x
icon-filter ค้นหาคอนโด
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

"วัน ออริจิ้น" วางแผนโตระยะยาว เตรียมเปิด โรงแรม-ออฟฟิศ-รีเทล มูลค่ารวมกว่า 20,000 ลบ.

ข่าว icon 29 ม.ค. 63 icon 3,187
"วัน ออริจิ้น" วางแผนโตระยะยาว เตรียมเปิด โรงแรม-ออฟฟิศ-รีเทล มูลค่ารวมกว่า 20,000 ลบ.


วัน ออริจิ้น รับภารกิจใหญ่จากบริษัทแม่ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ วางแผนระยะยาว เพื่อเป็นหัวหอกในการดำเนินธุรกิจสร้างรายได้ประจำให้กับทางกลุ่มฯ ด้วยการลงทุนพัฒนาโรงแรม-ออฟฟิศ-รีเทล ในหลากหลายทำเลศักยภาพ โรงแรม รวมกว่า 3,420 ห้อง พื้นที่ออฟฟิศและพื้นที่ค้าปลีกรวมกว่า 16,000 ตร.ม. ทั้งในกรุงเทพ และโซน EEC มูลค่าโครงการรวมกว่า 20,000 ล้านบาท (ประมาณการมูลค่าสินทรัพย์รวม) ภายในปี 2566 พร้อมตอบรับโลก Digital Disruption ด้วย Open Platform : เติบโตไปด้วยกัน เนื่องจากมีพันธมิตรหลายรายสนใจเข้าร่วมลงทุน มั่นใจโรงแรมสร้างเสร็จใหม่ 2 แห่งหนุนปี 63 และคาดว่าจะสามารถสร้างกำไรให้กับกลุ่มบริษัทฯ 500 ล้านบาทต่อปี ภายในปี 2568
แผนการลงทุนและการเติบโตในระยะยาวของบริษัทสามารถโตไปพร้อมกับพันธมิตร ซึ่งจะสามารถสร้างทั้งการเติบโตของธุรกิจ ช่วยเสริมกำลังการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ และยังเข้ามาช่วยผนึกกำลังทำงานร่วมกัน เติมเต็มโนว์ฮาว เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ก้าวไปได้เร็ว และสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และยังเป็นโมเดลแบบ Win-Win Situation ที่ทำให้บริษัทได้คู่คิดมาช่วยกันพัฒนาและสร้างสรรค์แต่ละโครงการให้มีเอกลักษณ์ มีสไตล์ มีสินค้าและบริการที่หลากหลาย โดยพันธมิตรในปัจจุบันของกลุ่มบริษัท มีหลากหลายรูปแบบ ได้แก่
  1. การลงทุนในลักษณะพันธมิตรร่วมทุน (JV Partner)
  2. การเข้ามาเป็นผู้บริหารจัดการโรงแรมในเครือ (Hotel Operator)
  3. การเข้ามาเป็นผู้เช่าพื้นที่ (Tenant)
  4. ผู้บริหารพื้นที่เช่า (Property Leasing and Management)
  5. เจ้าของที่ดิน (Land Owner) ที่มีที่ดินพร้อมร่วมลงทุนพัฒนากับวัน ออริจิ้น ซึ่งโมเดลนี้ บริษัทเปิดกว้างสำหรับบริษัทอื่นๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ
สำหรับธุรกิจพื้นที่พาณิชย์ (Commercial Space) ของวัน ออริจิ้น อันได้แก่ พื้นที่อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกนั้น บริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาและสรรหาพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น
  • นักลงทุน (Investor)
  • กลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ (Business Partner)
  • กลุ่มร้านอาหารขนาดใหญ่ (Mega Food Chain)
  • กลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต (Hypermart)
  • กลุ่มบริการพื้นที่สำนักงาน (Office service and co-working space)
  • กลุ่มร้านค้าปลีกขนาดเล็ก (Outlet)
  • กลุ่มร้านสะดวกซื้อ (Convenience store)
  • กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ (Delivery and Logistics)
มาร่วมกันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคในยุค Lazy Economy ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องการขยายความสามารถในการครอบคลุมตลาด แต่ต้องการเพิ่มศักยภาพจากผลตอบแทนการลงทุนที่มากกว่าแค่การเช่าพื้นที่และทำธุรกิจ
บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และทยอยเปิดให้บริการจนถึงปี 2566 รวมไม่น้อยกว่า 11 โครงการ ในหลากหลายทำเลสำคัญเกาะแนวเส้นทางขนส่งมวลชนที่สำคัญอย่างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกรุงเทพฯและปริมณฑล และพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญอย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมมูลค่าโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท (ประมาณการมูลค่าสินทรัพย์รวม) ประกอบด้วย
  1. โรงแรมและเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ รวมไม่น้อยกว่า 3,420 ห้องพัก ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ มุ่งเน้นเจาะลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (Business Purpose) และกลุ่ม Budget Hotel ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเสถียรภาพและมีอัตราการเข้าพักที่สม่ำเสมอทั้งในช่วงโลว์ซีซั่นและไฮซีซั่น
  2. กลุ่ม Commercial Space เช่น อาคารสำนักงานให้เช่า พื้นที่ค้าปลีก รวมไม่น้อยกว่า 16,000 ตร.ม. โดยโครงการส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะ Mixed-use ผสมผสานการใช้ประโยชน์ด้วยอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท สร้างรายได้จากหลายรูปแบบ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ และทำให้แต่ละโครงการมีศักยภาพพร้อมเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของทำเลนั้นๆ

ภายใต้แผนการพัฒนาโครงการมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท (ประมาณการมูลค่าสินทรัพย์รวม) มีโครงการที่ก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการแบบ Soft Opening แล้ว 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง รวม 650 ห้องพัก ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของทั้งบริษัทและพันธมิตรดั้งเดิมอย่างบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากญี่ปุ่น และ Hotel Operator ชั้นนำของโลกอย่างเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG)

โรงแรมและเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ กระจายตัวตามทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ

โรงแรมและเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ กระจายอยู่บนทำเลศักยภาพของ EEC (ชลบุรีและระยอง)
ทั้งนี้ บริษัทยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่รอการพัฒนาและอยู่ระหว่างการพัฒนาในหลากทำเล อาทิ พญาไท สุขุมวิท, รามอินทรา, ศรีราชา, ระยอง ฯลฯ โดยมีพันธมิตรใหม่สนใจร่วมลงทุนเพิ่มใน 3 โครงการ ขณะเดียวกัน บริษัท ยังมองหาโอกาสการควบรวมและ/หรือซื้อกิจการ (M&A) เพื่อช่วยสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย จากแผนงานของบริษัทฯ ภายในปี 2568 บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างกำไรให้กับกลุ่มได้ 500 ล้านบาทต่อปีตามแผน

ผู้สนใจร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ investment@oneorigin.co.th หรือ https://www.origin.co.th/

แท็กที่เกี่ยวข้อง

คอนโดออริจิ้น วัน ออริจิ้น oneorigin

ข่าวและอีเว้นท์คอนโดล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)