รีวิว The Origin รัชดา-ลาดพร้าว ใกล้ Interchange รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีน้ำเงิน เริ่ม 2.29 ล้านบาท*

มาถึงคิว The Origin ทำเลที่ 2 กันแล้ว นั่นก็คือ ดิ ออริจิ้น รัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งเปิดตัวพร้อมกันกับ ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15 ทำเลใกล้ๆ กัน แต่ว่าวันนี้ขอรีวิวตัว รัชดา-ลาดพร้าว ก่อนนะคะ โครงการอยู่ในทำเล Interchange รถไฟฟ้าสีเหลือง สถานีรัชดาภิเษก (25 เมตร) และสายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว (450 เมตร) ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยรุ่นใหม่ด้วยระบบ Home Automation ควบคุมระบบไฟฟ้า จาก Application Origin Connect รวมถึง Digital Door Lock เพิ่มความปลอดภัย และยังให้ Smart Mirror (1 Bedroom+ ขึ้นไป) พร้อมบริการทำความสะอาดฟรี 1 ปี (เดือนละ 1 ครั้ง) อีกด้วย เรียกได้ว่าถูกใจวัยรุ่น แถมราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท* เท่านั้น พร้อมแล้วไปชมรายละเอียดกันเลยค่ะ

เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ : ซอยลาดพร้าว 23 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
อาคารชุดพักอาศัยสูง : 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร และอาคารจอดรถแบบ Auto Parking 1 อาคาร
จำนวนห้องพักอาศัย : 208 ยูนิต และ ร้านค้า 1 ยูนิต
ขนาดที่ดินทั้งโครงการ : 1-3-28.25 ไร่
ห้องชุดพักอาศัย : มี 4 รูปแบบหลักๆ ได้แก่

• 1 Bedroom 24.5 - 33 ตร.ม.
• 1 Bedroom (Smart Walk in Closet) 26.5 - 27.5 ตร.ม.
• 1 Bedroom PLUS 32 - 36 ตร.ม. 
• 2 Bedroom  50 - 54.5 ตร.ม.

วันที่เข้าเยี่ยมชม - รีวิวคอนโด : 25 กรกฎาคม 2562

ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 23 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 เป็นทำเลใจกลางรัชดา-ลาดพร้าว ติดรถไฟฟ้าสถานี Interchange สายสีเหลือง สถานีรัชดาภิเษก 25 เมตร และสายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว 450 เมตร ซึ่งสายสีเหลืองนั้นคาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการในปี 2564 ส่วนสถานีลาดพร้าวนั้นเปิดให้ใช้งานแล้วและมีอาคารจอดแล้วจรที่สถานีนี้อีกด้วย

(พิกัด : 13.807435, 100.576189)

การเดินทางเข้าโครงการ (จากอ่อนนุช)

การเดินทางเข้าโครงการ (จากรังสิต)

การเดินทางออกจากโครงการ (ไปบางนา)

การเดินทางออกจากโครงการ (ไปบางกะปิ)

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า

• รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว

โครงการอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกที่สุดในย่านรัชดา-ลาดพร้าว เพราะในปัจจุบันอยู่ใกล้กับ MRT สถานีลาดพร้าวเพียง 450 เมตร จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินออกจากซอยลาดพร้าว 23 ที่หน้าปากซอยมีสะพานลอย เดินข้ามไปอีกฝั่งก็ถึงสถานีลาดพร้าวแล้วค่ะ

• รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีรัชดา

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีรัชดาภิเษก อยู่ตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการเลยค่ะ วัดแล้วก็ราวๆ 25 เมตรเท่านั้น ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองคาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการในปี 2564 ซึ่งอีก 2 ปีเท่านั้น

เริ่มมาตั้งแต่ปี 2503 หมอชิต (เก่า) ถือกำเนิดขึ้นเป็นสถานีขนส่งที่สำคัญของกรุงเทพฯ ถัดมาปี 2526 ย่านนี้ก็มีห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่คือ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ปี 2547 รถไฟฟ้าใต้ดินก็เข้ามา ทำให้การเดินทางเข้ามาในย่านรัชดา-ลาดพร้าวสะดวกมากขึ้น และปีนี้ 2562 รถไฟฟ้าสายสีเหลืองก็กำลังก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 เราได้เห็นการเติบโตของย่านนี้อย่างต่อเนื่อง และคงมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปอีกเรื่อยๆ เพราะยังมี Mega Project อีกหลายโครงการที่จะเกิดขึ้นในย่านพหลโยธิน-ลาดพร้าว รวมถึงตลาดคอนโดมิเนียมสำหรับชาวต่างชาติตามแนว MRT สายสีน้ำเงินก็ยังคึกคักและเติบโตเรื่อยๆ

ปัจจุบันรัชดา-ลาดพร้าวเป็นจุดที่เดินทางสะดวก มีห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก เดอะสตรีท รัชดา ส่วนสถานศึกษาก็มีโรงเรียนหอวัง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ รัชดาฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และอาคารสำนักงานก็มีอยู่ในแถบถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน และถนนรัชดาภิเษก-พระราม 9 เป็นต้น

โครงการตั้งอยู่ในเขตชุมชนโดยรอบจะเป็นบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์

อยู่ใกล้กับสถานีรัชดา 25 เมตร สถานีลาดพร้าว 450 เมตร

Sales Gallery ตั้งอยู่บริเวณริมถนนรัชดาภิเษก ด้านหลังทะลุไปซอยลาดพร้าว 23 ไปที่ตั้งโครงการได้

ด้านบนเป็นสะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว

เดี๋ยวเราจะพาไปชมที่ตั้งโครงการกันค่ะ

มุมนี้เป็นถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าไปรัชโยธิน

บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว จะมีทางขึ้น-ลงสะพานลอยอยู่ทุกมุม

สามารถข้ามสะพานลอยจากปากซอยลาดพร้าว 23 มาขึ้น MRT ลาดพร้าวจุดนี้ได้ ระยะเดินประมาณ 450 เมตรค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นสวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาฯ

ย้อนกลับมาที่ซอยลาดพร้าว 23

ในซอยเป็นถนน 2 ช่องทางรถสวนกันได้

เข้าไปในซอยอีกนิดซ้ายมือเป็นพื้นที่ของ MRT ขวามือเป็นพื้นที่เปล่า

บรรยากาศในซอยไม่พลุกพล่านมากค่ะ แต่ก็ไม่ได้เงียบมีร้านค้าอยู่เป็นระยะๆ

อาคารพาณิชย์ตรงนี้จะถูกทุบ 3 คูหา เพื่อใช้เป็นทางเข้าออกของโครงการ

พื้นที่โครงการ

พื้นที่โครงการ

ดิ ออริจิ้น รัชดา-ลาดพร้าว โครงการนี้เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 208 ยูนิต + 1 ร้านค้า ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-3-28.25 ไร่ ในซอยลาดพร้าว 23 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 พื้นที่จอดรถสามารถจอดได้ 61% มีทั้งการจอดแบบปกติที่ชั้น G และแบบ Auto Parking ที่บริเวณข้างๆ อาคาร

ส่วนกลางของโครงการ THE ORIGIN Ratchada-Ladprao โดยการออกแบบได้นำแรงบันดาลใจในการออกแบบรูปลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบ Classic Heritage มาใช้ทั้งรูปแบบสัดส่วน วัสดุ และสี ใช้เสน่ห์จากวัสดุสีโทนน้ำตาลและขาวครีม ตัดกับเส้นอะลูมิเนียมสี Antique Copper เพิ่มความหรูหราให้กับงานสถาปัตยกรรมสไตล์นี้ เน้นส่วนพื้นที่พิเศษบริเวณสระว่ายน้ำที่รับสายตาจากทางเข้าโครงการด้วยระแนงเส้นตั้งของอะลูมิเนียมสี Antique Copper และแนวพุ่มไม้ ดูสง่างาม และน่าค้นหา สะท้อนรสนิยมที่มีเอกลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย

ชั้น G

• Visitor Lobby Hall
• Sharing Service
• Mail Box & Smart Locker
• 24 hr. Co-Working Space
• Self Storage

ชั้น 2

• Lounge
• Fitness
• Swimming Pool

ชั้น 3

• Library Space
• Co-Working Space
• Office Supply
• Multi function Studio
• Meeting Room

Parking Building Rooftop

• Rooftop Garden
• Yoga Area

Garden

Visitor Lobby Hall

Co-Working Space

Fitness

Lounge

Swimming Pool

The Origin รัชดา-ลาดพร้าว ขายห้องแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว (เคาน์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน) ชั้นวางทีวี/ชั้นวางของ ตู้เก็บรองเท้า ฐานเตียง 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า ชุดสุขภัณฑ์ของ Hafele และ American Standard เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Daikin รวมถึง Digital door lock และยังให้ระบบ Home Automation สั่งการผ่าน Application ได้ดังนี้ 

• Access Control ปลดล็อกได้ 5 ระบบ คือ กดรหัส, Key Card, สแกนลายนิ้วมือ, กุญแจ และ Bluetooth
• Air Conditioning System ควบคุมการเปิด-ปิด และปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ
• Lighting System ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ (ยกเว้นที่ระเบียง)

นอกจากนั้นยังมีบริการทำความสะอาดแบบมืออาชีพ Cleaning Service ฟรี 1 ปี (เดือนละ 1 ครั้ง) สำหรับลูกบ้านด้วย

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27 ตร.ม. (Smart Walk in Closet)

ห้องแบบ Smart Walk in Closet ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัวแบบปิด มีประตูบานสไลด์กั้นให้ระหว่างโซน Living ค่ะ

สิ่งที่โครงการให้มาคือ เคาน์เตอร์ครัว Top เป็นหินสังเคราะห์ อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันของ Hafele

เคาน์เตอร์ครัวได้แบบนี้เลยค่ะ ชั้นเก็บของด้านบนบานปิดเป็นกระจกสีดำ ส่วนด้านล่างเป็นเมลามีน

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นและ Built-in ตู้เก็บของให้สำหรับวางรองเท้า กุญแจ ฯลฯ

เลื่อนประตูบานเลื่อนกระจกออกก็จะพบกับ โซน Living และกวาดสายตาลึกเข้าไปจะเป็นเตียงนอน
ความสูงจากพื้นจรดฝ้า 2.5 เมตร

ตรงนี้พื้นที่ค่อนข้างลึกดังนั้นจะสามารถวางโซฟาแบบยาวขนาด 4-5 ที่ได้ ส่วนโต๊ะรับประทานอาหารก็ปรับให้เหมาะกับ
คนรุ่นใหม่ที่ไม่เป็นทางการมาก โต๊ะกลางจึงเลือกมาแบบสูงพอดีสำหรับนั่งรับประทานอาหารที่โซฟา

ได้ชั้นวางทีวีตามแบบนี้เลยค่ะ ระยะดูทีวีไม่ได้ไกลมากดังนั้นทีวีที่จะซื้อมาไม่ควรเกิน 50 นิ้ว

พื้นที่ถัดไปเป็นพื้นที่วางเตียงนอน โครงการให้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาด้วย  

กระจกรับแสงบานใหญ่มากตั้งแต่พื้นจรดฝ้าและมีบานกระทุ้งบานเล็กให้สำหรับระบายอากาศค่ะ

มาถึง Highlight ของห้องค่ะ ก็คือ Smart Walk in Closet นั่นเอง ก่อนเข้าโซนนี้จะมีประตูบานสไลด์ให้ด้วย

โครงการ Built-in ให้เต็มพื้นที่เลยค่ะ ตัว Smart Walk in Closet นี้ทั้งตู้เก็บของ เก็บเสื้อผ้า มีช่องเก็บเสื้อผ้าหลายขนาด
มีหมุดสำหรับแขวนหมวกหรือเข็มขัดให้ด้วย

นอกจากนั้นยังมีโต๊ะเครื่องแป้ง ที่มี Beauty Mirror พร้อมไฟ LED รอบกระจก
ช่องปลั๊กที่เตรียมไว้ทุกมุม เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน

ถัดเข้ามาเป็นห้องน้ำ ได้กระจกบานใหญ่แบบนี้เลย พร้อมอ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของให้ด้านล่าง

ก๊อกน้ำของ American Standard โถสุขภัณฑ์ของ Hafele พร้อม Shower box และฝักบัว

การนำกระจกมาติดเป็น Wallpaper ตรงนี้นอกจากจะเอาไว้ส่องแล้วยังทำให้ Walk in Closet ดูกว้างขึ้นด้วย

ก่อนออกไประเบียงจะมีประตูบานเลื่อนกระจกให้ ธรณียกสูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าห้อง

ระเบียงเป็นติดตั้งระบบสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ให้ ด้านบนแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ ห้องนี้ได้แอร์ 1 เครื่องค่ะ

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27 ตร.ม.

เปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอโซน Living มีตู้เก็บของให้ทางขวามือ

แต่งโชว์เป็นโซฟาและโต๊ะกลางแบบสูงสามารถทำงานและรับประทานอาหารได้ด้วย

ระยะดูทีวีเหมาะกับทีวีไม่เกิน 50 นิ้วค่ะ

ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ รับแสงและวิวด้วยกระจกบานใหญ่จรดฝ้า

ภายในห้องจะได้แอร์ 1 เครื่อง ตู้เสื้อผ้า และฐานเตียง 5 ฟุต

ซ้ายมือเป็นห้องครัว ส่วนขวามือเป็นห้องน้ำ ส่วนตรงกลางโครงการ Built-in ไว้เป็นไอเดียนะคะ ไม่ได้ให้มาค่ะ

ห้องครัวกั้นด้วยบานสไลด์ 3 ตอน 

พื้นของครัวจะเป็นแกรนิตโต้ ทนทาน และเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ได้เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน ของ Hafele

ส่วนระเบียงจะติดตั้งระบบสำหรับเครื่องซักผ้าให้ค่ะ

กลับเข้ามาในห้องกันบ้าง เหลือห้องน้ำที่ยังไม่ได้เข้าไปชม

ห้องน้ำมีให้ครบทั้งอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของ โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระ กระจกบานใหญ่ Shower box ฝักบัว
และช่องเก็บของที่ซ่อนลงไปในผนัง

Shower box ไม่แคบค่ะ อาบน้ำได้แบบเต็มที่แขน-ขาไม่ชน

แบบ 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 34 ตร.ม.

ห้องนี้ระยะดูทีวีจะกว้างขึ้นมาอีก ความสูงจากพื้นจรดฝ้าก็ยังคงอยู่ที่ 2.5 เมตร

ซ้ายมือคือชั้นเก็บรองเท้าและเก็บของอื่นๆ ค่ะ บานปิดเป็นกระจกสีดำดูหรูหราทีเดียว

ฝั่งตรงข้ามโซฟาก็จะเป็นที่ตั้งของทีวี ได้ชั้นวางแบบนี้เลย

ห้องครัวจะอยู่โซนหน้าของห้อง แต่มีประตูบานเลื่อนปิดให้

ห้องครัวจะเป็น L Shape เข้ามุม ให้อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันเช่นเคย
ส่วนเครื่องซักผ้าติดตั้งระบบสำหรับฝาหน้าไว้ให้ใต้เคาน์เตอร์ค่ะ

ชั้นเก็บของด้านบนมีถึง 5 ช่อง เก็บของได้เยอะเลย

ห้อง Plus จะเป็นบานสไลด์กั้นให้ 3 ตอน

ภายในห้องจะได้แอร์ 1 เครื่อง และมีระเบียงด้วย

พื้นที่ระเบียงไม่ได้กว้างมากนัก เหมาะสำหรับวางต้นไม้ตกแต่งเล็กๆ หรือจะตากผ้าก็ได้ค่ะ

ถ้าตากผ้าน่าจะแห้งเร็วมากๆ เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์ 3 ตัว แขวนไว้ตรงนี้เวลาเปิดแอร์ ลมเป่าผ้าแห้งไวไม่เหม็นอับแน่นอน

ห้องน้ำของห้องนี้มี 1 ห้องค่ะ แต่เข้าได้ 2 ทาง คือ จากทางห้องนอนและห้องนั่งเล่น

พื้นของห้องน้ำเป็นพื้นกระเบื้อง โถสุขภัณฑ์ของ Hafele

ห้องขนาด 1 Bedroom Plus ขึ้นไปจะได้ Smart Mirror ด้วย หลักการทำงานเหมือนกับ Tablet ทุกอย่าง
แต่ฝังไว้ในกระจกทำให้เราสามารถฟังเพลง ดูรายการออนไลน์ เช็คข่าว ทุกอย่างได้ในห้องน้ำ

ทางเข้า-ออกห้องนอนจะเป็นประตูบานเปิดนะคะ 

ภายในห้องนอนจะได้แอร์ 1 เครื่อง ฐานเตียง 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าค่ะ

หน้าต่างยังคงเป็นกระจกบาน Fixed บานใหญ่ และมีบานกระทุ้งให้ 1 บาน

ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณ 110,000 บาท/ตารางเมตร

เปิดจองครั้งแรก 31 ส.ค. นี้ พร้อมรับ Gift Voucher ใช้เป็นส่วนลดสูงสุด 300,000 .- *

สำหรับเข้าจองในงาน! ได้แล้ววันนี้ที่สำนักงานขาย https://bit.ly/2SCZrNm

(คลิกเพื่อลงทะเบียน)