ฮาบิแทท กรุ๊ป เปิดฉากปลุกกำลังซื้อต้นปี 64 อัดโปรแรง "ฮาบิแทท 8 อั่งเปา" เร่งปั้มยอดขาย
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกปี 2564 ฮาบิแทท กรุ๊ป จะเน้นเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายตั้งแต่ต้นปี และนับเป็นช่วงโอกาสทองของผู้มองหา คอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัยหรือ การลงทุนระดับไฮเอนด์ทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา ผ่านแคมเปญ ฮาบิแทท 8 อั่งเปา เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้าให้ได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดรับต้นปี 2564 โครงการ
รามาด้า บาย วินด์ดัม มิรา นอร์ท พัทยา (Ramada By Wyndham Mira North Pattaya) อสังหาริมทรัพย์สไตล์รีสอร์ทเพื่อการลงทุนใจกลางพัทยา และโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรี่ในกรุงเทพฯ ภายใต้แบรนด์
วาลเด้น บน 3 ทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้เต็มรูปแบบ เพิ่มฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอย เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ อย่างการ Work From Home ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 นี้
โดยคอนโดมิเนียมลักชัวรี่โลว์ไรส์ ทั้ง 3 โครงการมาพร้อมดีลสุดพิเศษหลากหลายประกอบด้วย โครงการ
วาลเด้น อโศก (Walden Asoke) ราคาเริ่มต้นเพียง 5.9 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% และโครงการ
วาลเด้น สุขุมวิท 39 (Walden Sukhumvit 39) ในราคาเริ่มต้นเพียง 5.9 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60% ตกแต่งครบพร้อมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังจากยุโรป มอบส่วนลดสูงสุดถึง 400,000 บาท* และรับฟรี iPhone12* Pro 256GB. และโครงการ
วาลเด้น ทองหล่อ 8 (Walden Thonglor 8) เปิดขายไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาในราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 40% มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์แต่งครบและเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังจากยุโรป ฟรี iPhone12 Pro* 256GB. และรับส่วนลดสูงสุดกว่า 1 ล้านบาท*
Walden Asoke
Walden Sukhumvit 39
Walden Thonglor
Walden Thonglor
นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ในทำเลศูนย์กลางหรือเป็นฮับของกรุงเทพฯ อย่างทำเลทองหล่อ สุขุมวิทตอนต้น และมีการดูแลหลังการขายที่ดีมาตรฐานแบบมืออาชีพ ยังเป็นที่ต้องการของตลาด โดยโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ วาลเด้น ของบริษัทฯทุกโครงการ จะบริหารโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรอย่าง เจอาร์อี ดีเวลลอปเม้นท์ (JRE Development) หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านการบริหารโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้บริษัท แจลลุกซ์ อิงค์ (JALUX Inc.) ในเครือ JAPAN AIRLINES ประเทศญี่ปุ่น
Ramada By Wyndham Mira North Pattaya
สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์สไตล์รีสอร์ทเพื่อการลงทุนใจกลางพัทยาอย่าง รามาด้า มิรา นอร์ท พัทยา ตกแต่งครบพร้อมเฟอร์นิเจอร์ อีกทั้งการบริหารจัดการโดยแบรนด์โรงแรมระดับ 5 ดาว อย่าง รามาด้า บาย วินด์ดัม โดย วินด์ดัม โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท เป็นกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมการันตีผลตอบแทนที่ 6% เป็นระยะเวลานาน 3 ปี หลังจากนั้นจะเป็นการแบ่งผลกำไรระหว่างผู้ซื้อ 70% และผู้พัฒนาโครงการ 30% นอกจากนี้ยังสามารถเข้าพักฟรีได้ 14 วันต่อปี ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.99 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% รับฟรี iPhone12 Pro* 256GB. ทุกยูนิต และลุ้นรับทองคำแท่งหนัก 2 บาท* พร้อมรับส่วนลดสูงสุดกว่า 3 แสนบาท*
"แม้ในภาพรวม ผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบใหม่ แต่เชื่อว่าผู้บริโภคกลุ่มเซกเมนต์กลาง-บนยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัย สังเกตได้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯปี 2563 ทุกบริษัทยังคงมียอดขายเข้ามาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแคมเปญดังกล่าวเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บนในประเทศ ที่มีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่มีความพร้อมในการลงทุนอสังหาฯที่ราคาจับต้องได้ ซึ่งแคมเปญนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น"
อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของลูกค้า รวมถึงพนักงานของบริษัทฯทุกท่าน สอดคล้องกับมาตรฐานและข้อกำหนดกับนโยบายของภาครัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดสูงสุด โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และเช็คอินไทยชนะก่อนเข้าโครงการและสำนักงานขาย พนักงานทุกคนจะสวมใส่หน้ากากอนามัย และทำความสะอาดมือทุกครั้งก่อนให้บริการกับลูกค้า ติดตั้งจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และหน้ากากอนามัยให้กับลูกค้า อีกทั้งทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อตามบริเวณพื้นที่ส่วนกลางตั้งแต่บริเวณทางเข้าสำนักงานขาย ห้องตัวอย่าง และห้องน้ำทุกๆ ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยทั้งในโครงการและสำนักงานขาย เพราะความปลอดภัยลูกค้าที่มาเยี่ยมชมโครงการเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญสูงสุด นอกจากนี้บริษัทฯมีการปรับกลยุทธ์ลูกค้าสามารถนัดหมายเพื่อการเข้าชมห้องตัวอย่างแบบส่วนตัว (Private Visit) เพื่อการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะดีกว่าปี 2563 แม้เปิดต้นปีใหม่มา จะมีการล็อคดาวน์ในบางจังหวัดหรือบางพื้นที่ เนื่องจากการระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 แต่เชื่อว่าประสบการณ์การปิดประเทศ (ล็อคดาวน์) ในช่วงปี 2563 จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แต่ละบริษัทในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยภาพรวมของอสังหาฯปี 2564 น่าจะมีความคล้ายคลึงกับปี 2563 โดยมีการชะลอตัวในครึ่งปีแรก และฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2564 ปัจจัยสำคัญที่เข้ามาหนุนตลาดคือ การพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้สำเร็จ และเริ่มใช้ในหลายประเทศ ซึ่งจะทำให้ Sentiment ของตลาดน่าจะดีขึ้นและนักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น
"หากย้อนกลับไปที่เกิดการระบาดโควิด-19 รอบแรก เหตุการณ์ตอนนั้นได้สร้างความตื่นตระหนกมากกว่า ซึ่งไม่รู้เลยว่าสถานการณ์จะจบลงอย่างไร และจะไปในทิศทางใดต่อ ตลอดจนมีการล็อคดาวน์ เชื่อว่าทุกอย่างได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวที่ต้องหยุดชะงัก แต่การระบาดรอบใหม่ แม้การระบาดจะกระจายไปในหลายจังหวัด แต่ไม่มีการล็อคดาวน์ประเทศ และด้วยประสบการณ์เคยมีมาแล้ว ความตื่นตระหนกอาจจะน้อยกว่า โดยคาดว่าสถานการณ์กลับมานิ่งคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน ซึ่งคงเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้" นายชนินทร์ กล่าวทิ้งท้าย