เราอาจจะเคยได้ยินคำว่า คอนโดหรู หรือ Luxury Condo กับโครงการคอนโดที่มีราคาแพงในบ้านเรา ที่อาจจะมีราคาถึง 10 ล้าน 100 ล้านบาท ซึ่งคำว่าคอนโดหรูนั้นเราไม่ได้พูดขึ้นมาลอยๆ เพียงเพราะคอนโดโครงการนั้นมีราคาแพงค่ะ แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้มีการแบ่งระดับคอนโดเอาไว้ หรือที่เรียกว่า Segment คอนโด วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Segment คอนโด และวิธีการจัด Segment ของแต่ละคอนโดมาฝากกันค่ะ
Segment คอนโด คืออะไร ?
ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านและคอนโด ต่างก็มีการแบ่ง Segment ไว้ทั้งหมดค่ะ ในส่วนของ segment คอนโด ก็คือการแบ่งระดับช่วงราคาของคอนโด จากราคาต่อตารางเมตร และราคาเริ่มต้นของโครงการ สำหรับราคาต่อตารางเมตรมีวิธีคิดง่ายๆ ด้วยการนำราคาห้องนั้นๆ มาหารกับพื้นที่ใช้สอยของห้อง ก็จะได้ราคาต่อตารางเมตร เราก็จะเอาตัวเลขนี้ไปจัดอันดับ Segment คอนโดนั่นเองค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
♦ คอนโดแห่งหนึ่ง มีห้องขนาด 30 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ที่ 4,500,000 บาท ก็จะมีวิธีคิดแบบนี้ค่ะ
♦ 4,500,000 / 30 = 150,000 ==> ห้องนี้มีราคา 150,000 ต่อตารางเมตร นั่นเองค่ะ
ทั้งนี้ทาง Developer จะมีการวางแผนไว้ก่อนจะเริ่มพัฒนาคอนโดว่าจะทำคอนโดใน Segment ไหน เพื่อที่จะทำการตลาดได้ถูกว่าจะเจาะกลุ่มลูกค้าใด และพื้นที่ไหน โดยในแต่ละ segment ก็จะขึ้นอยู่กับทำเลของแต่ละพื้นที่ด้วยเช่นกันค่ะ ในย่านที่มีที่ดินแพง แน่นอนว่าราคาคอนโดก็จะแพงตามไปด้วย เช่นเดียวกับทางฝั่งผู้ซื้อก็จะได้พิจารณาถึงงบประมาณของตัวเราเอง และเลือกซื้อคอนโดในระดับที่เหมาะสมกับเราด้วยเช่นกันค่ะ
คอนโดมี Segment อะไรบ้าง ?
ด้วยมูลค่าที่ดินที่สูงขึ้นทุกปีๆ การจัดอันดับ Segment คอนโด นอกเหนือจากราคาพื้นที่ใช้สอยต่อตารางเมตรแล้ว จะรวมไปถึงราคาเริ่มต้นของโครงการด้วยค่ะ เพราะหลายโครงการในปัจจุบันหันมาหั่นขนาดห้องให้เล็กลงในขณะที่ราคาห้องนั้นสูงยิ่งขึ้น ทำให้การอาศัยอยู่ในห้องคอนโดที่ถึงแม้จะมีราคาสูง แต่ไม่ได้รับความสะดวกสบาย จึงทำให้ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นคอนโดหรูนั่นเองค่ะ เท่ากับว่าในเมื่อคอนโดมีราคาสูงแล้ว สิ่งที่เราได้รับต้องคุ้มค่ากับราคานั้นๆ ด้วยนั่นเอง เรามาดูกันค่ะว่า Segment คอนโดนั้นมีระดับอะไรบ้าง พร้อมกับยกตัวอย่างคอนโดใน Segment นั้นๆ มาฝากกันด้วยค่ะ
1. Super Economy
เริ่มต้นกันที่คอนโดระดับ Super Economy คอนโดระดับนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยไม่เกิน 50,000 บาท ต่อ ตร.ม. เป็นคอนโดระดับเริ่มต้นของผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ส่วนใหญ่แล้วจะมีราคาเริ่มต้นต่ำกว่าล้าน หรือในระดับล้านต้นๆ และขนาดห้องไม่กว้างมากนัก ด้วยความที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้นมีมูลค่าสูงขึ้นทุกปี คอนโดในราคาที่ต่ำกว่าล้านจะไม่ค่อยมีมากนัก ทางผู้พัฒนาจึงใช้วิธีปรับให้ห้องขนาดเล็กลง หรือไม่ก็พัฒนาในพื้นที่ตามชานเมือง ยกตัวอย่างเช่น
▸เสนา คิทท์ ศรีนครินทร์-ศรีด่าน (เสนา) ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท ขนาดห้องเริ่มต้น 22.5 ตร.ม.
▸พลัม รังสิต อไลฟ์ 2 (พฤกษา) ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 26.25 ตร.ม.
ภาพจากโครงการ เสนา คิทท์ ศรีนครินทร์-ศรีด่าน
2. Economy
ระดับ Economy ก็จะราคาสูงขึ้นมาหน่อย อยู่ในช่วง 50,000-70,000 บาท ต่อตารางเมตร คอนโดระดับนี้ ซึ่งจะพบเห็นได้มากขึ้น แต่ก็ยังคงอยู่ตามนอกเมือง หรือตามแนวรถไฟฟ้าสายชานเมืองต่างๆ บางโครงการใกล้เมืองมาหน่อยก็อาจจะหั่นให้ขนาดห้องเล็กลง เป็นคอนโดในระดับที่ First Jobber สามารถเอื้อมถึงได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างคอนโดระดับนี้ได้แก่
▸นิว โนเบิล คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง (Noble) ราคาเริ่มต้น 1.09 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 20.7 ตร.ม.
▸เอ สเปซ เมกา 2 (Areeya) ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 28.52 ตร.ม.
3. Main Class
คอนโดระดับนี้ถือว่าเป็นคอนโดที่มีดีมานด์ค่อนข้างเยอะ ทำให้มีคอนโดระดับนี้อยู่ในตลาดเยอะตามขึ้นด้วยเช่นกัน จะอยู่ในช่วงราคา 70,000 - 100,000 บาท ต่อตารางเมตร มีขนาดห้องที่ไม่เล็กเกินไป สามารถอยู่ได้ 2 คน ทำให้ผู้พัฒนาสามารถออกแบบให้คอนโดระดับนี้เป็นคอนโดของวัยทำงานทั่วไป ที่อยู่คนเดียวหรือจะอยู่กับแฟนก็ได้ สามารถเดินทางได้ด้วยรถยนต์ โดยไม่ได้เน้นไปที่การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า คอนโดระดับนี้ได้แก่
▸ศุภาลัย ไพร์ม พระราม 9 (Supalai) ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 31.5 ตร.ม.
▸ ไซบิค รามคำแหง 24 ไซบิค รามคำแหง 24 (CMC) ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 26.20 ตร.ม.
4. Upper Class
คอนโดระดับนี้อยู่ในช่วง 100,000 - 150,000 บาท ต่อตารางเมตร ซึ่งยังคงเป็นคอนโดที่มีความต้องการทางท้องตลาดอยู่เยอะเช่นกัน แต่จะหันมาเน้นที่ทำเลใกล้เมืองมากยิ่งขึ้น หรือใกล้รถไฟฟ้า เน้นไปที่กลุ่มวัยทำงานในตัวเมือง ที่อาจจะเน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า นอกจากนี้ยังอาจจะเน้นไปที่ส่วนกลางที่ครอบคลุมหลากหลายมากยิ่งขึ้น คอนโดระดับนี้ได้แก่
▸ MARU EKKAMAI 2 (Major Development) ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 29 ตร.ม.
▸ เดอะ โมส อิสรภาพ ราคาเริ่มต้น 3.09 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 23.5 ตร.ม.
ภาพจากโครงการ MARU EKKAMAI 2
5. High
เข้าสู่ช่วงคอนโดระดับบนๆ ระดับนี้จะอยู่ในช่วง 150,000 - 200,000 บาท ต่อตารางเมตร ซึ่งจะมีราคาสูงขึ้นมาในขณะที่ขนาดห้องอาจจะไม่ได้กว้างมากนัก แต่จะเน้นไปที่ทำเลที่อยู่ในเมือง ใกล้แหล่ง CBD สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้า และรายล้อมไปด้วยสถานที่อำนวยความสะดวกครบครัน รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่มาพร้อมกับความหรูหรามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้วัสดุที่ใช้ภายในห้องก็จะมีคามพรีเมียมมากขึ้นด้วย คอนโดระดับนี้ได้แก่
▸ LIFE พระราม 4 - อโศก (AP Thailand) ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 26.5 ตร.ม.
▸ วาลเด้น สุขุมวิท 39 (Habitat Group) ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 31 ตร.ม.
6. Luxury
มาถึงจุดนี้ เราสามารถเรียกคอนโดหรูได้แล้วค่ะ ซึ่งจะอยู่ในช่วง 200,000 - 300,000 บาท ต่อตารางเมตร และราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาทขึ้นไป เป็นคอนโดที่ผู้พัฒนาทำมาเพื่อเจาะกลุ่มตลาดบนๆ โดยเฉพาะ เป็นนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ หรือระดับผู้บริหารเป็นต้น โดยที่ตั้งของคอนโดระดับนี้ส่วนใหญ่จะตั้งอยุ่บนที่ดินแพงๆ ของกรุงเทพมหานคร เช่น สาทร สุขุมวิทตอนต้น เป็นต้น นอกจากนี้วัสดุภายในห้อง ก็ต้องเป็นวัสดุชั้นดี พรีเมียม บางโครงการอาจจะเป็นเพนท์เฮ้าส์ หรือห้องแบบ Duplex และสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางนั้นก็สุดแสนจะอลังการตามไปด้วยเช่นกันค่ะ คอนโดระดับนี้ได้แก่
▸ The Room สุขุมวิท 38 (Land and Houses) ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 44 ตร.ม.
▸ อนิล สาทร 12 (Grand Unity) ราคาเริ่มต้น 11.9 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 45.5 ตร.ม.
7. Super Luxury
หรูยิ่งกว่าหรู ก็คงเป็น Super Luxury นี่แหละค่ะ มอบตำแหน่งนี้ให้กับคอนโดที่มีราคาตั้งแต่ 300,000 บาท ต่อตารางเมตร และมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป เป็นคอนโดระดับบนสุดในแบบที่ทางผู้พัฒนาตั้งใจมาเจาะตลาดบนโดยเฉพาะแบบไม่ต้องคิดเยอะ เต็มไปด้วยความหรูหราตั้งแต่หน้าทางเข้า ภายในห้อง และพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ส่วนใหญ่แล้วเป็นคอนโด High Rise ใจกลางเมืองที่เราจะสามารถรับลมชมวิว 360 องศาได้รอบเมือง วิวที่ Exclusive แบบชาว Super Luxury เท่านั้นที่จะได้เชยชม นอกจากความพรีเมี่ยมภายในโครงการแล้ว ยังครบพร้อมด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย เรียกได้ว่าเป็นคอนโดในระดับที่สมบูรณ์แบบที่สุดในบ้านเราตอนนี้แล้วค่ะ คอนโดระดับนี้ได้แก่
▸ 28 ชิดลม (SC Asset) ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท ขนาดห้องเริ่มต้น 37 ตร.ม.
▸ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Nirvana Daii) ขนาดห้อง 78 ตร.ม. ราคา 29.9 ล้านบาท
ภาพจากโครงการ อนิล สาทร 12
หมายเหตุ : ข้อมูลราคา และขนาดห้อง อ้างอิงจาก Official Website ของแต่ละโครงการ