ทีวีมินิมอล ดีต่อใจที่สุดในตอนนี้! LG Stand By Me VS Samsung TV The Serif คู่นี้ใครปังกว่า!

แบรนด์ : LG ขนาดหน้าจอ : 27 นิ้ว  จุดเด่น : มีขาตั้ง เป็นล้อเลื่อนได้  ตัวเครื่องดีไซน์มินิมอล วางไว้ตรงไหนก็สวยละมุนไปหมด หน้าจอเป็นทัชสกรีน ปรับหมุนองศาได้ตามใจ ความละเอียด Full HD แบ็กไลต์ LED เชื่อมต่อมือถือได้ ดูแอปต่างๆได้ ผ่าน WebOS ใช้งานไร้สาย (แบตเตอรี่) ได้นาน 3 ชั่วโมง ราคา : ประมาณ 30,xxx บาท	แบรนด์ : Samsung ขนาดหน้าจอ : 43 นิ้ว จุดเด่น : ออกแบบโดยดีไซเนอร์ระดับโลก ขาตั้งลอยตัว ถอดเก็บได้ ซ่อนสายไฟสบายตา มี NFC เชื่อมต่อได้ทันที บนทีวีวางของตกแต่งได้ตามใจชอบ จอภาพ QLED 4K (3,840x2,160) เชื่อมต่อได้ทั้ง WIFI & WIFI Direct, Blurtooth Low Energy  ราคา : ประมาณ 29,9xx บาท

ถ้าถามว่า เดี๋ยวนี้เราดูทีวีกันมาน้อยแค่ไหน คำว่าดูทีวีอาจไม่ได้หมายถึงการดูช่องฟรีทีวีแบบเรียลไทม์แบบเมื่อก่อนแล้ว เพราะเทคโนโลยีทำให้เรากลับมาดูทุกอย่างแบบย้อนหลังได้ และอำนาจในการเลือกเสพคอนเทนต์เป็นของเราทั้งสิ้น ทีวีที่เปิดตัวมาใหม่ๆ ในช่วงปีนี้จึงล้วนเป็นทีวีดิจิทัล ที่ไม่ใช่แค่แสดงภาพและเสียงได้ดี แต่ยังต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะดู Netflix Tiktok, Youtube, Prime Video หรือ Facebook Watch ล้วนง่ายสบายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากไปอีก

หนึ่งในทีวีที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานมานี้คือ "LG Stand By Me" กระแสดีมากในเกาหลี เพราะถูกออกแบบมาเพื่อชาวโซเชียลโดยเฉพาะ ตัวบอดี้ออกแบบมาให้เคลื่อนที่ไปตามการใช้งานของเราได้ทุกที่ อิสระได้เท่าที่ใจต้องการเลย เพราะมีแบตเตอร์รี่ในตัวสามารถใช้งานแบบไร้สายได้ 3 ชั่วโมง ดูหนังจบหนึ่งเรื่องค่อยชาร์จแบตต่อพอดิบพอดี ด้วยความที่หน้าจอเป็นทัชสกรีน ความละเอียด Full HD แบ็กไลต์ LED ปรับระดับได้ รวมถึงหมุน 180 องศาเพื่อใช้งานในแนวตั้งก็ได้ และไม่ว่าจะกดหน้าจอลงให้ สูง ต่ำ จะก้มจะเงย หรือหมุนซ้ายหมุนขวาก็ได้ทั้งนั้น เห็นเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์เกาหลีใช้เครื่องนี้แล้วบอกเลย อำนาจทำลายล้างสูง อยากพุ่งตัวไปซื้อ!!!        

จุดเด่นอีกอย่างของ LG Stand By Me คือ เกิดมาเพื่อตัวแม่ Live สด สามารถทัชสกรีนโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันที ปรับหมุนหน้าจอให้องศาเหมาะกับการขายของ เคลื่อนย้ายไปไหนก็สะดวก นอกจากใช้ผ่อนคลายเวลาว่างก็ยังใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินได้เลย 

ดูจากการใช้งานของชาวเกาหลีแล้ว แน่นอนว่า มินิมอล คลีนสุดๆ 
ทุกห้องควรมีเจ้าทีวีตัวนี้ ไว้ดู Netflix ก่อนนอน และเป็นของแต่งห้องให้ดูเก๋เบอร์แรง

Samsung TV The Serif ทีวีที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อวางชิดผนังเหมือนทีวีทั่วไป แต่ขาตั้งที่ให้มาสามารถถอดออกได้ ไม่ว่าจะวางเจ้า TV The Serif เครื่องนี้ไว้ตรงไหนก็ได้ในห้องก็ดูสวยงามมินิมอลไปหมด ซึ่งเหมาะมากๆ สำหรับบ้านที่ตกแต่งสไตล์ Minimal Modern หรือ Classic ออกแบบโดย Ronan และ Erwan Bouroullec สองพี่น้องนักออกแบบชื่อดังชาวฝรั่งเศส นับเป็นการรวมศิลปะกับเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในเวลานี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว มีให้เลือกแบบขนาดหน้าจอ 43 นิ้ว และ 55 นิ้ว ใครชอบเล็กชอบใหญ่จัด Size ที่แมทกับห้องได้เลย

Samsung TV The Serif ทำให้เรามองเห็นภาพบนจอด้วยเทคโนโลยี QLED ซึ่งเทคโนโลยี Quantum Dot ของ Samsung ใช้ Quantum Dot ขนาดนาโนเพื่อสร้างระดับสี 100% ดังนั้น ไม่ว่าฉากจะสว่างหรือมืดแค่ไหน เราก็จะยังได้เห็นแต่ภาพที่สมจริงอยู่เสมอ ไม่หลอกตา และ HDR10+ จะช่วยวิเคราะห์ฉากได้แบบเฟรมต่อเฟรม เพื่อปรับความสว่างให้เหมาะสำหรับแต่ละช่วงได้ด้วย

ดูจากดีไซน์ของ Samsung TV The Serif แล้ว วางตรงไหนก็ดูดี สบายๆ ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูเรียบง่าย ไม่ต้องเชื่อมต่อ ไม่มีสายไฟระโยงระยางให้ดูขัดสายตา ใครที่ชอบปรับเปลี่ยน ย้ายของแต่งห้องใหม่ตลอดๆ ก็ไม่มีข้อจำกัดเลยค่ะว่าจะต้องดูทีวีแค่มุมเดียว จะถอดขาไปตั้งบนชั้นวาง หรือจะใส่ขาแล้วตั้งมุมที่เราชอบ ก็ได้ทั้งนั้นเลย

แน่นอนว่า ความเรียบง่าย มินิมอลของเจ้า Samsung TV The Serif ตัวนี้ โดนใจชาวบล็อกเกอร์ ยูทูปเบอร์ หรือ อินฟลูเอนเซอร์ สายแต่งบ้านแน่นอน ไม่ใช่แค่ชาวเกาหลี แต่ที่ไทยก็กำลังฮอตมาก เห็นได้บ่อยๆ ใน Vlog Home Cafe IG และเห็นทีไรก็อดใจไม่ไหว ทำเอาอยากได้ขึ้นมาทันที

สรุปแล้วเราควรเลือกซื้อเครื่องไหนดี? ระหว่าง LG Stand By Me VS Samsung TV The Serif มวยคู่นี้ถือว่า สูสีกันแบบให้เสมอ ไม่มีใครชนะขาด เพราะทั้ง 2 เครื่องก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว LG Stand By Me น่าจะเหมาะกับ แม่ค้าออนไลน์ ไลฟ์สดปังๆ, นักเรียน นักศึกษา เชฟ, คนที่ต้องการใช้งานแบบเคลื่อนที่บ่อยๆ เพราะมีล้อเลื่อน เคลื่อนย้ายได้สะดวก น้ำหนักไม่เยอะ ยกคนเดียวได้สบาย ปรับได้ทั้งจอแนวตั้งและแนวนอน ส่วน Samsung TV The Serif ก็เน้นเป็นของแต่งบ้านสวยจนไม่ต้องเปิดดูก็ยังคุ้ม ฮ่าๆ ตอนนี้น่าจะเป็นทีวีที่บล็อกเกอร์ชื่อดังต้องมีตั้งไว้ในห้องเป็นฉากสำหรับทำคอนเทนต์ ส่วนเรื่องภาพและเสียงก็ปังหายห่วง เหมาะกับสายแต่งห้องจริงๆ จะมีก็แต่เรื่องการเคลื่อนย้าย ก็นับว่าแพ้ LG Stand By Me นิดหน่อย เพราะจอใหญ่กว่าน้ำหนักเยอะกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเคลื่อนย้ายง่ายกว่าทีวีทั่วไปนะ ส่วนราคาค่าตัวทั้ง 2 เครื่องเปิดตัวมาด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 30,000 กว่าบาท นับว่า เอื้อมถึงได้ไม่ยากนัก แล้วทุกคนล่ะคะ ชอบตัวไหนมากกว่ากัน?    

---

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.lge.co.kr และ www.samsung.com

---