x
icon-filter ค้นหาคอนโด
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

ได้เวลา "เคลียร์ห้อง" ของที่เราไม่ใช้ บริจาคที่ไหนได้บ้าง?

icon 30 ส.ค. 64 icon 5,736
ได้เวลา "เคลียร์ห้อง" ของที่เราไม่ใช้ บริจาคที่ไหนได้บ้าง?

การทิ้งดีต่อเราแค่ไหน? แล้วอะไรบ้าง? ที่ควรตัดใจทิ้ง 

ทำไมต้องจัดห้องใหม่? อาจจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า วันนี้เราอยากกลับคอนโดหรือเปล่า เรามักจะหาเหตุผลในการออกไปอยู่ที่อื่นมากกว่าคอนโดหรือไม่? เรากำลังปิดกั้นไม่ค่อยอยากให้ใครมาเจอห้องเราใช่มั้ย? นั่นเป็นสัญญาณเตือนขึ้นขีดแดงแล้วค่ะว่า "คุณควรจัดห้องใหม่" เชื่อมั้ยคะว่า การจัดห้องใหม่ เปลี่ยนนิสัยเราได้! เมื่อก่อนเราใช้ชีวิตทั่วไป ตื่นเช้าไปทำงาน กลับมาค่ำ ๆ ทำอาหารทานข้าว อาบน้ำและนอน ชีวิตวนเวียนอยู่อย่างนี้ หลายคนไม่ค่อยใส่ใจกับจัดเก็บของในคอนโดเท่าไหร่ พอมาในช่วง Work From Home เราอยู่บ้านแทบ 100% สั่งอาหาร ช้อปปิ้งออนไลน์ ผลคือ กล่องพัสดุท่วมห้อง ของบางอย่างไม่ได้จำเป็นแต่ก็ซื้อมาเพราะใครต่อใครบอกกันว่า "ของมันต้องมี!" เจ็บมาเยอะกับคำ ๆ นี้ใช่มั้ยคะ? 
มาเริ่มต้นจัดการกับของในห้องกันดีกว่าค่ะ หาวันว่างสักวันสองวันหรือเดือนสองเดือนก็ได้ ขอให้เป็นการเซ็ตวันหรือเดดไลน์ให้ชัดเจน รื้อของออกมาดู กางออกมาเลือก ว่าอะไรที่ยังสำคัญอยู่ อะไรที่สำคัญน้อยลง และอะไรที่ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว นี่คือหนึ่งในวิธีจัดห้องแบบฉบับของ "คนโดะ มาริเอะ" ที่ไม่ใช่แค่การจัดห้องธรรมดา แต่เป็นการเปลี่ยน Mind set ในการใช้ชีวิตของเราไปด้วยเลย 
อะไรบ้างที่ควรตัดใจทิ้ง? ให้ตั้งคำถามว่า "ของชิ้นนี้ยัง จุดประกายความสุข (Spark Joy) ให้เราอยู่มั้ย?" 
ถ้าคำตอบใจตอนนี้คือ "ไม่" ก็ตัดใจทิ้งได้เลย
  • ของที่สภาพดี แต่เก็บไว้นานเป็นปี ๆ แล้ว แต่ไม่เคยเอาออกมาใช้
  • ของที่ได้รับจากคนที่เลิกรากันไป แล้วคงเหลือไว้แต่ความรู้สึกเทา ๆ 
  • ของที่ระลึกจากการไปท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ ในอดีต ซึ่งเราพิจารณาแล้วว่า ทิ้งไปก็ไม่เป็นไรนะ
  • ของขวัญที่ได้รับจากเพื่อนหรือคนอื่นในอดีต ซึ่งเราไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว อาจมีคุณค่าทางจิตใจ แต่จะมีประโยชน์มากกว่าถ้าของอยู่ในมือของคนที่ต้องการใช้

เพราะ "การจัดบ้านหรือจัดห้อง" ถือเป็นการจัดการกับอดีตของเรา และยังเป็นการจัดการกับความกังวลใจในอนาคตด้วย และผลลัพธ์ที่ คนโดะ มาริเอะ ค้นพบคือ การจัดห้องหรือจัดบ้านเปลี่ยน Mind set ในการใช้ชีวิต และช่วยให้เราตัดสินใจเก่งขึ้นมากด้วย เพียงเพราะเรากล้าที่จะเก็บและกล้าที่จะทิ้งของของเราไป ซึ่งสิ่งอยากบอกทุกคนในวันนี้คือ "การทิ้ง" เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเปลี่ยน Mind set ในการใช้ชีวิตใหม่ เรามาเริ่มทิ้งของที่ไม่ได้ใช้ แล้วจะทิ้งยังไงให้เกิดประโยชน์ที่สุด ส่งต่อให้กับคนที่ด้อยโอกาสกับโครงการดี ๆ เหล่านี้กันเลยดีกว่าค่ะ
ส่งต่อ "เครื่องครัวเหลือใช้ ของกินไม่ทัน" ให้โครงการครัวรักษ์อาหาร 

ช่วงเวลานี้มาถึงจุดที่คนไม่มีจะกินจริงๆแล้ว คนที่เคยมีงาน เคยกำลังจะได้มีโอกาส คนที่ไม่ได้จัดว่าอยู่ในกลุ่มเปราะบางตอนนี้ลำบากกันหมด โครงการครัวรักษ์อาหารจึงชวนทุกคนมาส่งต่ออาหารคุณภาพดีที่กินไม่ทัน หรือถูกลืมอยู่ในบ้านและที่ทำงานให้กับชุมชนที่กำลังขาดแคลนอาหาร ดีกว่าต้องถูกทิ้งไปให้หมดอายุไปเฉยๆ  
ซึ่งโครงการนี้ดำเนินงานโดย มูลนิธิ สโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาขยะอาหาร และสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงอาหารภายในประเทศไทยโดยการใช้ระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพเข้าไปรับ อาหารไม่สามารถนำไปขายได้แล้ว อย่างอาหารที่หน้าตาไม่สวย หรือใกล้ถึงวันหมดอายุ จากซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรม ร้านอาหาร หรือโรงงานผลิตอาหาร เพื่อนำไปส่งต่อให้กับชุมชนรายได้ต่ำที่มีข้อจำกัดในการได้รับอาหารที่ดีและเพียงพอในแต่ละวัน 
ช่องทางบริจาค
บริจาคได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัว อุปกรณ์ครัว ทัพพี ตะหลิว กระทะ หม้อต้ม หม้อนึ่ง ถ้วย ชาม อาหารแห้ง เครื่องดื่ม เครื่องปรุง ขนมขบเคี้ยวที่ยังอยู่ในบรรจุภัณฑ์สมบูรณ์และยังไม่ถูกรับประทาน หรือว่าจะเป็นอาหารกระป๋องที่ยังอยู่ในสภาพดี อย่างข้าวสาร น้ำดื่ม ที่เราซื้อตุนไว้ในช่วงโควิดแล้วกินไม่ทัน ไป Thai SOS แล้วเราจะนำไปส่งต่อให้ชุมชนเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือ
SOS Thailand ตึก FREC BANGKOK เลขที่ 77 ถนนนครสวรรค์ เเขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100 แผนที่ https://goo.gl/maps/pV78pbKs6q5T2DT66
ติดต่อประสานงาน 0909-724-352 (คุณก้อง) หรือ 087-159-7948 (คุณกุ๊ก)
หรือใครอยากสมทบเงินช่วยเหลือ เพื่อสร้างครัวรักษ์อาหาร ครัวชุมชนของทีม SOS โอนเข้ามูลนิธิโดยตรงได้เลย มูลนิธิสโกลาร์ส ออฟ ซัสทีแนนซ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ SCB เลขบัญชี 030-273178-9

อะไรไม่ได้ใช้ ส่งให้มูลนิธิกระจกเงา 

มูลนิธิกระจกเงา เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมหลาย ๆ ด้าน เช่น งานด้านสิทธิมนุษยชน งานด้านสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ งานพัฒนาอาสาสมัครและการแบ่งปันทรัพยากร เป็นต้น ทางมูลนิธิเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด ซึ่งเราสามารถบริจาคได้หลายอย่างมาก ได้แก่
  • เครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี ตู้เย็น เครื่องเสียง เครื่องซักผ้า ไม่ว่าจะเป็นของเก่าหรือของใหม่ ของเสียไม่ใช้แล้วก็บริจาคได้
  • เฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์สำนักงาน อันนี้ขอแบบสภาพดีหน่อย พร้อมใช้งานจะดีกว่า
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์, คีย์บอร์ด, โทรศัพท์, Laptop หรือเมาส์ก็ได้หมด
  • อุปกรณ์การเรียน และเครื่องเขียนต่างๆ เช่น สมุด หนังสือ นิตยสาร นิทาน หรือจะเป็นกระดาษที่ใช้แล้วก็ได้นะ 
  • ของใช้ทั่วไปก็ได้หมด เช่น เสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า ฯลฯ
ช่องทางบริจาค
ศูนย์รับบริจาค ผู้บริจาคสามารถเดินทางมาบริจาคได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191 ซอยวิภาวดี62 (แยก4-6) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 (ปักหมุดมูลนิธิกระจกเงา)
ส่งพัสดุ 
  • ผู้บริจาคสามารถส่งพัสดุมาได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191 ซอยวิภาวดี62 (แยก4-6) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 (โทร 061-9091840)
  • ส่งพัสดุฟรีผ่าน Nim Express ส่งฟรีตั้งแต่ 15 ก.พ.-30 ธ.ค. 2564 รายละเอียดสอบถามโทร 061-9091840
บริการรับของบริจาคถึงบ้าน โดยทีมศูนย์รับบริจาค มูลนิธิกระจกเงา (พื้นที่ กทม.ปริมณฑล) 
*เงื่อนไขในกรณีออกไปรับถึงบ้าน กรณีเป็นหนังสือขั้นต่ำ 2,000 เล่ม, เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ขั้นต่ำ 10 ชุด (*ไม่คิดค่าบริการออกไปรับ) และ กรณีเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครืองแต่งกาย และอื่นๆ (*คิดค่าบริการออกไปรับตามระยะทาง)
สำหรับใครที่อยากบริจาคเสื้อผ้าทั่วไป ชุดนักเรียน นักศึกษา ผ้าห่ม ผ้านวม ตุ๊กตา และหมอน แต่ไม่สะดวกซักเอง ช่วงนี้ Otteri Otteri WASH & DRY มีโครงการ Wash & Share "ซักเพื่อให้" เราสามารถนำผ้าไปวางที่กล่องรับบริจาคในร้านสะดวกซักที่เข้าร่วมโครงการได้เลย ทางร้านจะซักและอบฟรี เพื่อส่งต่อให้มูลนิธิกระจกเงา และกระจายต่อไปยังหน่วยงานที่ร่วมมือ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงราย, เชียงใหม่, อุบลราชธานี และสงขลา โดยกิจกรรมมีตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2564 - 15 กันยายน 2564 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เราทิ้งของที่เราไม่ได้ใช้ ช่วยทำให้ห้องโล่งขึ้น แถมยังได้ส่งต่อของไปให้มีประโยชน์ต่อผู้อื่นได้อีก 
ช่องทางการรับบริจาคกับ Otteri Otteri WASH & DRY 
เช็กสาขาที่เข้าร่วมโครงการนี้ https://web.facebook.com/otteriwashdry
ปันกัน ปันให้น้องผู้ด้อยโอกาส

ปันกัน เป็น platform ในการสร้างการมีส่วนร่วมของคนในสังคมไทย โดยเปิดรับบริจาคสิ่งของสภาพดีที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วเพื่อเป็นสินค้าแบ่งปันในร้าน นำเงินที่ได้ไปเป็นทุนเพื่อสร้างประโยชน์ และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแก่สังคม ถือเป็นโครงการที่เหมาะกับภารกิจเคลียร์ห้องของเราสุด ๆ เพราะรับบริจาคทั้งข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า หนังสือ ตุ๊กตาที่ไม่ได้ใช้แล้ว โดยเค้าจะเปิดรับบริจาคหลากหลายช่องทาง ทั้งหน้าร้านตามห้างสรรพสินค้า มีรถไปรับของถึงบ้าน มีการทำกิจกรรมตั้งกล่องรับบริจาค รวมถึงส่งไปรษณีย์ไปก็ได้หมด รวมของเข้าไปที่ส่วนกลาง คัดแยกของแล้วนำไปจำหน่ายเพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาให้เด็กที่ขาดโอกาส ซึ่งในช่วงโควิด-19 ระบาดนี้เราอาจจะต้องทำความสะอาดเสื้อผ้าและสิ่งของที่เราจะนำไปบริจาค เช็กสภาพว่า พอใช้งานได้หรือไม่ เพื่อให้ของที่เราส่งไปเกิดประโยชน์สูงสุดกับน้องๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือนะคะ 
ช่องทางรับบริจาค
  • ช่องทางที่ 1 ส่งพัสดุไปรษณีย์หรือขนส่งอื่นๆ มาที่ โครงการร้านปันกัน เลขที่ 7 ซอยอ่อนนุช 90 แขวง/เขต ประเวศ กรุงเทพฯ 10250 โทร 081-903-6639
  • ช่องทางที่ 2 นำสิ่งของสภาพดีมาบริจาคด้วยตัวเองที่คลังสินค้าแบ่งปัน ซอยอ่อนนุช 90 ทำการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 11.00 -15.00 น. พิกัด https://goo.gl/maps/aQVV2cPuxPVxnKvQ7

ปิ่นโตไม่ใช้...เราขอนะ!

ปิ่นโตไม่ใช้...เราขอนะ! โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่ารักมาก นอกจากจะช่วยระบายของในครัวเราและให้พื้นที่ครัวเราโล่งขึ้นแล้ว ยังได้ช่วยเหลือคนอื่นอีกด้วย โดยทาง Chula Zero Waste ร่วมกับ Food For Fighters เปิดรับบริจาคปิ่นโตและกล่องข้าวพลาสติกใช้ซ้ำ เพื่อส่งต่อให้ชุมชนชุมชนวัดโสมนัสและชุมชนจักรพรรดิพงษ์ในย่านนางเลิ้งใช้ใส่อาหารที่ได้รับจากครัวกลางของชุมชน พิสูจน์ให้เห็นว่าการช่วยชุมชนและการลดขยะจากกล่องอาหาร ภาชนะ ช้อนส้อมแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในสถานการณ์ Covid-19 ก็ทำได้! จะเป็นปิ่นโตหรือกล่องข้าวรูปแบบไหนก็ได้ ขอแค่เป็นของที่มีอยู่แล้วที่บ้าน แต่อาจจะเก็บไว้ค้างอยู่ในตู้ ไม่ค่อยได้เอาออกมาใช้งาน หรือมีเยอะจนใช้ไม่หมด อยู่ในสภาพดี แข็งแรง ใช้ซ้ำได้นานๆ ล้างทำความสะอาดได้ แต่ทางโครงการไม่ได้รับกล่องข้าว delivery หรือ single-use plastic นะคะ
ช่องทางรับบริจาค
  • เขียนแปะหน้ากล่องว่า "บริจาคปิ่นโต/กล่องข้าว" แล้วส่งปิ่นโต/กล่องข้าวไปที่ ศูนย์ข้าวเพื่อหมอ Food for Fighters (FFF) สมาคมนิสิตเก่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 02-016-9910
  • หรือใครอยากสนับสนุนเป็นเงินก็สามารถ โอนเงินเข้าเลขที่บัญชี 109-249780-3 มูลนิธิคุวานันท์ ธนาคารไทยพาณิชย์ (หักลดหย่อนภาษีได้) และระบุตรงหมายเหตุว่า "ปิ่นโต" หรือ "PintoFighter" แล้วส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่ line ID:@silvervoyage


ขอบคุณข้อมูลจาก : https://thestandard.cohttps://wasteorshare.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง แต่งบ้าน work from home อยู่บ้าน เคลียร์ห้อง บริจาคของ
Condo Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Condo Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)