โอเชี่ยนฯ ชี้โควิดดันดีมานด์ลงทุน "ฮอลิเดย์โฮม-สินทรัพย์" หนุนอสังหาฯ พัทยาโตส่งท้ายปี 64
โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ เผยเทรนด์ตลาดบ้านหลังที่สอง หรือฮอลิเดย์โฮม ในเมืองพัทยาดีมานด์ยังดี เนื่องจากเทรนด์การทำงานที่บ้านยาวนานขึ้น ทำให้ผู้ซื้อเริ่มมองหาที่พักระยะยาวหรือบ้านหลังที่สอง สำหรับพักผ่อนและทำงานไปพร้อมๆกัน ชี้ลูกค้าให้ความสนใจโครงการ "โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา" ซื้อขายต่อเนื่องในช่วงโควิด-19 พร้อมเปิด 2 มุมมองผู้ซื้อจริง "อยู่เอง" เพื่อการพักผ่อน และ "ลงทุน" เป็นสินทรัพย์ส่งต่อถึงรุ่นลูก เชื่อมั่นศักยภาพเมืองพัทยาจะฟื้นกลับมาได้ในอนาคต
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ เมืองพัทยายังคงเป็นที่น่าจับตามองแม้ในวิกฤตโควิด-19 ที่กำลังระบาด แม้ว่าโดยรวมจะพบว่าผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มีกำลังซื้อบางส่วนที่ต้องการหาซื้อบ้านพักตากอากาศหรือ บ้านพักหลังที่ 2 ยังมีแนวโน้มยอดขายเติบโตได้ ซึ่งหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สามารถคลี่คลายได้ภายในปีนี้ ตลาดก็มีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ฟื้นตัว เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติได้ในช่วงปี 2565 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี แม้ในสถานการณ์ของการระบาดโควิด-19 ความต้องการซื้ออสังหาฯ ในเมืองพัทยาก็ยังเติบโตได้ดี จากข้อมูลของคอลลิเออร์ส ประเทศไทย ระบุว่า ณ ครึ่งแรกปี 2564 อัตราการขายเฉลี่ยในตลาดคอนโดมิเนียมพัทยาปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 69.20 % เพิ่มขึ้นประมาณ 1.20% จากในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ปัจจัยหลักๆ จากที่ยังไม่มีซัพพลายเติมเข้าสู่ตลาดมากนักจนไม่เกินภาวะล้นเกิน ศักยภาพของเมืองที่แข็งแกร่งจากการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานให้กับเมืองอยู่อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกันก็ได้ส่งผลให้พฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนไป ปรับสู่การทำงานที่บ้านมากขึ้น (Work from Home) และด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยทำให้คนทำงานยุคใหม่ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่ที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะ แต่ปรับวิถีไปเป็น Work from Anywhere มากขึ้นเชื่อว่าจะเป็นเทรนด์ใหม่หลังยุคโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ บ้านตากอากาศ หรือ ฮอลิเดย์โฮม จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สอง ทั้งเพื่อการพักผ่อน ทำงาน และสร้างมูลค่าจากการลงทุนในอนาคต
เทรนด์ Work From Home ยาวขึ้น ส่งผลพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน
นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพครบวงจร เปิดเผย นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2563 จนถึงปัจจุบันเทรนด์การทำงานจากที่บ้านที่ยาวนานขึ้น ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปและเริ่มมองหาชีวิตที่ยืดหยุ่นได้และมีพื้นที่พักผ่อนมากขึ้น รวมถึงการจำกัดพื้นที่และการเคลื่อนย้ายจากการประกาศล็อกดาวน์เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ สะท้อนทิศทางที่สอดรับสภาพความเป็นจริงของการขายและการตลาดฮอลิเดย์โฮมในพื้นที่พัทยา โดยเฉพาะโครงการของบริษัท “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา” ได้รับความสนใจจากการซื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในช่วงโควิด-19 ที่กำลังซื้อส่วนใหญ่มาจากในประเทศ ที่จะมองว่าพัทยายังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการพักผ่อนตากอากาศบ้านหลังที่ 2 บรรยากาศโดยรวมเอื้อต่อการท่องเที่ยว มีกิจกรรมเชิงไลฟ์สไตล์ให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำร่วมกัน อีกทั้งใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น
"จากแนวโน้มการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ หรือ New Normal ผู้ประกอบการอสังหาฯกำลังเผชิญกับรสนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสำหรับชีวิตที่ยืดหยุ่นได้และมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ทำให้เริ่มมีการมองหาที่พักระยะยาว หรือบ้านหลังที่ 2 สำหรับพักผ่อนและทำงานไปพร้อมๆ กัน" นายณพงศ์กล่าว
ข้อมูลที่น่าสนใจอีกด้านของงานวิจัยคอลลิเออร์ส ประเทศไทย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ไม่พบว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่เปิดขายในพื้นที่พัทยา โครงการส่วนใหญ่ชะลอเปิดตัวออกไป บางโครงการก็อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาใหม่ อันเนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทำให้จำนวนหน่วยที่เปิดขายอยู่ในตลาดปัจจุบันไม่ล้นเกินกว่าความต้องการซื้อที่แท้จริง
คอนโดห้องใหญ่ ตอบโจทย์บ้านหลังใหม่ของครอบครัว
นอกจากซัพพลายที่มีอยู่ไม่มากจะเป็นโอกาสสร้างยอดขายให้กับกำลังซื้อคนไทยที่มองหาบ้านหลังที่สองในแหล่งท่องเที่ยวแล้ว "ขนาด" พื้นที่ของคอนโดมิเนียม ก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อด้วย จากข้อมูลงานวิจัย คอลลิเออร์ส ประเทศไทย พบว่า ห้องชุดขนาดมากกว่า 100 ตารางเมตรขึ้นไปเหลืออุปทานในตลาดเพียงแค่ 1% ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายในตลาด หรือประมาณ 610 ยูนิตเท่านั้น เพราะจำนวนยูนิตเปิดขายใหม่ในโครงการต่าง ๆ ส่วนใหญ่พัฒนาเป็นห้องขนาดเล็ก
"กำลังซื้อระดับบนที่มีความพร้อมยังคงมองหาคอนโดมิเนียมหรูที่สามารถมองเห็นวิวทะเลที่มีห้องขนาดใหญ่ สำหรับเป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง หรือต้องการเปลี่ยนบรรยายกาศในการทำงานที่บ้านเป็นบรรยายกาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น หากห้องมีขนาดเล็กมากเกินไป อาจไม่ตอบโจทย์การมองหาเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองมากนัก เพราะส่วนใหญ่คนซื้อจะมองถึงประโยชน์การใช้พื้นที่ของสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้มากกว่า" นายณพงศ์กล่าว
ในส่วนของ "โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน - พัทยา" ขนาดห้อง Over-Size Unit 1-2 ห้องนอน พื้นที่กว้าง 80-133 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 6.9 ล้านบาท ที่พัฒนาไว้สำหรับรองรับกลุ่มกำลังซื้อ เพื่อเป็นบ้านหลังที่สองของครอบครัว เป็นการซื้อไว้เพื่อการลงทุน และสร้างมูลค่าการเติบโตของสินทรัพย์ในระยะยาว ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งนาจอมเทียนมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต จากการก่อสร้างเส้นทางหลวงพิเศษตัดใหม่เลี่ยงเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุด ที่มีจุดทางลงอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ
เปิด 2 มุมมองเรียลดีมานด์กับชีวิตที่ลงตัว
บ้านหลังที่สองในแหล่งท่องเที่ยวเมืองพัทยาเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนให้กับ 2 ครอบครัวของ
โอเชี่ยน พอร์โตฟีโน่ จอมเทียน (Ocean Portofino Jomtien) นายวุฒิเวช พิบูลพาณิชย์การ เปิดเผยถึงการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมพัทยาในช่วงสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ว่า "ผมและครอบครัว ตัดสินใจซื้อห้องของโครงการ "โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา" เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งมีปัจจัยจากภาพรวมของเมืองพัทยาที่ไม่ว่าเดินทางไปกี่ครั้งก็พบว่าเมืองมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผมมองว่าพัทยาเป็นเมืองที่มีชีวิต"
ในภาพรวมของโครงการฯ พอเข้ามาอยู่แล้วรู้สึกถึงการได้พักผ่อนอย่างแท้จริง อีกทั้งความปลอดภัย ครอบครัวเราใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียงชั่วโมงกว่าจากกรุงเทพฯ และไม่ไกลจากมอเตอร์เวย์ ทำให้สามารถเดินทางมาพักผ่อนที่นี่แทบจะทุกสัปดาห์ ที่สำคัญคือโครงการฯมีกิจกรรมในเชิงไลฟ์สไตล์ ติดทะเล มีท่าเรือ จากวันแรกจนถึงวันนี้ลูกๆ ของผมชื่นชอบบรรยากาศและการล่องเรือเป็นอย่างมาก
"ส่วนตัวแล้ววิวที่มองออกไปเห็นทะเล รวมถึงกิจกรรมที่ทุกคนในครอบครัวร่วมทำด้วยกัน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการฯก็มีความสำคัญ โดยมองถึงการเป็นจุดพักผ่อนของครอบครัวมากกว่าการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งในอนาคตแล้วเชื่อว่ามูลค่าของคอนโดมิเนียมโครงการ "โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา" จะเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์ที่จะเป็นส่วนที่ส่งต่อให้ลูกได้ในอนาคต"
ด้าน นายวิรัช เตชะมงคลาภิวัฒน์ กล่าวว่า จำนวนยูนิตในโครงการนี้ที่มีไม่มาก และมีมารีน่าที่ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของโครงการนี้ทำให้แตกต่างจากโครงการอื่นๆ ทำให้ตัดสินใจซื้อยูนิตแรกไปเมื่อปี 2562 และซื้อเพิ่มอีกยูนิตไปเมื่อเร็วๆ นี้
"ผมตัดสินใจซื้อที่นี่ มองเรื่องการซื้อเก็บไว้เป็นสินทรัพย์ระยะยาวและส่งต่อให้ลูกต่อไป จากที่มีห้องอยู่แล้ว ก็ซื้อเพิ่ม นอกจากการมีมารีน่าและสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการแล้ว ที่สำคัญคือ ผมมีเพื่อนอยู่ที่นี่ทำให้มาพักได้บ่อยๆ"
สำหรับโครงการ
โอเชี่ยน พอร์โตฟีโน่ จอมเทียน (Ocean Portofino Jomtien) คอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ (High Rise) สูง 37 ชั้น จำนวน 268 ยูนิต บนเนื้อที่กว่า 120 ไร่ เน้นการออกแบบโดยมอบความเป็นส่วนตัว และความสบายสูงสุด พร้อมเปิดมุมมอง 180 องศา ของวิวทะเลและท่าจอดเรือยอช์ท ที่สามารถชมวิวทะเลแบบพาโนรามา และสัมผัสบรรยากาศ "มารีน่า ไลฟ์สไตล์" ท่าจอดเรือยอช์ทหรูระดับเวิลด์คลาส แลนด์มาร์กสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา หนึ่งเดียวของฮอลิเดย์โฮมเมืองพัทยาที่เติมเต็มการพักผ่อนอย่างเหนือระดับทุกวันพักผ่อนแนวใหม่สำหรับทุกคนในครอบครัว
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายของโครงการหรือในรูปแบบออนไลน์ได้ทุกวัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์
www.oceanproperty.co.th หรือ โทร. 02-038-5013 ติดตามข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่