เราอาจจะรู้จัก "ชีส" ในรูปแบบการนำมาโดนความร้อนแล้วยืด เช่น ชีสในพิซซา ชีสกับปิ้งย่างเกาหลี หรือชีสแผ่นที่ใส่ในแซนด์วิชหรือแฮมเบอร์เกอร์ เป็นต้น การรับประทานชีสเปล่าๆ เป็นก้อนๆ ในเมนูที่เรียกกันว่า "ชีสบอร์ด" ยังไม่ได้ฮิตติดลมมากนัก แต่ตอนนี้เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นตั้งแต่ช่วงคริสมาสต์ที่ผ่านมา นิยมรับประทานกันในงานปาร์ตี้ หรือเสิร์ฟเลี้ยงแขกที่มาเยี่ยมเยือน เพราะไม่ต้องใช้เวลาเตรียมมากนัก แถมยังอร่อยได้สารอาหารแบบเต็มๆ อีกด้วย
"ชีสบอร์ด" คืออะไร?
ชีสบอร์ด (Cheese Board) หรือเรียกได้อีกหลายแบบว่า Cheese plate, Cheese platter, Charcuterie คือการนำชีสหลายๆ ชนิดมาจัดลงบนถาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นถาดหรือกระดานที่ทำจากไม้ จัดเรียงพร้อมกับเครื่องเคียงที่จะมีทั้งผลไม้สดและผลไม้แห้ง เนื้อสัตว์แปรรูป หรือพวกถั่วต่างๆ เป็นต้น โดยต้นกำเนิดของการรับประทานชีสบอร์ดนี้มากจากประเทศทางฝั่งยุโรปอย่าง ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ที่มักจะรับประทานชีสกับเนื้อสัตว์แปรรูป (Cured meat หรือ Cold cuts) เรียกเมนูนี้ว่า "Charcuterie" ปัจจุบันก็ได้ปรับมีเครื่องเคียงอย่างอื่นมากขึ้น และได้รับความนิยมทางฝั่งตะวันตกลามมาจนถึงบ้านเรา
ความอร่อยของการทานชีสบอร์ดคือการผสมผสานรสชาติที่แท้จริงของชีสที่มีเค็มและมัน มาผสมกับเครื่องเคียงที่หวาน เปรี้ยว บวกกับความหอมจากโคลด์คัด และถั่ว ซึ่งเนื้อสัมผัส (texture) ใน 1 คำก็จะมีทั้งความนุ่ม ความแข็ง ความกรอบแตกต่างกันไปตามแต่ละเครื่องเคียงที่เราเลือกทาน หรือใครอยากทานรสหวาน ในบอร์ดก็จะมีน้ำผึ้งหรือแยมเสิร์ฟอยู่ สามารถจุ่มหรือราดได้ตามความต้องการ
ชีสบอร์ดประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
1. ชีส (Cheese)
ควรเลือก 3-5 ชนิดให้มีความหลากหลาย เพื่อให้มีรสสัมผัสหลายๆ แบบ เช่น
- Soft Cheese : บรี (Brie Cheese) มอสซาเรลลา (Mozzarella Cheese)
- Semi-Soft Cheese : บลู (Blue Cheese)
- Semi- Hard Cheese : เชดด้า (Cheddar Chesse)
- Hard Cheese : พามิจาโน เรจจาโน (Parmigiano Reggiano Cheese)
2. โคลด์คัต (Cold Cuts)
โคลด์คัต ก็คือ เนื้อสัตว์แปรรูปที่ผ่านการถนอมอาหารมาแล้ว (Cured meat) นำมาตัดเป็นแผ่นๆ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาก็จะมีแฮม เบคอน ไส้กรอก ซาลามี เป็นต้น
3. ผลไม้และผลไม้แห้ง (Fruit and Dried Fruit)
ผลไม้ที่นิยมนำมาทานกับชีสคือ องุ่น และ แคนตาลูป หรือตระกูลเบอร์รี่ ส่วนผลไม้แห้งก็จะนิยมพวกแอปริคอตแห้ง แครนด์เบอร์รี่แห้ง จะทำให้เวลารับประทานได้เคี้ยวหนึบหนับมากขึ้น
4. ถั่ว (Nuts)
ที่ขาดไม่ได้เลยจะเป็นอัลมอนด์ พีแคน พิสตาชิโอ หรือถ้าใครชอบแบบผสมๆ รวมๆ หลายอย่างก็นำมาจัดใส่บอร์ดได้เลยค่ะ
5. แครกเกอร์ (Crackers)
จะเป็นรสชาติใดก็ได้ บางทีเราจะเห็นขนมปังหรือครัวซองต์อยู่ในบอร์ดด้วย
6. แยม (Spread)
นิยมทั้งแยมส้ม สตรอว์เบอร์รี น้ำผึ้ง เดี๋ยวนี้มีทั้งทรัฟเฟิล ก็ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับชีสบอร์ดได้ดี
7. ของดอง (Pickles)
ส่วนใหญ่จะเป็นมะกอกดองและแตงกวาดอง ที่มีรสชาติเปรี้ยวค่ะ
ร้านแนะนำออนไลน์...ถูกใจชีสเลิฟเวอร์
1.The Heaven Cheeseboard : ราคาเริ่มต้น 890 บาท
จะประกอบไปด้วยชีส 2-3 ชนิด ผลไม้สดและแห้ง ถั่วต่างๆ โคลด์คัด (แฮม, ซาลามี ฯลฯ) และน้ำผึ้งหรือแยม
2. The Humble Joys : ราคาเริ่มต้น 840 บาท
ร้านนี้จะมีชีส โคลด์คัด ผลไม้ ถั่ว แครกเกอร์ และน้ำผึ้ง แพ็คเกจสวยฉ่ำตามเทศกาล เมนูเค้าจะมีเปลี่ยนตลอดเข้าไปเช็คได้เลย
3. The Cuts : ราคาเริ่มต้น 890 บาท
แบบคลาสสิกจะมีชีสพรีเมี่ยม 4 ชนิด คือ Brie, Smoked, Manchego Iberico, และ White Cheddar มาพร้อมกับ Dry Fuet เป็นไส้กรอกขึ้นชื่อใน Catalan ที่สเปน และ Fig, Apricot อบแห้งจากตุรกีด้วยค่ะ หรือถ้าใครชอบ Truffle แนะนำ Jumbo Truffle Box 1,390 ที่มีชีสถึง 6 ชนิด ทรัฟเฟิลบรี และ ทรัฟเฟิล Gouda
4. W Exotic : ราคาเริ่มต้น 550 บาท
ร้านนี้จะมีชีสทานคู่กับเหล่าบรรดาแฮมและซาลามีแบบพรีเมี่ยม และมีผลไม้ แห้งและสด อาทิ บลูเบอร์รี่ กีวี สตรอว์เบอร์รี ผลไม้ตามฤดูกาลอย่างช่วงสิงหา-กันยาก็จะมีองุ่นไชน์มัสแคทฉ่ำๆ และยังมีแครกเกอร์และน้ำผึ้งด้วย