อนันดาฯ ควงพันธมิตรเหนียวแน่นมิตซุย โตต่อเนื่อง ลุยเปิด 38,000 ล้าน ยึดเบอร์ 1 คอนโดติดรถไฟฟ้า
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ย้ำมั่นใจความสำเร็จที่ผ่านมาจากกลยุทธ์ที่ดำเนินมาถูกต้องของบริษัทมุ่งตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัวที่สุด ด้วยประสบการณ์พร้อมความเชี่ยวชาญตลอด 20 ปีที่ผ่านมาภายใต้แนวคิด Urban Living Solutions เน้นศักยภาพการเติบโตของบริษัทในอนาคตแบบมั่นคง และยั่งยืนพร้อมความแข็งแกร่งทางการเงินและการสนับสนุนอย่างดีจากพันธมิตรชั้นนำมิตซุย ฟูโดซัง ประกาศแผนธุรกิจปี 2562 เติบโตต่อเนื่องพร้อมความระมัดระวัง เดินหน้าเปิด 10 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 38,000 ล้านบาท เน้นทำเลติดรถไฟฟ้าที่ยังมีศักยภาพขยายตัวได้อีกมาก
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทอนันดาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายครองตำแหน่งผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าจากวิสัยทัศน์ที่คิด และทำเป็นรายแรกของเมืองไทยพร้อมเป็นองค์กรที่พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งมีการเตรียมความพร้อมและความยืดหยุ่นในการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม เพื่อสามารถขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จแบบแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป
ซึ่งจากความสำเร็จที่ผ่านมานั้น บริษัทมั่นใจว่ากลยุทธ์ที่ได้ดำเนินมาโดยตลอดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพบนทำเลศักยภาพสูงติดรถไฟฟ้า สามารถตอบสนองความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาปรับใช้ในโครงการ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้ดียิ่งขึ้นในราคาที่สมเหตุผลและสามารถจับต้องได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง โดยการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบตลอดเวลาพร้อมกระแสเงินสดในมือกว่า 13,000 ล้านบาทซึ่งสามารถนำไปลงทุนเพิ่มเติม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต
ซึ่งในปี 2562 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์พัฒนาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า โดยเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ซึ่งยังคงได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด เป็นอย่างดี ตั้งแต่เริ่มร่วมทุนในปี 2013 จนถึงปัจจุบัน ทำให้บริษัทเป็นอันดับหนึ่งที่มีมูลค่าการร่วมทุนสูงที่สุดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยนอกจากนี้ ยังมีแผนในการกระจายช่องทางรายได้โดยการเพิ่มพอร์ตจากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) โดยอนันดาฯ มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ และเป็นการลงทุนที่มีรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว จึงได้มีการเริ่มดำเนินโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่เป็นการจับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่างดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ระดับลักชัวรีชั้นนำของโลก ซึ่งมีรางวัลจำนวนมากการันตี โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ 5 โครงการ ได้แก่ Somerset Rama 9, Ascott Embassy Sathorn, AscottThonglor, LYF Sukhumvit 8 และโครงการล่าสุดอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ ณ ชายหาดพัทยากลาง
"นอกจากนี้ในส่วนของกระแสเงินสดของบริษัทยังมีความแข็งแกร่ง โดยมีนโยบายในการรักษาระดับเงินสดของกลุ่มรวมทั้งบริษัทร่วมทุนไว้ในระดับสูงกว่า 13,000 ล้านบาท ทั้งยังได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง และต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำ และมีทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ และถึงแม้ว่าบริษัทจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังคงรักษาวินัยทางการเงินอย่างเข้มงวด โดยสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ภายใต้เป้าหมายที่ 1:1"
ในปี 2561 บริษัทฯ มีโครงการร่วมทุนเพิ่มขึ้น 5 โครงการ มูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท คือ ไอดีโอ สาทร-วงเวียนใหญ่ ไอดีโอรัชดา-สุทธิสาร เอลลิโอ สาทร-วุฒากาศ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสพอยท์ และโครงการคอนโดมิเนียมย่านสะพานควาย ทั้งยังร่วมพัฒนาโครงการร่วมกับมิตซุย ฟูโดซัง โดยการลงทุนในธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ 4 โครงการดังกล่าวมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 10,000 ล้านบาท
บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาโครงการร่วมทุนเพิ่มขึ้น ด้วยมูลค่าโครงการร่วมทุนเกินกว่า 157,600 ล้านบาท ในปี 2562 จากปี 61 ที่มีมูลค่า 128,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรักษาตำแหน่งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าโครงการร่วมทุนสูงที่สุดในประเทศ
บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการทำสถิติยอดขายใหม่ (นิวไฮ) การขายไปยังต่างประเทศจากโครงการใหม่ และโครงการที่เปิดขายไปก่อนหน้า โดยมียอดขายถึง 10,000 ล้านบาท ในปี 2561 ซึ่งเติบโตขึ้นร้อยละ 4 จากปีก่อน
ในปี 2561 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จสูงเกินคาดจากแผนการดำเนินงานที่ตั้งไว้ โดยนับว่าเป็นปีที่บริษัทสามารถสร้างสถิติใหม่ในส่วนของยอดโอนเป็นสถิติสูงสุดถึง 33,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 120 จากปีก่อนหน้า และมียอดโอนในส่วนของลูกค้าต่างชาติที่สามารถทำสถิติสูงสุดเช่นกันที่ 6,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 300 จากปีก่อนหน้าในส่วนของแบ็คล็อค ณ สิ้นปี 2561 อยู่ที่ 41,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของยอดโอนของบริษัทในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยปกติอัตราการขายคอนโดมิเนียมของบริษัทมีมากกว่า 90% ของสต๊อกซึ่งมีการขายภายในระยะเวลา 3 ปีนับตั้งแต่การเปิดตัวโครงการสอดคล้องกับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้เกือบ 70% ของสต็อกประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะขายเพื่อรองรับและรักษาอัตราการเติบโตของธุรกิจ
บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 2562 จำนวน 10 โครงการ มูลค่ากว่า 38,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 42 โดยเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง 7 โครงการ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ โดยตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ14 อยู่ที่ 36,000 ล้านบาท จาก 31,500 ล้านบาท ในปีก่อน และตั้งเป้ายอดโอนเติบโตที่ร้อยละ 9 จากปีก่อนอยู่ที่ 36,000 ล้านบาท โดยในปี 2562 บริษัทฯ คาดว่ามีคอนโดมิเนียมที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอน 10 โครงการเพิ่มเติมจากในปี 2561 ซึ่งมีคอนโดมิเนียมใหม่ที่สร้างแล้วเสร็จ และเริ่มโอนกว่า 10 โครงการ
นายพงศ์อนันต์ สุขเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทได้กำหนดทิศทางกลยุทธ์การตลาด โดยให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งที่สำคัญ ได้แก่
1. กลยุทธ์การบริหารจัดการโครงสร้าง และมาตรฐานของแต่ละแบรนด์สินค้า เพื่อให้มีจุดยืนที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละเซ็กเม้นท์ได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ รูปแบบการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ที่มีความแตกต่างในด้านความสนใจ รสนิยม และกำลังซื้อ ครอบคลุมตั้งแต่โครงการระดับพรีเมี่ยมจนถึงโครงการที่ราคาคุ้มค่า จับต้องได้ และตอบโจทย์ทุกด้านในการใช้ชีวิต
- Ashton (Accessible Luxury Condominium) แบรนด์ Top-Tier ของอนันดา ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สุนทรียะของการอยู่อาศัย ใส่ใจในทุกรายละเอียด บนทำเลที่ดีที่สุด (Prime area) ของกรุงเทพ
- IDEO Q ( Premium Condominium) โดดเด่นกับดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยโลเคชั่นใจกลางเมือง สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มองหาที่อยู่อาศัย ที่สะท้อนถึงความสำเร็จและความก้าวหน้าในชีวิต
- IDEO MOBI (Innovative Condominium) คอนโดที่เน้นการนำนวัตกรรมมาใช้ในการออกแบบ ให้มี Function การอยู่อาศัยที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- IDEO (Mass Transit Condominium) ที่อยู่อาศัยบนทำเลติดรถไฟฟ้า ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์พื้นที่ชีวิตที่ต้องการความสะดวก และสามารถใช้ชีวิตเต็มที่ในทุกด้าน Live-Work-Play ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Elio (Value Condominium) คอนโดที่คุ้มค่า ราคาจับต้องได้ มีพื้นที่ส่วนกลางที่โดดเด่น เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ และกำลังมองหาที่อยู่อาศัยเพื่อเริ่มต้นการใช้ชีวิต
เช่นเดียวกันกับ Housing Brand Portfolios ที่มีการวางรากฐานของแบรนด์เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่ระดับพรีเมี่ยมจนถึงโครงการที่ราคาคุ้มค่า ภายใต้แบรนด์ Artale (บ้านเดี่ยวหรู ใจกลางเมือง), Airi (บ้านเดี่ยวสมัยใหม่ สไตล์มินิมอล), Arden (ทาวน์โฮมดีไซน์โดดเด่น ทำเลเมือง) และ Atoll (บ้านเดี่ยวสำหรับครอบครัวรุ่นใหม่) เพื่อตอบโจทย์ความเป็น Urban Living Solutions ได้อย่างดีที่สุด
2. ขับเคลื่อนองค์กรและกลยุทธ์การตลาดด้วยแนวทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ เชื่อมโยงสินค้าเข้าสู่ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มลูกค้าในช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางดิจิทัลที่ในปัจจุบันสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งยกระดับการทำการตลาดดิจิทัลไปสู่อีกขั้น ภายใต้ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับชั้นนำ
3. กลยุทธ์การเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ จะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าระดับกลางจนถึงพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ ไอดีโอ, ไอดีโอ คิว และ แอชตัน ซึ่งโครงการที่นำมาเปิดขายในปีนี้ ทางบริษัทฯ มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนอย่างเช่นเคย และยังมีโครงการที่มีมูลค่าโครงการสูงสุดเท่าที่อนันดาฯ เคยพัฒนามา
สำหรับโครงการที่เป็นไฮไลท์ในปีนี้ ได้แก่ โครงการ ไอดีโอ คิว พหล-สะพานควาย ตั้งอยู่ติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย (0 เมตร) บนที่ดินขนาดประมาณ 5 ไร่ มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,114 ห้อง มูลค่าโครงการประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 อาคาร อาคารเอ มีจำนวนห้อง 396 ห้อง อาคารบี มีจำนวนห้อง 287 ห้อง และอาคารซี มีจำนวนห้อง 431 ห้อง ทั้งยังมีร้านค้าปลีก 5 ร้าน จุดเด่นของโครงการ คือ ติดรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย โดยมีคอนเซ็ปต์ในการพัฒนามาจาก Urban - Human - Nature (เมือง - คน -ธรรมชาติ) Urban - คือการเชื่อมต่อ 0 เมตรจากรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสะพานควาย Human คือ การเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของผู้อยู่อาศัย โดยจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวกประจำโครงการ, รูปลักษณ์โครงการ หรือสังคมของผู้พักอาศัย ที่มุ่งเน้นถึงสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย Nature คือ การผสมผสานธรรมชาติเข้าไปในรูปลักษณ์การดีไซน์ของตัวตึก
โดยโครงการจะเปิด Presales กลางปีนี้ และโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นต์ ณ ชายหาดพัทยากลางบนที่ดินขนาดประมาณ 4 ไร่ มีจำนวนห้องพัก 324 ห้อง มูลค่าโครงการเกือบ 2,000 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-316-2222 หรือ
www.ananda.co.th