สำรวจแลนด์มาร์ก 2 ทำเล ลาดพร้าว และ รามคำแหง แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ในย่านธุรกิจแห่งอนาคตของคนเมืองฯ

การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ความเป็นเมือง (Urbanization) ขยับออกสู่บริเวณรอบๆ จุดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ (Central Business District) ผ่านการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) อย่างเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งกลายเป็นทำเลอนาคตที่เหมาะกับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม สำนักงาน และศูนย์การค้าจนราคาที่ดินเริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ กว่า 10% ต่อปี จากการแข่งขันของบรรดานักลงทุนและดีเวลอปเปอร์ โดยเฉพาะในย่านเศรษฐกิจใหม่ New CBD และ Northern CBD ที่เมกะโปรเจกต์ของภาครัฐและภาคเอกชนต่างเร่งดำเนินการเพื่อจะเปิดให้บริการในเวลาอันใกล้นี้ 

• "ลาดพร้าว-จตุจักร" ทำเลแห่งอนาคต ฮับใหญ่ของการเดินทาง

ลาดพร้าว-จตุจักร ซึ่งเดิมเป็นย่านที่หนาแน่นด้วยที่พักอาศัยและแหล่งธุรกิจ อาทิ สำนักงานใหญ่บริษัทปตท. สำนักงานใหญ่การบินไทย บริษัทปูนซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) สถานีโทรทัศน์และสำนักข่าวใหญ่ๆ แหล่งพักผ่อนและท่องเที่ยวอย่างสวนจตุจักร สวนรถไฟ และห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว รวมถึงสถานีขนส่งหมอชิต เพราะย่านนี้เป็นเส้นทางที่สะดวกต่อการเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ เมื่อมีการประกาศใช้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายห้าแยกลาดพร้าว - ม.เกษตรศาสตร์ พร้อมกับเตรียมเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อ เมกะโปรเจกต์พื้นที่กว้างกว่า 300,000 ตารางเมตร ที่เชื่อมต่อทั้งรถไฟ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีม่วง และสายสีแดง แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ไปจนถึงรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทำเลจตุจักร-ลาดพร้าวจึงเป็นที่จับตามองจากดีเวลอปเปอร์และนักลงทุนมากยิ่งขึ้น 

ด้วยศักยภาพในจุด Interchange ของระบบขนส่งทำให้ทำเลนี้เกิดโครงการมิกซ์ยูสหลายโครงการที่เตรียมเปิดใช้ในปี 2564-2566 อาทิ หมอชิตคอมเพล็กซ์ พื้นที่กว่า 75,000 ตารางเมตร ซึ่งวางแผนจะพัฒนาอาคารสำนักงาน โรงแรมที่พักอาศัย ศูนย์การค้าภายในโครงการ, เอส โอเอซิส อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า ขนาด 54,000 ตารางเมตร และรัชโยธินฮิลล์ พื้นที่อาคารสำนักงาน ศูนย์ประชุม โรงแรม และค้าปลีก ทั้งหมด 49,000 ตารางเมตร ทั้งยังมีโครงการในอนาคตอื่นๆ เช่น โครงการร่วมทุนระหว่างกลุ่ม BTS และเครือเซ็นทรัลในการพัฒนาโปรเจกต์มิกซ์ยูสที่ผสมระหว่างคอนโดมิเนียม, อาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมเข้าด้วยกันบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ รวมถึงแผนพัฒนาสถานีขนส่งหมอชิตเดิมให้เป็น Bangkok Terminal อาคารมิกซ์ยูสพื้นที่รวม 810,000 ตารางเมตร สำหรับเป็นสถานีขนส่ง, ที่จอดรถ, โรงแรม, ศูนย์การค้า, สำนักงาน และศูนย์ประชุม

จตุจักร-ลาดพร้าวถือเป็น "ฮับ" การเดินทางขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งยังหนาแน่นด้วยอาคารสำนักงาน แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงสวนสาธารณะขนาดใหญ่ จึงเหมาะกับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเช่นเดียวกับ เมทริส ลาดพร้าว (Metris Ladprao) คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ พื้นที่ 1 ไร่ สูง 29 ชั้น จำนวน 193 ยูนิต โครงการตกแต่งในสไตล์ Mid-Century Modern ประกอบด้วยห้องพักแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 30-31 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 44-61 ตารางเมตร โครงการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ สระว่ายน้ำระบบเกลือ สวนพักผ่อนดาดฟ้า ลานบาร์บีคิว รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นเอกลักษณ์ของที่อยู่อาศัยที่พัฒนาโดยเมเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์อย่าง Pet Zone โซนพักผ่อนสำหรับสัตว์เลี้ยง

เมทริส ลาดพร้าว (Metris Ladprao) ตั้งอยู่บนทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธิน และ BTS สถานีหมอชิตเพียง 250 เมตร สามารถเดินทางไปยังห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว หรือยูเนียนมอลล์ภายใน 5 นาที และ ใช้เวลาเพียง 30 นาที ในการเดินทางไปยังสนามบินดอนเมือง ความโดดเด่นของโครงการดังกล่าว ทำให้ เมทริส ลาดพร้าว มีศักยภาพสูงสำหรับการลงทุน หรือหากซื้อเพื่อปล่อยเช่าจะได้ Yield ถึง 4.5-5%  

• "พระราม 9 - รามคำแหง" แหล่งธุรกิจใหม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง

ทำเล New CBD นับเป็นทำเลที่มีการลงทุนหนาแน่นรองจาก CBD โดยเฉพาะบริเวณแยกพระราม 9 ที่เป็นจุดตัดถนนพระราม 9 ถนนรัชดาภิเษก และถนนอโศก-ดินแดง ทั้งยังมีการเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีพระราม 9 จึงเกิดการลงทุนมหาศาลโดยเฉพาะศูนย์การค้า โรงแรม และแหล่งงานในทำเลนี้ อาทิ ห้างเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 อาคารสำนักงานจีแลนด์ ทาวเวอร์, โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน, อาคารซีพีทาวเวอร์ 2 รวมถึงโรงพยาบาลพระราม 9 ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นย่านที่มีครบทั้งศูนย์การค้า แหล่งธุรกิจ และความสะดวกในการเดินทางเข้าตัวเมือง  

ขณะที่บริเวณใกล้เคียงอย่างสถานีศูนย์วัฒนธรรม รายล้อมไปด้วยสถานที่ราชการสำคัญอย่างกระทรวงวัฒนธรรม สถานทูตจีนและเกาหลีใต้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อาคารทรู ทาวเวอร์ และสำนักงานต่างๆ หรือตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์และความบันเทิง เช่น ห้างเอสพลานาด รัชดาภิเษก และเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ซึ่งคาดว่าในปี 2567 สถานีศูนย์วัฒนธรรมจะกลายเป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันออก "ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี" มุ่งหน้าผ่านรามคำแหงไปยังสุวินทวงศ์เตรียมเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่สถานีมีนบุรีมุ่งสู่ศูนย์ราชการนนทบุรีในอนาคต ย่านพระราม 9-รามคำแหง จึงเป็นพื้นที่โครงข่ายรถไฟฟ้าสำคัญเชื่อมต่อการเดินทางหลากหลายเส้นทางเสมือน "ฮับ" (Hub) อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ  

ด้วยองค์ประกอบที่ครบทั้งการเดินทาง แหล่งธุรกิจ ที่ดินในย่านนี้จึงมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม และโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่น่าสนใจและได้รับรางวัล Property Awards 2020-2021 สาขา Mixed Use Architecture Awards อย่าง เมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9-รามคำแหง (Major Tower Rama 9-Ramkumhang) สำนักงานให้เช่าขนาดใหญ่กว่า 25,181 ตารางเมตร และคอนโดมิเนียม เมทริส พระราม 9 - รามคำแหง (Metris Rama 9-Ramkumhang) คอนโดมิเนียม High Rise พร้อมอยู่สไตล์ Mid-Century Modern บนพื้นที่ 2 ไร่ สูง 33 ชั้น จำนวน 570 ยูนิต แบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30-30.5 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน ขนาด 48-59 ตารางเมตร พร้อมส่วนกลางครบครัน เช่น สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนส ลานบาร์บีคิว สวนสีเขียวชั้นดาดฟ้า และโครงการยังเป็น Pet Friendly Residences ที่อนุญาตให้ผู้เข้าพักสามารถเลี้ยงสัตว์ และมี Pet Zone ส่วนกลางจัดเตรียมไว้ให้อีกด้วย

โครงการคอนโดมิเนียม "เมทริส พระราม 9 - รามคำแหง" (Metris Rama 9-Ramkumhang) สามารถเดินทางเข้า-ออกได้ 2 เส้นทาง คือ ถนนพระราม 9 และรามคำแหง ใกล้แอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ สถานีรามคำแหง 600 เมตร และรถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีรามคำแหง 12 เพียง 300 เมตร รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ รามคำแหง ที่กำลังปรับโฉมครั้งใหญ่เพื่อเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่ของย่านนี้ ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมทำเลนี้สามารถลงทุนปล่อยเช่าสร้างกำไรได้ในระยะยาว เนื่องจากมีอัตรา Capital Gain และ Rental Yield ค่อนข้างสูงตามดีมานด์ เช่นเดียวกับเมทริส พระราม 9 - รามคำแหง ที่มี Yield ถึง 4-4.5%

ล่าสุด เมเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์จัดแคมเปญส่งท้ายปี 2563 "MAJOR SALE" ส่วนลดสุดพิเศษ ฟรีค่าส่วนกลางสูงสุด 10 ปี และ Welcome Pack บริการครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ บริการขนย้ายสินค้าจาก Lalamove, บริการทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อโรคจาก Roys Vesta และ Voucher บริการซักอบรีดจาก Sin Chai Hua โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด 

สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.major.co.th  หรือ Major Development  Contact Center โทร. 02-116-1111 พร้อมติดตามข่าวสารกิจกรรมที่ แอปพลิเคชัน Major lifescape และที่ Facebook : MajorDevelopment /Instagram : major.development และช่องทาง LINE Official Account ที่ @majordevelopment