"ฮาบิโตะ (HABITO) รีเทล มอลล์" คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกจากแสนสิริ
เปิดตัว "ฮาบิโตะ (HABITO) รีเทล มอลล์" ภายใต้คอนเซปต์ The Heart of Good Living ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกจากแสนสิริ ขนาด 10,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ 4 ไร่ของที 77 (T77) มูลค่าการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท ไฮไลท์จุดเด่นอยู่ที่ ฮับบาโตะ (HUBBA-TO) Coworking Spaces ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสตูดิโอทำงานครีเอทีฟครบทุกแขนง ลิ้มรสที่สุดของความอร่อยในแบบต้นตำรับกับ 15 ร้านอาหารนานาชาติ ทั้งญี่ปุ่น ลาว จีน เม็กซิกัน เวียดนาม อิตาเลียน ฯลฯ ที่คัดสรรว่าดีที่สุด พร้อมด้วยร้านค้าและบริการต่างๆ อีกมากมายที่ได้คัดสรรมาเพื่อให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว วางเป้าเป็นศูนย์รวมครีเอทีฟไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติแห่งใหม่ในที 77 (T77) และตั้งเป้ารายได้ต่อปี 40 ล้านบาท
คุณอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัว "ฮาบิโตะ" (HABITO) รีเทล มอลล์ ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกจากแสนสิริอย่างเป็นทางการ รวมทั้งยังเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่พัฒนาโดยบริษัทดีไซน์ชั้นหัวกะทิอย่างวิงค์ครีเอทีฟ (Winkreative) ที่มี Tyler Brule บรรณาธิการนิตยสาร Monocle และ Wallpaper เป็นหัวเรือใหญ่ จากแนวคิดสร้างสรรค์อันบรรเจิด ถูกต่อยอดด้วยการตกแต่งอย่างมีรสนิยมฝีมือของบริษัท Contour ที่การันตีได้จากผลงานการออกแบบช้อปปิ้งมอลล์มามากมาย ฮาบิโตะจึงพร้อมทั้งฟังก์ชันการใช้งานและความสวยงามที่ลงตัวกับรูปแบบชีวิตของผู้คนยุคนี้
ทุกตารางนิ้วของฮาบิโตะ ผ่านการคิดอย่างพิถีพิถัน โดยวิงค์ครีเอทีฟได้มีส่วนร่วมในการหาคอนเซปต์ และพัฒนาฮาบิโตะให้เป็นคอมมูนิตี้ รีเทล ที่มีรูปแบบที่แตกต่างและเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด โดยใช้เวลากว่า 2 ปีในการทำวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค วิเคราะห์คู่แข่ง โอกาสทางธุรกิจ รวมทั้งมีการศึกษาดูงานคอมมูนิตี้ รีเทล ชื่อดังในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นกว่า 10 แห่ง จนได้คอมมูนิตี้ รีเทล แนวคิดใหม่ที่มอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตภายใต้สโลแกน "HABITO: The Heart of Good Living" ซึ่งสะท้อนและสื่อถึงวิสัยทัศน์ของแสนสิริที่ต้องการพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ของคนในสุขุมวิท 77 โดยรวมทุกความสะดวกไว้ในที่เดียว เป็นที่สำหรับพบปะสังสรรค์ ทำงาน เรียนรู้ และดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ (The Heart of Good living) ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของชุมชนนานาชาติในโซนรอบนอกสุขุมวิท
HABITO เป็นคำที่เกิดจากการสนธิคำระหว่างคำว่า "Habitat" (อ่านว่า แฮบบิแทท) ในภาษาอังกฤษซึ่งแปลว่าที่อยู่อาศัย กับคำว่า "Bito" (อ่านว่า บิโตะ) ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ผู้คน ซึ่งเมื่อนำมารวมกันจึงเป็นที่มาของ ฮาบิโตะ รีเทล มอลล์ ภายใต้คอนเซปต์การตกแต่ง "เนเชอรัล ลีฟวิ่ง" (Natural Living) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น โปร่งสบายรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Eco friendly) เริ่มตั้งแต่การออกแบบในลักษณะที่เป็นกึ่งเอาท์ดอร์ เพื่อรับแสงและลมธรรมชาติลดการใช้ไฟฟ้า การเลือกวัสดุกันความร้อน และเลือกใช้วัสดุทดแทนลดการตัดต้นไม้ ทั้งนี้ยังใส่ใจในทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิตของคนทุกกลุ่มที่จะมาใช้บริการ ด้วยการดีไซน์ห้องน้ำให้อำนวยความสะดวกแก่แม่และเด็ก (Mother & Child friendly) ด้วยห้องให้นมบุตร และการจัดสรรพื้นที่ที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้สูงอายุและคนพิการ (Universal Access) พร้อมความสะดวกด้านการเดินทางทั้งทางด่วน และรถไฟฟ้าโดยมีรถ Shuttle Bus บริการรับส่งจากโครงการใน T77 และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุช เพื่อหัวใจที่สำคัญที่สุด คือ ผู้อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าวจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ต่อปีของฮาบิโตะไว้ที่ 40 ล้านบาท
ฮาบิโตะ รีเทล มอลล์ ขนาด 10,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในซอยอ่อนนุช 1/1 บนพื้นที่ 4 ไร่ของที77 ภายในฮาบิโตะ ประกอบด้วย 15 ร้านอาหารนานาชาติ ทั้งญี่ปุ่น ลาว จีน เม็กซิกัน เวียดนาม อิตาเลี่ยน ฯลฯ ที่คัดสรรว่าดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่อาศัยอยู่ในที77 โดยกลุ่มชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ใน T77 มากที่สุด คือ ชาวฮ่องกงและสิงคโปร์ จึงเป็นที่มาของการคัดสรรร้านอาหารทั้ง 15 ร้านให้มีความหลากหลายจากนานาชาติ พร้อมด้วยร้านค้าและบริการต่างๆ อีกมากมายที่ได้คัดสรรมาเพื่อให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากรับประทานอาหารและช้อปปิ้งแล้วยังสามารถใช้เวลาว่างด้วยการทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ฮาบิโตะได้เช่นกัน อาทิ ออกกำลังกายด้วยคลาสมวยสุดมันกับอาร์เอสเอ็ม มวยไทย อะคาเดมี่ (RSM : Rajadamnern Singha Muay Thai Academy) ซึ่งมีจุดเด่นในการผสมผสานกีฬามวยเข้ากับโยคะ เพื่อการเผาผลาญพลังงานและกระชับสัดส่วนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เสริมสวยกับร้านทำผมสไตล์เกาหลี Sunshine by Prestige เป็นต้น
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของฮาบิโตะ คือ "ฮับบาโตะ (HUBBA-TO)" โค-ครีเอชั่น คอมมูนิตี้ (Co-Creation Community) ครั้งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแสนสิริได้ร่วมมือกับฮับบา ไทยแลนด์ (HUBBA Thailand) ผู้บุกเบิก Coworking Space ในประเทศไทย เนรมิตพื้นที่ที่เป็นมากกว่า Coworking Space ทั่วไป ด้วยการเพิ่มพื้นที่สำหรับ Creative & Design Workshop ไม่ว่าจะเป็น Dark Room ห้องมืดล้างฟิล์มที่หายากในยุคสมัยนี้ หรือ Textile & Leather Studio ตอบโจทย์ทุกๆ ความต้องการของงานดีไซน์กับฟังก์ชั่นที่หลากหลาย เพื่อผลักดันและยกระดับงานดีไซน์ของไทยให้สามารถก้าวขึ้นสู่เวทีชั้นนำระดับโลก และเป็นศูนย์รวมของผู้มีหัวใจรักในงานศิลปะและมีไอเดียสร้างสรรค์ที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับทำเลที 77 แวดล้อมด้วยโครงการคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์ของแสนสิริที่ได้รับการตอบรับที่ดีและปิดการขายไปแล้วทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่าโครงการทั้งหมดในที 77 รวมทั้งสิ้นประมาณ 10,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 1 โครงการ รวมกว่า 5,000 ยูนิต ประกอบด้วย
- บลอคส์ สุขุมวิท 77 (Blocs Sukhumvit 77) มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ปัจจุบันปิดการขายและราคารีเซลล์สูงถึง 100,000 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขาย 79,500 บาทต่อตารางเมตร
- เดอะ เบส สุขุมวิท 77 (THE BASE Sukhumvit 77) มูลค่า โครงการ 2,500 ล้านบาท ราคารีเซลล์เพิ่มขึ้นเป็น 95,000 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขาย 60,000 บาทต่อตารางเมตร
- เดอะ เบส พาร์คเวสต์ (THE BASE Park West) มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ราคารีเซลล์สูงถึง 102,500 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขาย 79,000 บาทต่อตารางเมตร
- เดอะ เบส พาร์ค อีสต์ (THE BASE Park East) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ราคารีเซลล์สูงถึง 111,650 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขาย 82,000 บาทต่อตารางเมตร
- hasu HAUS (ฮาสุ เฮาส์) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ราคารีเซลล์สูงถึง 112,000 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขาย 95,000 บาทต่อตารางเมตร
- การ์เดนท์ สแควร์ (Garden Square) ทาวน์เฮ้าส์มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
"เราเชื่อมั่นว่า ในอนาคต ฮาบิโตะจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ที 77 เป็น International community อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ในแง่ธุรกิจ ฮาบิโตะจะช่วยส่งเสริมธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของแสนสิริได้เป็นอย่างดี ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท จะทำให้แสนสิริมีรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเช่าพื้นที่ในคอมมูนิตี้ มอลล์ที่คิดอัตรา 750-1,500 บาท ต่อ ตร.ม. ประมาณ 40 ล้านบาทต่อปีซึ่งหากเทียบกับรายได้รวมของบริษัทแล้วถือว่าน้อยกว่า 0.15% แต่สิ่งที่ได้กลับมามีมูลค่ามากกว่านั้น เพราะเป็นการส่งมอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีแก่ครอบครัวแสนสิริ ด้วยการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการของแสนสิริทำเลสุขุมวิท 77 ตลอดจนเป็นการเพิ่มความน่าสนใจในการซื้อและลงทุนในโครงการของแสนสิริ อันจะนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าของที่ดินในโซนนั้นในอนาคต" นายอุทัย กล่าว
ปัจจุบันฮาบิโตะมีผู้เช่าพื้นที่แล้วประมาณ 90% ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สนใจ ยังพร้อมเปิดรับผู้เช่าใหม่ที่อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของฮาบิโตะ โดยติดต่อขอเช่าพื้นที่โดยตรงได้ที่ โทร. 081-585-4155, 02-257-0499 หรือ Email : Sales_HABITOmall@HABITOmall.com รวมทั้งยังสามารถติดตามข่าวสารและตารางกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่
www.facebook.com/HABITOmall