"The Bangkok Thonglor" คอนโดหรูพร้อมอยู่จาก LH : THE BEST RESIDENCE IN CLASS
ในวงการคอนโดบ้านเรา ถ้าพูดถึงแบรนด์หรูๆ ที่สร้างชื่อเสียงสะสมมาหลายปีของ Developer ที่เชื่อถือได้ คงมีอยู่ไม่กี่แบรนด์ ซึ่ง 1 ในนั้นน่าจะต้องมีชื่อ "The Bangkok" ของ LH ซึ่งมีโครงการ Highlight ต่อเนื่องมาหลายโครงการ (ตามรูปข้างล่าง) และหลายๆ คนชื่นชมในความเนี้ยบของงาน ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการอยู่อาศัย ถึงแม้จะเป็นแบรนด์ที่หรู และมาพร้อมกับราคาที่แพง แต่ก็มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ "The Best in Life" ซึ่งเน้น "มูลค่า" มากกว่า "ราคา" ล่าสุดคอนโดแบรนด์นี้สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วอีก 1 โครงการ คือ
"The Bangkok Thonglor" เป็นคอนโดที่เรียกได้ว่าเป็นคอนโดทองหล่อฝั่งสุขุมวิทจริงๆ (ไม่ใช่ค่อนไปทางเพชรบุรี) เรามาดูกันค่ะว่าโครงการนี้ มีอะไรดีถึงได้ราคาสูง แต่แน่นอนว่ามาพร้อมกับ "คุณภาพชีวิต" ที่ดี และ "มูลค่า" ที่จะสูงคุ้มค่ากว่าราคาที่จ่ายในตอนแรก
1. ที่จอดรถมากถึง 120% พร้อม "Automatic Parking"
เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยด้วยระบบจอดรถอัตโนมัติแบบ Automatic Parking จำนวน 2 ช่องจอด รองรับที่จอดรถได้มากถึง 120% เมื่อเทียบกับจำนวนห้องพักอาศัยที่มีเพียง 148 ยูนิต ช่วยประหยัดเวลาในการวนหาที่จอด พร้อมความทันสมัยรองรับอนาคตกับจุดสำหรับ EV Charger 3 จุด อำนวยความสะดวกให้กับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
จากทางเข้าหน้าโครงการขับตรงเข้ามาจะเจอทางขึ้นลิฟต์สำหรับจอดรถแบบ Automatic Parking อยู่ทางซ้าย
มีลิฟต์จอดรถระบบ Auto Parking มาให้ 2 ตัว โดยรถจะลงจอดชั้นใต้ดิน 5 ชั้น และชั้นบนอีก 3 ชั้น
มุมสำหรับ EV Charger ติดตั้งไว้ด้านข้างของอาคาร ใกล้กับลิฟต์จอดรถ
2. ทุกยูนิต "หรูหรา" และ "โปร่งโล่ง" กับ Floor to Ceiling สูง 2.95 เมตร และกระจกเต็มบาน
ห้องพักอาศัยทุกยูนิตเป็นห้องหน้ากว้าง ออกแบบให้ Floor to Ceiling มีความสูงมากถึง 2.95 เมตร ที่ประตูระเบียง หน้าต่างรวมไปถึงประตูบานเลื่อนภายในห้อง ทั้งหมดออกแบบให้เป็นกระจกแบบเต็มบาน สูงจากพื้นจรดฝ้า ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด เปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ วัสดุที่เลือกมาใช้ภายในห้องล้วนแต่เป็นของคุณภาพระดับพรีเมียม
ห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ เป็นห้องหน้ากว้าง Floor to Ceiling มีความสูงเป็นพิเศษ มากถึง 2.95 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง
ทุกห้องได้กระจกบานใหญ่แบบเต็มบานสูงจากพื้นถึงฝ้า
รวมไปถึงประตูห้องครัวก็ออกแบบเป็นประตูกระจกบานเต็ม สูงจากพื้นถึงฝ้าเช่นกัน
3. ระเบียงสองชั้น "เพิ่มความปลอดภัย" และใช้เป็น "พื้นที่ขยายเพิ่มเติมได้"
ระเบียงแบบ Double Skin Balcony (ระเบียงสองชั้น) เพิ่มความปลอดภัยในการอยู่อาศัย เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านข้าง ปิดด้วยประตูมิดชิดเป็นสัดส่วน สามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้อย่างเต็มที่ จะจัดวางเป็นโต๊ะกาแฟเล็กๆ สักตัว นั่งจิบกาแฟ เปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติเย็นๆ จากมุมนี้ก็ได้ นอกจากนี้ม่านของที่นี่ทางโครงการก็จัดให้ลูกบ้านฟรี และให้แบบไม่ธรรมดาด้วยเพราะเป็นม่าน 2 ชั้น
ตัวอย่างตำแหน่งระเบียงแบบ Double Skin Balcony หรือระเบียงสองชั้น
จะอยู่ที่บริเวณโซนห้องนั่งเล่น
ระเบียง 2 ชั้นด้านในเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ชั้นนอกออกแบบเป็นหน้าต่างบาน Fixed
และด้านบนเป็นบานเฟี้ยมเปิดรับลมธรรมชาติได้
ได้ม่าน 2 ชั้น ทุกห้องไม่ว่าจะเป็นในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น
4. มี "อ่างอาบน้ำ" ออกแบบเฉพาะโดย LH และ "Walk in Closet" ให้ทุกห้อง
มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการนอนแช่ในอ่างอาบน้ำส่วนตัว เพราะได้อ่างอาบน้ำดีไซน์ที่ไม่เหมือนโครงการอื่นๆ และคนที่รักในการแต่งตัว ต้องการพื้นที่ในการเก็บเสื้อผ้า เครื่องประดับ และพร็อพสำหรับแต่งตัวจำนวนมาก โดยทางโครงการ Built-in เป็นโซน Walk in Closet จัดวางอยู่ภายในห้อง Master Bedroom ในทุกยูนิต
Walk in Closet ที่อยู่ภายในห้อง Master Bedroom แบ่งพื้นที่ด้วยกระจกเต็มบาน และได้ความโปร่งโล่ง
ในห้องน้ำ Master Bathroom เลือกใช้กระเบื้องลายหินอ่อนดูหรูหรา
สุขภัณฑ์ที่ได้เป็นของแบรนด์ Kasch
อ่างอาบน้ำโทนสีดำเงางามแบบ Custom Design ที่พิเศษไม่เหมือนใคร
เพราะออกแบบเฉพาะสำหรับโครงการนี้เท่านั้น
5. นวัตกรรม "Air Post" สิทธิพิเศษเฉพาะของ LH พร้อม "Air Flow"
ทุกยูนิตจะมี Air Post ช่องสำหรับรับจดหมายที่หน้าประตูห้อง เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะของ LH ไม่ต้องเดินลงไปหยิบจดหมายให้เหนื่อย ทางนิติบุคคลจะนำมาใส่ไว้ให้ถึงหน้าห้องเลย เปิดหยิบจดหมายได้จากภายในห้อง ที่หน้าประตูมีเลขที่ห้องพร้อมไฟส่องสว่าง มีระบบ Air Flow เป็นช่องลมที่จะช่วยให้อากาศภายในห้องหมุนเวียน และถ่ายเทได้ดีตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้อากาศภายในห้องไม่ร้อน นอกจากนี้ยังมี Video Door Phone และระบบ Home Automation เพิ่มความสะดวกสบายในการเปิดปิดไฟ แอร์ อีกด้วย
ระบบ Air Flow ที่ช่วยให้อากาศภายในห้องไม่ร้อนอบอ้าว เพราะมีการระบายอากาศอยู่ตลอดเวลา
โดยเป็นช่องสำหรับให้ลมที่เข้ามาจากระเบียง พัดผ่านออกทางช่อง Air Flow ข้างประตู
ตำแหน่ง Home Automation, นวัตกรรม Air Post และ นวัตกรรม Air Flow
มี Video Door Phone หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ติดตั้งมาให้อยู่บริเวณโซนห้องนั่งเล่น
6. ดีไซน์อาคาร "Crystal Look" โดดเด่นใจกลางทองหล่อ
รูปแบบการดีไซน์แบบ Timeless Luxury ที่ดูหรูหราสง่างามเหนือการเวลา ตัวอาคารออกแบบเป็นกระจก ภายนอกอาคาร Facade ดีไซน์เป็นเส้นตรงให้เหมือนการเจียระไนผลึกของแท่ง Crystal ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับมงกุฎเพชรอยู่บนยอดเปรียบเสมือนเป็น Crown Jewels ของอาคาร
ตัวอาคารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์บนถนนทองหล่อ
บนยอดอาคารออกแบบให้เป็นเสมือน Crown Jewels ของอาคาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Sky Facilities
7. "Reading Lounge" และ "Sky Fitness" พร้อม Panoramic view ใจกลางทองหล่อ
ดีต่อใจไปกับส่วนกลางที่ออกแบบเป็น Triple Floor Sky Facilities ยกสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ที่ 3 ชั้นบนสุดของอาคาร ให้ลูกบ้านขึ้นมาพักผ่อนอ่านหนังสือในวันหยุด หรือออกกำลังกายพร้อมชมวิวแบบ Panoramic ของซอยทองหล่อบนนี้ได้ โดยเริ่มต้นจากชั้น 28 ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้อง Reading Lounge และ Sky Fitness
บรรยากาศภายในห้อง Sky Reading Lounge บนชั้น 28
ออกแบบให้เป็นห้องเพดานสูงโปร่ง ตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ ม่านสามารถสั่งงานเปิดปิดได้ด้วยระบบ Auto
ใกล้ๆ กับห้อง Sky Reading Lounge จะเป็นส่วนของห้อง Fitness ที่ห้องนี้ก็ได้วิวสวยไม่แพ้กัน
8. Sky Onsen แยกชาย-หญิง แช่น้ำร้อนได้ทั้ง "สุขภาพ" และ "ผ่อนคลาย" ในทุกๆ วัน
เพื่อให้สมกับการเน้น Quality of Life ให้ลูกบ้าน ที่นี่เค้าจัดให้มี Sky Onsen สไตล์ญี่ปุ่นมาตั้งไว้อยู่บนชั้น 29 แยกชาย-หญิง เพื่อความเป็นส่วนตัว มาพร้อมเทคโนโลยีแบบเดียวกับที่ใช้กันในญี่ปุ่นเลย นอนแช่ตัวเพลินๆ ในวันพักผ่อนได้ โดยระดับความสวยงามของ Onsen ที่นี่ดูดี และสวยไม่แพ้ Onsen ตาม Spa ดีๆ ในเมืองไทยเลย
ออกจากลิฟต์ก่อนจะเข้าไปห้อง Onsen จะเจอกับโถงต้อนรับสไตล์ญี่ปุ่น
มีห้อง Onsen แยกชาย-หญิง เพื่อความเป็นส่วนตัว
มีมุมที่ตกแต่งเป็นส่วนหินสีขาว ให้มานั่งเล่นชมวิวตรงจุดนี้ได้
บรรยากาศภายในห้อง Onsen ตกแต่งด้วยกระจกบานเต็ม สามารถแช่ตัวพร้อมกับเทควิวเมืองได้อย่างเต็มที่
ภายในห้อง Onsen มีห้องอาบน้ำในสไตล์ญี่ปุ่น สำหรับให้ล่างตัวก่อนลงแช่ Onsen อีกด้วย
9. "สระว่ายน้ำ" ว่ายได้ 360 องศาแบบจริงๆ บน Rooftop
มุมที่สวยที่สุดอีกจุดของโครงการนี้ก็ต้องที่นี่เลย สระว่ายแบบ 360 องศา บนชั้น 31 เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือและควบคุมอุณหภูมิ ยาวประมาณ 22.5 เมตร ที่สามารถว่ายได้ 360 องศารอบชั้นจริงๆ ไม่ว่าจะขึ้นมาเทควิวเมือง หรือจะว่ายน้ำ นอนนับดาวสวยๆ บนนี้ก็น่าจะชิลไม่ใช่น้อย
สระว่ายน้ำบนชั้น 31 แบบ 360 องศา เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือและควบคุมอุณหภูมิ ยาวประมาณ 22.5 เมตร
และ shallow pool ลึก 0.60 ม.
สามารถว่ายได้รอบอาคาร พร้อมชมวิว Panoramic บนยอดตึก
มุมนี้ออกแบบเป็น Pool deck จัดวางเตียง Daybed และโต๊ะสำหรับนั่งเล่นไว้ให้
มุมนี้ก็ดีเหมือนได้นอนลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ
และนี่เป็นวิวอีกฝั่งของอาคาร ที่ต้องบอกว่าวิวบนชั้นนี้ไม่ว่าจะนั่งมองจากมุมไหนก็สวยงามจริงๆ
10. ใกล้ชิดธรรมชาติได้มากขึ้นกับพื้นที่สีเขียว 3 ชั้น พร้อม Green Quarter Garden
นอกจากนี้ภายในโครงการยังดึงธรรมชาติมาจัดวางไว้ในโครงการ ด้วยการจัดพื้นที่สวนสีเขียวมาให้มากถึง 3 จุดด้วยกัน อาทิ Green Quarter Garden ด้านหลังของอาคาร บริเวณชั้น 1 มีมุมนั่งเล่นพักผ่อน พร้อมกำแพงน้ำตก เหมือนได้นั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ, มุมนั่งชมวิวสวยๆ บนชั้น 22 และสวนบนชั้น 28 ก็จะได้ความสดชื่น พร้อมกับวิวประมาณนี้
Green Quarter พื้นที่สวนสีเขียวบนชั้น Ground ที่ออกแบบมาเหมือนได้บรรยากาศเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว
พร้อมกำแพงน้ำตก เหมือนได้นั่งพักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
Sky Terrace พื้นที่สีเขียวจัดเป็นมุมไว้สำหรับให้ขึ้นมานั่งเล่นรับลมบนชั้น 22
Upper Sky Terrace บนชั้น 28 ที่เชื่อมต่อกับห้อง Fitness และ Reading Lounge
ซอยทองหล่อ หรือถนนสุขุมวิท 55 นับเป็น Ultimate Prime Location อันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เป็นถนนเส้นใหญ่ที่มีความกว้างถึง 25 เมตร ทอดยาวตั้งแต่ ถนนสุขุมวิท จนไปบรรจบกับถนนเพชรบุรี ด้วยศักยภาพทำเลที่เดินทางสะดวก สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ ก็มีซอยลัดไปยังถนนเพชรบุรีและสุขุมวิทได้หลายซอย หรือจะใช้รถไฟฟ้าก็มี BTS สถานีทองหล่อ ที่ฝั่งถนนสุขุมวิทบริเวณปากซอยทองหล่อ โดยโครงการ The Bangkok ทองหล่อ ตั้งอยู่ในช่วงทองหล่อตอนต้น บริเวณหัวมุมซอยทองหล่อ 1 บรรยากาศโดยรวมของโซนทองหล่อตอนต้นค่อนข้างเงียบสงบ ไม่พลุกพล่านเท่ากับโซนทองหล่อตอนกลาง จึงเหมาะกับการพักอาศัย และยังใกล้สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อเพียง 350 เมตร อยู่ในระยะที่เดินได้สบายๆ แป๊บเดียวก็ถึงตัวโครงการ
ที่ตั้งโครงการ The Bangkok Thonglor
(พิกัด 13.726839, 100.580072)
จากรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวสถานีทองหล่อ
เดินเข้าซอยมา 2 ฝั่งถนนภายในซอยทองหล่อเต็มไปด้วยร้านค้าริมทาง
ร้านอาหารญี่ปุ่นบรรยากาศสุดชิค
เดินมาอีกนิดจะผ่านโรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ โรงแรมระดับ 5 ดาว สุดหรูในซอยทองหล่อ
(ขอบคุณภาพจาก
www.nikkobangkok.com)
บรรยากาศด้านหน้าโครงการ The Bangkok ทองหล่อ
ซอยทองหล่อยังมีความพิเศษกว่าทำเลอื่นๆ เพราะเป็นศูนย์รวม Lifestyle ของคนเมือง เต็มไปด้วย โรงเรียน, โรงพยาบาล, ร้านค้า, ร้านอาหาร, คาเฟ่ แหล่งแฮงเอาท์มากมาย และศูนย์การค้าชั้นนำอย่าง "The Em District" เรียกว่าเป็นซอยที่ครบเครื่องตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งโซนนี้มีความต้องการที่อยู่อาศัยค่อนข้างมาก แต่ที่ดินริมถนนใหญ่ทองหล่อสำหรับพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยนั้นหายากมาก จึงทำให้โครงการบริเวณนี้มีความ Rare ขึ้นเรื่อยๆ
เอท ทองหล่อ บริเวณซอยทองหล่อ 8
ดองกิ มอลล์ ที่อยู่ใกล้กับซอยทองหล่อ 10
เจ อเวนิว แหล่งช้อปปิ้งที่อยู่ใกล้กับทองหล่อซอย 15
ร้านอาหารญี่ปุ่นอีกร้านที่ควรไปลองทาน Hiroshima Pizza ซ่อนตัวอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 49
แต่สามารถเดินลัดเลาะจากซอยทองหล่อ 13 มาได้
ร้าน Patisserie Rosie ร้านขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส ในซอยทองหล่อ10
ขอบคุณภาพจาก
https://pantip.com/topic/36915639 โรงพยาบาลคามิลเลียน อยู่เยื้องๆ กับซอยทองหล่อ 20
โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ภายในซอยสุขุมวิท 49 ก็อยู่ไม่ไกลจากซอยทองหล่อ
โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ริมถนนสุขุมวิท ก็อยู่ไม่ไกลจากซอยทองหล่อมากนัก
THE BANGKOK ทองหล่อ เตรียมจัดงาน Open House เปิดให้ชมห้องจริง วิวจริง ครั้งแรก สัมผัสความเหนือระดับคอนโดฯ Hi-End ในวันที่ 26-27 ต.ค. นี้ พิเศษ เฉพาะผู้ลงทะเบียนนัดหมายรับสิทธิพิเศษสูงสุด* เริ่ม 27.5 ล้าน
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1198 หรือ
www.lh.co.th