x
icon-filter ค้นหาคอนโด
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

Art of living ปรับกลยุทธ์ขายคอนโดฯ-บ้านมือหนึ่ง พัฒนา Big Data เสริมจุดแกร่งดีเวลลอปเปอร์รายเล็ก-รายใหม่

ข่าว icon 16 พ.ย. 63 icon 2,034
Art of living ปรับกลยุทธ์ขายคอนโด-บ้านมือหนึ่ง พัฒนา Big Data เสริมจุดแกร่งดีเวลลอปเปอร์รายเล็ก-ใหม่


โบรกเกอร์ตลาดบ้านมือสอง "อาร์ต ออฟ ลิฟวิ่ง พร็อพเพอร์ตี้" มุ่งมั่นสร้างการเติบโต คาดสิ้นปี 2563 ตัวเลขบริหารการขายอสังหาฯ ทะลุ 5,000 หน่วย พร้อมปรับตัวรับการแข่งขัน รับมือพิษโควิด-19 ขยายบริการสู่การเป็นมืออาชีพร่วมบริหารโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมมือหนึ่ง (Project Sale) เผยล่าสุดคว้าบริหารโครงการได้แล้ว 4 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ตั้งเป้าโค้งสุดท้ายสิ้นปีนี้มีโครงการใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการย่านเกษตรฯ พัฒนาแบบมิกซ์ยูส รวมมูลค่า 3,000-4,000 ล้านบาท พร้อมชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยีดึงมืออาชีพพัฒนาด้าน IT ใช้ Big Data และ AI เพื่อสร้างความแม่นยำให้กับดีเวลลอปเปอร์รายเล็ก-หน้าใหม่ ให้ประสบความสำเร็จการขาย มากกว่ารักษาไข้ภายหลัง 
นายสรังสี นันทพิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ต ออฟ ลิฟวิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มือสองเป็นหลัก (โบรกเกอร์) ของคนไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2557 และดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบันรวมเป็นเวลากว่า 7 ปี มีทรัพย์อสังหาริมทรัพย์มือสองที่บริหารอยู่ในพอร์ตในปีที่ผ่านมา ประมาณ 4,000 ยูนิต มูลค่าการขายประมาณ (รวม) 12,000 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปี 2563 จะมีการเพิ่มขึ้นของทรัพย์อสังหาริมทรัพย์มือสองหมุนเวียนอยู่ในพอร์ตประมาณ 5,000 ยูนิต มูลค่าการขายประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยรูปแบบการขาย จะมีทั้งลูกค้าฝากขาย 70% ฝากเช่า 30% แต่มีแนวโน้มที่เจ้าของทรัพย์จะประกาศขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากเรื่องความกังวลของการบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและโควิท-19 ในปัจจุบัน เฉลี่ยที่เข้ามาใช้บริการกับบริษัท อาร์ต ออฟ ลิฟวิ่งฯ ประมาณ 500 ยูนิต ต่อเดือน
"ก่อนที่จะมาตั้งบริษัทฯ ตนเองมีประสบการณ์ในด้านงานขายในบริษัทขนาดใหญ่ในหลายแห่ง ทั้งในบริษัทไฟแนนซ์ด้านสินเชื่อรายย่อย รวมถึงทำงานในบริษัทที่ปรึกษาด้านข้อมูลเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของสิงคโปร์ ก่อนที่จะพลิกมาจัดตั้งบริษัทธุรกิจโบรกเกอร์ขึ้นมา โดยรูปแบบการขยายเอเจนท์นั้น ในระยะ 3-4 ปีแรกของการก่อตั้งบริษัท จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาจบใหม่และผู้ที่ต้องการมีงานทำ ที่มีความสนใจในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เข้ามาร่วมงานกับบริษัทฯ ซึ่งในปี 2562 บริษัทฯ ได้ปรับแผนการตลาด โดยเปิดเพื่อรับเอเจนท์พาร์ทไทม์เข้ามา เพื่อเป็นทางเลือกที่สอง เป็นกระเป๋าที่สองให้กับผู้ที่สนใจจะนำอสังหาริมทรัพย์มาขาย โดยเป็นการแบ่งรายได้แบบ Profit Sharing กับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีทีมงานที่มีประสบการณ์ความรู้และความชำนาญในการขายอสังหาริมทรัพย์คอยดูแล เนื่องจากตลาดบ้านมือสอง ผู้เล่น ผู้ขาย เข้าและออกง่าย อีกทั้งกฎหมายของการเป็นนายหน้าบ้านมือสองยังไม่มีการรองรับ"
จากสถานการณ์ตลาดบ้านมือสองที่มีการเปลี่ยนแปลง การแข่งขันที่รุนแรง ประกอบกับผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจ แผนที่จะไปขยายยังตลาดต่างประเทศในช่วงนี้ ต้องหยุดลง รวมถึงนโยบายของบริษัทฯ ที่มีเป้าหมายการสร้างการเติบโต ทำให้บริษัทฯ ต้องขยายขอบข่ายเพิ่มไลน์ธุรกิจใหม่ โดยเข้าไปรับงานขายโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งประเภทโครงการบ้านจัดสรร และโครงการคอนโดมิเนียมมือหนึ่งเพิ่มเติม (Project Sale) มีโครงการที่ดูแลแล้ว 4 โครงการ
ผนึกกำลัง Data Tech Academy บริการลูกค้าอสังหาฯ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ทั้งนี้ การเข้ารับบริหารงานโครงการนั้นจะมีความแตกต่างกับการขายบ้านมือสอง ตรงที่การบริหารโครงการใหม่ จำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญในเรื่อง การวิจัย (Research) และการศึกษาความเป็นไปได้ของทั้งโครงการ (feasibility) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน เช่น การใช้ Big Data เพื่อให้เกิดความถูกต้องและแม่นยำในการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการที่บริษัทเข้าไปมีส่วนรวมในการบริหาร ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าการตลาด ต้นทุนบริหารและระยะเวลาในการปิดโครงการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยสามารนำมาใช้งานได้ตั้งแต่เริ่มแนวคิดการพัฒนาโครงการ, กลุ่มของผู้ซื้อโครงการ ทั้งนี้บริษัทได้ร่วมมือกับ Data Tech Academy ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารข้อมูลในการพัฒนาระบบ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการสร้างความได้เปรียบในธุรกิจโบรกเกอร์ คือ เรื่องของความลึกของข้อมูล (Data) เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"ความได้เปรียบของเราคือ เรายืดหยุ่นและคล่องตัวมากกว่า ทำให้สามารถแทรกเข้าไปตลาดการบริหารสำหรับลูกค้าโครงการที่มีขนาดกลางและเล็กหรือมีงบประมาณจำกัดได้ ซึ่งกลุ่มอินเตอร์แบรนด์ จะไม่เข้ามาจับกลุ่มลูกค้ารายใหม่มากนัก เนื่องมาจาก Budget และ Scale ของลูกค้าไม่ได้ใหญ่มากพอ"
นายสรังสี กล่าวย้ำถึงความร่วมมือ กับ Datatech Academy ว่า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล เป็น Data-driven Business โดยที่ลูกค้าของเราซึ่งเป็นทั้งบริษัทที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และลูกค้าปลีกทั่วไป จะได้ยกระดับการบริการ โดยมีการนำเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics) และการทำเหมืองข้อมูลรวมถึงมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่างๆ เช่น เทคโนโลยี AI มาช่วยสนับสนุนการบริการ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ การนำข้อมูลเข้ามาขับเคลื่อนองค์กรนั้น จะนำมาใช้ตั้งแต่ต้นน้ำของกระบวนการทำงานทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ช่วยผู้พัฒนาฯ กำหนด และนิยามกลุ่มเป้าหมายที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น และเข้าใจพฤติกรรมผู้จะซื้อได้เป็นอย่างดี รวมถึงขั้นตอนในกระบวนการต่อๆ มาไม่ว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ เช่น มี AI มาช่วยในการสร้าง Chatbot เพื่อตอบคำถาม แก่ลูกค้าอย่างรวดเร็ว และอาจจะรวมถึงการสร้าง Solution ใน life style สมัยใหม่ ที่ทำให้ลูกค้าเกิด Customer Experience อีกระดับหนึ่ง
"การผลักดันด้วยข้อมูลครั้งนี้ นับเป็นมิติใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ฉีกกฎจากเดิมแค่การทำการสำรวจและวิจัย แต่เรานำตัวข้อมูลมาเป็นตัวขับเคลื่อน และสร้างการตัดสินใจที่ดีขึ้นและปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการช่วยผู้ขายปรับกลยุทธ์ต่างๆ ในการขายได้อย่างเหมาะสม และรวดเร็ว โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมในการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้"
ตั้งเป้าปี 2564 บริหารโครงการเพิ่มให้ได้อีก 10 โครงการ
สำหรับการขยายเข้าไปรับบริหารโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมมือหนึ่ง ที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบันของปีนี้ มีประมาณ 4 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 
โครงการที่ 1 คือ โครงการ ซันทูมูน เรสซิเดนท์ (Sun to Moon Residence) ตั้งอยู่หลังบิ๊กซี จังหวัดอยุธยา บนเนื้อที่รวม 11 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 7 อาคาร รวมทั้งสิ้น 553 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท 
โครงการที่ 2 คือ โครงการ โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattatibate) ติดสถานีรถไฟฟ้า MRT ไทรม้า รูปแบบโครงการคอนโดมิเนียม สูง 34 ชั้น บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ จำนวน 364 ยูนิต ซึ่งเป็นคอนโดที่ยังมียูนิตเหลือขายมูลค่าโครงการกว่า 1,400 ล้านบาท

นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังได้รับงานบริหารโครงการขนาดเล็กให้แก่ผู้ประกอบการ โครงการที่ 3 คือบ้านแฝดขนาดเล็กในซอยรามคำแหง 118 ประมาณ 30 ยูนิต และโครงการคอนโดยูนิตเหลือขายติดรถไฟฟ้า BTS ปุณวิถี ประมาณ 30 ยูนิต ซึ่งโครงการเหล่านี้เป็นโครงการที่มีงบประมาณในการทำตลาดที่ค่อนข้างจำกัด จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการเพื่อให้งบประมาณที่ใช้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โครงการสุดท้าย ที่บริษัทกำลังรอเซ็นสัญญา เป็นโครงการใหม่ที่บริษัทได้มีโอกาสเข้าไปร่วมงานแบบครบวงจร (Full-Service) โดยจะมีการใช้เทคโนโลยีทั้งด้านการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ การวางแผนงานด้านการตลาดและการขาย เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณเกษตร นวมินทร์ มูลค่าโครงการถึง มากว่า 4,000 ล้านบาท เป็นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส (Mixed Use Development) คาดจะเริ่มโครงการได้ปลายปี 2564 ส่วนเป้าหมายปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเข้าไปบริหารโครงการเพิ่มให้ได้อีก 10 โครงการ โดยเน้นในพื้นที่รอบนอกเมือง 
"โครงการที่เรารับบริหาร โดยมากไม่ใช่โครงการใหม่ๆ เป็นโครงการที่เคยใช้บริการ Agency เจ้าอื่นมาแล้ว แต่ด้วยติดขัดปัญหาในหลายๆด้าน ทั้งการขาย การตลาด และการบริการ ทางเจ้าของโครงการจึงเปลี่ยนมาใช้เราแทน ซึ่งจะมีลูกค้าประเภทนี้เข้ามาให้เราเข้าไปแก้ปัญหาให้ ตลาดตรงนี้ยังมีช่องว่างให้เล่นเพียงแต่ต้องหาตลาดให้เจอ และต้องเป็นตลาดคู่แข่งทำไม่ได้"
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจด้านตลาดบ้านและคอนโดมิเนียมมือสองนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวย้ำว่า บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ตลาดจะมีการแข่งขันกันสูงมากๆ แต่พร้อมที่จะขยายงานเพิ่ม ทั้งในการหาทีมเข้ามาเสริมทัพ โดยในปัจจุบันบริษัทมีทีม รวมทั้งหาสินค้าเข้ามาเพิ่มในพอร์ตให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าทั้งสองฝั่งคือ ฝั่งผู้ซื้อ และฝั่งผู้ขาย รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับทีมงาน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

คอนโดมือหนึ่ง ข่าว art of living 2020 บ้านมือหนึ่ง

ข่าวและอีเว้นท์คอนโดล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)