้ขีดจำกัด และ 3. พลิกประสบการณ์อิสระการอยู่อาศัย ด้วยการจัดวางตัวบ้านในมิติใหม่ที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวเหมือนอาศัยอยู่บ้านเดี่ยว ซึ่งต่างได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่ม Next Generation ที่มองหารูปแบบการใช้ชีวิตในวิถีใหม่
สร้างนวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง
Everything Digital หนึ่งในโรดแมทที่เอพียึดเป็นหลักสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ในด้านงานขายและงานบริการหลังการขายได้มีการนำเทคโนโลยีมาเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายเข้าถึงสินค้าและการอยู่อาศัยในเอพี คอมมูนิตี้ผ่านระบบดิจิตอลมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากข้อมูลในปี 2564 พบว่าลูกค้าคอนโดเอพีกว่า 85% สอบถามข้อมูลหรือนัดหมายเยี่ยมชมโครงการผ่านดิจิตอลแพลตฟอร์มต่างๆ ของเอพีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ ONE CLICK NEW HOME โซลูชั่นใหม่กับการซื้ออสังหาริมทรัพย์เครือเอพี ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อส่งตรงประสบการณ์เสมือนเดินทางไปยังชมโครงการจริง ทั้งพื้นที่ส่วนกลาง ห้องจริง วิวจริง พร้อมบรรยากาศกลางวันและกลางคืน ด้วยความละเอียดสูงสุดแบบ 360°ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการนำเสนอสินค้าผ่านประสบการณ์โลกดิจิตอลเสมือนจริง และช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้โดยไม่ต้องเดินทางออกจากบ้าน
รวมถึงงานบริการหลังการขายผ่าน SMART พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ในเครือเอพี ประสบความสำเร็จกับการเปิดตัว SMART WORLD ชีวิตที่เลือกได้ ซึ่งเป็นดิจิตอล เซอร์วิส แพลตฟอร์ม บริหารคุณภาพชีวิตหลังการอยู่อาศัยที่เอพีพัฒนาให้เป็นแอปพลิเคชันเดียวที่เอ็มพาวเวอร์ให้การใช้ชีวิตในบ้าน เป็นเรื่องง่าย ที่เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคน ด้วยชีวิตที่เลือกกับ 24 ฟังก์ชั่นกว่า 100 บริการ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยผสมผสานวิธีคิดภายใต้หลัก Design Thinking เข้ากับการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เสถียรและเข้าถึงได้ทุก Generation ณ ปัจจุบัน SMART WORLD มีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 80,000 ยูสเซอร์ มียอดผู้ Active User เฉลี่ย 48,000 ยูสเซอร์ต่อเดือน ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมบริการที่โดดเด่นด้านพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ในเครือเอพี
เอ็มพาวเวอร์สังคม เพื่อกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง
ในด้านสังคมท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นอย่างหนักในปีนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อผู้คนในสังคมทุกภาคส่วน แม้ว่าหลายหน่วยงานจะร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่ก็ยังพบว่ามีอีกหลายกลุ่มคนที่อาจยังถูกมองข้ามและเข้าถึงการช่วยเหลือได้น้อย จากแคมเปญ SAVE หมอ SAVE ประเทศไทยเมื่อปี 2563 สู่ปี 2564 กับแคมเปญ SAVE LIVES, PROTECT PEOPLE - เอพี เซฟชีวิต เซฟสังคม ที่เอพี ไทยแลนด์จัดขึ้น เพื่อเติมพลังและจุดประกายสังคมไทยก้าวผ่านโควิดไปด้วยกัน โดยมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่ว่าวิกฤตนี้เอพีจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง กับหลากหลายภารกิจลงพื้นที่ เพื่อหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับกลุ่มคนที่อาจยังถูกมองข้าม อย่างเช่น การเข้าไปช่วยดูแลกลุ่มพระสงฆ์จำนวนเกือบ 1,000 รูป ใน 10 พื้นที่เสี่ยง พร้อมสนับสนุน SMEs ไทยด้วยการรับซื้ออาหารสด ผัก ผลไม้ ไข่ไก่ และเนื้อสัตว์ในรูปแบบผูกปิ่นโตจัดส่งแก่โรงครัวทางวัด
การร่วมเซฟชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการส่งมอบเครื่องผลิตออกซิเจนด้วยอัตราการไหลสูง (High Flow Oxygen Therapy) อุปกรณ์จำเป็นและสำคัญยิ่งในขณะนั้น ให้กับโรงพยาบาลรัฐในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือการเข้าดูแลกลุ่มพี่น้องแรงงานกว่า 10,000 ชีวิต ในช่วงที่ต้องเผชิญกับการล็อกแคมป์ก่อสร้าง ด้วยการจัดส่งข้าวสาร ไข่ไก่ อาหารแห้ง เครื่องปรุงรสต่างๆ พร้อมน้ำดื่มสะอาดให้กลุ่มพี่น้องแรงงานและครอบครัวที่อยู่ในแคมป์สามารถนำไปประกอบอาหาร ตลอดจนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของค่าน้ำ-ค่าไฟ ตลอดระยะเวลาปิดแคมป์คนงาน เป็นต้น
ภูมิใจได้ แต่ห้ามนิ่งนอนใจกับการเป็นที่ 1
บ่อยครั้งที่ได้ยิน CEO เอพี ไทยแลนด์ คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ที่มักจะพูดเสมอว่า ดีใจ ภูมิใจในการเป็น ที่ 1 ได้ แต่เรานิ่งนอนใจกับการเป็นที่ 1 ไม่ได้ ต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาและพร้อมที่จะตั้งรับกับกติกาโลกที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่เราหยุด เท่ากับเรากำลังถอยหลังไป 1 ก้าวแล้ว ทุกสิ่งเปลี่ยนหมดถ้าเอพีไม่ทำงานแบบ Go Beyond ก็จะไม่สามารถหา Next Norm ที่จะเป็นความได้เปรียบทางธุรกิจได้เลย
เมื่อ Passion ผสมรวมกับประสบการณ์ความเก๋าเกมส์ที่ผ่านมาแล้วหลายวิกฤต แม่ทัพใหญ่จึงพาเรือเอพี ไทยแลนด์ก้าวผ่านมาได้ครั้งนี้มาได้อย่างสวยงาม พร้อมการหอบหิ้วหลากหลายรางวัลอันทรงเกียรติ ที่สะท้อนถึงเสียงตอบรับทั้งจากลูกค้า พันธมิตรและสื่อมวลชน เช่น Hall of Fame Award แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่คนไทยเชื่อถือที่สุด ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ซึ่งเอพีถือเป็นรายแรกในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับรางวัลนี้ รางวัล Thailand’s Most Admired Company ด้านบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่คนไทยเชื่อถือที่สุด จากทีมวิจัย BrandAge สื่อการตลาดชั้นนำของไทย หรือรางวัล 2021 Thailand Real Estate Personality of the Year award รางวัลที่มอบให้บุคคลแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ประจำปี ซึ่งพิจารณาจากความเคลื่อนไหว ผลงาน ความสำเร็จ ที่เกิดขึ้นภายใต้การขับเคลื่อนของ CEO ตลอดจนการสนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้คือความสำเร็จที่เกิดขึ้น โดยมีความพร้อมขององค์กรเป็นพื้นฐาน โดยเฉพาะเป้าหมายขององค์กร เพื่อขับเคลื่อนทีมงานไปในทิศทางเดียวกัน โครงสร้างองค์กรที่แข็งแกร่งพร้อมรับกับการปรับตัวที่รวดเร็วได้อย่างยืดหยุ่น แม้คลื่นวิกฤตจะกระทบอีกสักกี่ครั้งเอพี ไทยแลนด์ พร้อมที่จะนำความสำเร็จ และสิ่งที่เรียนรู้ในปี 2564 มาเป็นแรงขับเคลื่อน เป็นพลังในการตั้งรับความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2665 เพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดี ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่สร้างความแตกต่าง ทั้งด้านคุณภาพ พื้นที่ใช้สอย ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการพักอาศัย เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ยิ่งใหญ่นั่นคือ EMPOWER LIVING