ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) เป็นโครงการแรกของแบรนด์
The Origin ที่เปิดขายจาก 6 ทำเล โดยโครงการนี้อยู่ในทำเลรามคำแหง 209 - มีนบุรี ใกล้กับรถไฟฟ้า Interchange สายสีชมพูและสีส้ม สถานีมีนบุรี พร้อมกับ
ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท มอบส่วนกลางให้ 19 อย่าง! ให้มากที่สุดและอาคารยังสูงที่สุดในย่านมีนบุรีอีกด้วย ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้มารีวิวคอนโดแห่งแรกในย่านนี้ พร้อมดูห้องตัวอย่างที่ให้ Smart Product เทียบเท่ากับคอนโด Luxury เรียกได้ว่าว้าวแล้ว ว้าวอีก กับราคาที่เอื้อมถึง ทำเลติดรถไฟ้า ส่วนกลางเยอะมาก และยังให้ Home Automation ล้ำๆ อีก พร้อมแล้วไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
VIDEO
เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งโครงการ : ซอยรามคำแหง 209 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510 อาคารชุดพักอาศัยสูง : 31 ชั้น จำนวน 1 อาคาร และอาคารจอดรถ 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้องพักอาศัย : 1,007 ยูนิต และ ร้านค้า 4 ยูนิต ขนาดที่ดินทั้งโครงการ : 4-0-87 ไร่ ลิฟต์ : ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว ส่วนที่อาคารจอดรถลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ห้องชุดพักอาศัย : มี 4 รูปแบบ ได้แก่ Studio 22 ตร.ม. 1 bedroom 25 ตร.ม. 1 bedroom plus 30 ตร.ม. 1 bedroom plus corner 34 ตร.ม. วันที่เข้าเยี่ยมชม - รีวิวคอนโด : 6 มิ.ย. 62 โครงการ
ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) ถือเป็นโครงการเบิกฤกษ์โครงการแรกจาก แบรนด์น้องใหม่
"The Origin" 6 โครงการ 6 ทําเล ที่ใช้ "กลยุทธ์ทะเลสีคราม" ลง มาจับ ตลาดกลุ่ม First jobber เน้น Local Demand เป็นหลัก ซึ่ง Origin เคยประสบความสําเร็จ ด้วยกลยุทธ์เดียวกันนี้มาแล้วจากทําเล "เทพารักษ์" อินเตอร์เชนจ์สายสีเขียวและสายสีเหลือง
ตัวโครงการตั้งอยู่ในทําเล "NEW EBD" (Extension Business District) ทําเลส่วนต่อขยายจุดตัดรถไฟฟ้าในอนาคต ที่มีศักยภาพการเติบโต เชื่อมต่อความเจริญจากพื้นที่ใจกลางเมืองออกไป ด้วยโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อย่างถนนหรือรถไฟฟ้า
และสิ่งที่ทําให้ทําเลนี้น่าสนใจมากขึ้นไปอีก คือจะกลายเป็น Interchange เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีส้ม ซึ่งสายสีชมพูจะสร้างเสร็จประมาณปี 2564 พร้อมกันกับ โครงการนี้เลย ถือว่าได้อยู่โครงการและได้ใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูพร้อมๆ กันเลยทีเดียว นอกจากนั้นทำเลใกล้กับโครงการจะถูกสร้างให้เป็น อาคารจอดแล้วจร จุดจอดรถ 3,000 คันอีกด้วย โดยสถานีมีนบุรี อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่ใกล้กับโครงการห่างแค่ 80 เมตร
การเดินทางเข้าโครงการ (จากชลบุรี)
การเดินทางเข้าโครงการ (จากรังสิต)
การเดินทางออกจากโครงการ (ไปสนามบินสุวรรณภูมิ)
การเดินทางออกจากโครงการ (ไปเดอะมอลล์ บางกะปิ)
โครงการนี้ถือว่าตั้งอยู่ในจุดที่ดีในอนาคต ดูตอนนี้อาจจะมองว่าไกลไปมั้ย แต่จริงๆ แล้วเป็นทำเลที่จะกลายเป็น "NEW EBD" Extension Business District ขยายความเจริญ จากพื้นที่ใจกลางเมือง ด้วยรถไฟฟ้าซึ่งเป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ อีกหลายสาย จุดสำคัญที่สุดคือ เชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีส้มที่ สถานีมีนบุรี ซึ่งโครงการตั้งอยู่ใกล้กับสถานีนี้แค่ 80 เมตร ระยะเดินถึงได้ง่ายๆ รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีแผนจะสร้างเสร็จในปี 2564 ในขณะที่โครงการก็จะสร้างเสร็จในปีเดียวกัน การเดินทางไปเข้าเมืองหรือไปศูนย์ราชการก็สามารถเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูได้ หรือถ้าจะเดินทางไปใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ก็ใช้รถไฟฟ้าสายสีส้มไปเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินสถานีศูนย์วัฒนธรรมได้
โครงการนี้ถือว่าตั้งอยู่ในทำเลที่อุดมสมบูรณ์ทีเดียว "มีนบุรี" จะไม่ไกลอีกต่อไป เพราะนอกจากจะเป็นทำเล Interchange รถไฟฟ้าในอนาคตแล้ว ก็ยังเป็นทำเลศูนย์การค้า ทั้ง Big C, Tesco Lotus, Homepro, ไทวัสดุ, Avenue ต่างๆ อย่าง Amorini หรือ Promenade ก็มีให้เลือกหลากหลายมาก แถมยูนิโคล่ยังมาเปิดสาขาใหญ่ที่มีนบุรีอีกด้วย ด้านสถานศึกษา ก็มีมหาวิทยาลัย โรงเรียนชั้นนำ โรงเรียนนานาชาติ หรือโรงเรียนอินเตอร์กระจายตัวอยู่เยอะมาก เช่น รร.สารสาสน์วิเทศ, Interkid Bilingual School, รร.ร่วมฤดีวิเทศศึกษา (RIS), Heathfield International School, ม.เกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า เป็นต้น ด้านโรงพยาบาล ก็มี รพ. เสรีรักษ์, รพ.นวมินทร์ 9, รพ.นพรัตนราชธานี, รพ. สินแพทย์ และ รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร เยอะแบบเยอะมาก ทั้งในห้าง ทั้งร้านอาหารแบบไปทานกันเป็นครอบครัว กระจายตัวอยู่รอบๆ โครงการ
ไทวัสดุตั้งอยู่เยื้องๆ กับโครงการ ระยะห่างจากโครงการประมาณ 250 เมตร
ถ้าเดินเลยจากไทวัสดุไปอีกหน่อย ก็จะเจอ BigC ร่มเกล้า ระยะห่างจากโครงการประมาณ 550 เมตร
Promenade Avenue ระยะห่างจากโครงการประมาณ 8 กิโลเมตร
แฟชั่นไอส์แลนด์ ระยะห่างจากโครงการประมาณ 7 กิโลเมตร
ยูนิโคล่ มีนบุรี ระยะห่างจากโครงการประมาณ 2.6 กิโลเมตร
รพ.เสรีรักษ์ ระยะห่างจากโครงการประมาณ 3 กิโลเมตร
มาดูบรรยากาศหน้าโครงการกันบ้าง
โครงการตั้งอยู่ติดถนนรามคำแหง 209 มีสะพานลอยอยู่ตรงหน้าโครงการเลยค่ะ
ถ้ามุ่งหน้าไปอีกนิดเดียว จะมีร้านอาหารชมนาตั้งอยู่ ถ้าเป็นช่วงลงนาปลูกข้าว ร้านบรรยากาศดีเลยค่ะ
มุ่งหน้าต่อประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงแยกรามคำแหง-ร่มเกล้า
จากจุดนี้ไปรพ.นวมินทร์ 9 ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรค่ะ
มาลองข้ามสะพานลอยจากหน้าโครงการไปดูอีกฝั่งกันบ้าง
เดินลงมาถึงฝั่งตรงข้ามก็เจอป้ายร้านอาหารชื่อร้าน ละมุนลิ้น คงต้องเข้าไปลองกันหน่อย
ร้านนี้เป็นร้านอาหารใต้สูตรเด็ด รสชาติดีมากๆ อร่อยทุกอย่างเลย
ในภาพคือ ขนมจีนน้ำยาปู ชุดละ 370.- ขนมจีนน้ำยาปลาทูขาไก่ ชุดละ 160.-
อร่อยเด็ดทุกเมนูจริงๆ ไข่เจียวสะตอน้ำพริกกะปิ คือดีมากๆ ใช้วัตถุดิบอย่างดี เจ้าของร้านบอกว่าคัดเองทุกอย่าง
เมนูอื่นๆ ที่ได้ชิม ก็มีไก่ต้มขมิ้น หมูฮ้อง บอกเลยว่ารสชาติอาหารใต้แท้ๆ เลย ผัดกะปิสะตอกุ้ง นี่แบบว่าหมดจานก่อนใครเลย
ใครที่ผ่านมาก็แวะไปได้นะคะ ร้านละมุนลิ้น เจ้าของร้านชื่อพี่ปุ้ย น่ารักใจดี มีบริการส่งถึงบ้านด้วย
ร้านมีที่จอดรถด้วย บริเวณกว้างดีจริงๆ ขออนุญาตอิจฉาคนที่จะมาอยู่ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ ไว้ก่อน
จะได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวันเลยทีนี้
รูปแบบตึก และตัวโครงการโดยรวม
ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) เป็น The Origin โครงการแรกที่เปิดขาย จาก 6 ทำเล โครงการนี้เป็นอาคารสูง 31 ชั้น ซึ่งโครงการสูงที่สุดในย่านมีนบุรี สูงถึง 109 เมตร จำนวน 1 อาคาร 1,007 ยูนิต + 4 ร้านค้า ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 4-0-87 ไร่ บนถนนรามคำแหง 209 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510 โดดเด่นด้วยพื้นที่สีเขียวที่มีขนาดใหญ่ถึง 3,000 ตร.ม. และเป็นที่แรกในย่านมีนบุรีที่มี Over Top Facilities
ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) เป็นโครงการแรกในย่านมีนบุรีที่มี
ส่วนกลางถึง 19 อย่าง ไม่ใช่เพียงแต่มากที่สุดในย่านนี้ แต่ยังมากและจัดเต็มเมื่อเทียบกับโครงการอื่นในระดับราคา 1.29 ล้านบาท อีกทั้งยังมีสวนอยู่บนอาคารที่สูงที่สุดอีกด้วย เรียกได้ว่า Origin ได้นำเอาความล้ำสมัย ความสะดวกสบาย ความหรูหราที่ราคาจับต้องได้เข้ามาในย่านมีนบุรีเป็นเจ้าแรก ที่จอดรถสามารถจอดได้ 33% ไม่รวมซ้อนคัน
ชั้น G
Double Volume Lobby Meeting Room Co-Working Space Mail Room+Smart Locker Laundry Room Sharing Service ชั้น 27
Co-kitchen Private Dining Room Co-Passion Room Game Room Multi Function Studio Sky Lounge Fitness Swimming Pool Rooftop
Rooftop Parking Building
Jogging Track View Point Sky Garden Street Basketball สวนบริเวณด้านหลังโครงการ
ทางเชื่อมจากอาคารจอดรถสู่อาคารพักอาศัย
สระว่ายน้ำที่ชั้น 27
สระว่ายน้ำที่ชั้น 27 วิวดีที่สุดในมีนบุรี สวนบนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ
ภาพห้องตัวอย่างและ Lay out
The Origin Ram 209 Interchange ขายห้องแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว (เคาท์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน) ชั้นวางทีวี/ชั้นวางของ ตู้เก็บรองเท้า ฐานเตียง 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า ชุดสุขภัณฑ์ Cotto และแอร์ยี่ห้อไดกิ้น และยังให้ระบบ Home Automation สั่งการผ่าน Application ได้ดังนี้
Access Control ปลดล็อกได้ 5 ระบบ คือ กดรหัส, Key Card, สแกนลายนิ้วมือ, กุญแจ และ Bluetooth Air Conditioning System ควบคุมการเปิด-ปิด และปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ Lighting System ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ (ยกเว้นที่ระเบียง) นอกจาก Application จะทำได้ข้างต้นที่กล่าวมาแล้วยังสามารถใช้จองพื้นที่ส่วนกลางได้ และยังบริการ On-call Smart Locker ล็อกเกอร์ส่ง-รับพัสดุส่วนตัว มีการแจ้งเตือนเมื่อได้รับของผ่าน Application รวมถึง Cleaning Service บริการทำความสะอาดแบบมืออาชีพอีกด้วย
แบบ Studio ขนาด 22 ตร.ม.
ทุกยูนิตจะมี Digital Door Lock ให้ค่ะ เข้ามาในห้องโซนแรกจะเป็นครัว
มุมนี้ถ่ายให้เห็นมุมจากประตูเข้าห้อง พื้นตรงส่วนครัวจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต
ชุดครัวที่ได้จะมีเคาท์เตอร์รวมถึงชั้นด้านบน เครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า อ่างล้างจานยี่ห้อ Teka
ตรงข้ามกับครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ ซึ่งสุขภัณฑ์เป็นของ Cotto ฝักบัว ก๊อกน้ำ เป็นของ VRH ฝักบัว ก๊อกน้ำ
พร้อม Shower Box กระจกนิรภัย แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้ด้วย
ก่อนเข้าโซนห้องนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นให้แบบนี้ค่ะ
ทำให้เวลาทำอาหารกลิ่นไม่รบกวนด้านในและดูเป็นสัดส่วนดีมาก
เป็นห้องขนาด 22 ตร.ม. ที่ดูกว้างมาก วางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วมีพื้นที่เหลือวางโซฟาได้ถึง 2 มุม
ความสูงจากพื้นจรดฝ้าอยู่ที่ 2.6 เมตร พื้นในห้องนอนเป็นพื้นลามิเนต 8 มม.
ด้วย Layout ที่เป็นแบบลึกทำให้จัดวางพื้นที่ต่างๆ ได้เป็นสัดส่วน และห้องนี้จะได้แอร์ 1 เครื่องค่ะ
มาดูเฟอร์นิเจอร์ Built in ที่โครงการให้มาบ้างค่ะ จะมีชั้นวางทีวีพร้อมตู้โชว์ด้านบน และตู้เสื้อผ้า
เปิดให้ดูด้านในก็จุเสื้อผ้าได้เยอะประมาณหนึ่ง
ระเบียงขนาดน่ารักๆ สามารถตากผ้าได้
มองจากมุมนี้ทำให้เห็นโซนต่างๆ ของห้องค่อนข้างครบ เป็นห้องสตูดิโอ 22 ตร.ม. ที่คุ้มค่าทุกพื้นที่ใช้สอยเลยค่ะ
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตร.ม.
เปิดประตูเข้ามาโซนแรกจะเป็นโซน Living สามาถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่ได้ค่ะ ถัดไปก็เป็นที่ตั้งโต๊ะรับประทานอาหาร
หรืออาจจะซื้อเป็นโซฟาเบดมาก็ได้ค่ะ เพราะมีพื้นที่เหลือตรงระยะดูทีวีค่อนข้างเยอะ
เฟอร์นิเจอร์ Built in ที่โครงการให้มาก็จะมีตัวชั้นวางทีวีและชั้นวางของด้านบน รวมถึงตู้เก็บรองเท้าสูงๆ ที่อยู่ชิดประตูด้วยค่ะ
ห้องนี้จะได้แอร์ 2 เครื่อง 1 เครื่องที่โซน Living และอีก 1 เครื่องที่ห้องนอน
สำหรับห้องน้ำสุขภัณฑ์เป็นของ Cotto มีอ่างล้างหน้า กระจก โถสุขภัณฑ์
ส่วนก๊อกน้ำ ฝักบัว สายฉีดชำระ ยี่ห้อ VRH มี Shower Box ให้ด้วย
ห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน มีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตให้
ตู้เสื้อผ้าก็ให้ด้วยค่ะ Built in ให้สุดเพดาน
ก่อนเข้าครัวจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ ทางโครงการให้มาด้วยแต่ไม่ได้กระจกนะคะ
(โต๊ะอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้าห้องน้ำและครัว) ส่วน
ครัวเป็นครัวปิด กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน บรรยากาศในครัว
ได้ชุดเคาท์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันของ Taka
ครัวของห้องนี้สามารถเปิดประตูบานเลื่อนเพื่อระบายอากาศได้ด้วยเพราะอยู่ติดระเบียง
ระเบียงจะเป็นที่วางเครื่องซักผ้าค่ะ ต่อระบบไว้ให้เรียบร้อย
แบบ 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 30 ตร.ม.
ห้องนี้ Layout คล้ายๆ กับห้อง 1 Bedroom ขนาด 25 ตร.ม. ค่ะ
แต่โซน Living ก็จะกว้างกว่า ดูโปร่งมากกว่า
ระยะดูทีวีค่อนข้างไกล สามารถตั้งทีวีขนาด 42-50 นิ้วได้
ทางโครงการให้ชั้นวางพร้อมชั้นวางของด้านบนด้วยค่ะ พร้อมแอร์ 1 เครื่อง
ติดกันกับชั้นวางทีวีก็จะเป็นตู้เก็บรองเท้าและตู้เก็บของ
จุดนี้จะเป็นที่ตั้งโต๊ะรับประทานอาหารค่ะ โต๊ะและชั้นวางของ Built-in ด้านบนโครงการให้มาด้วยนะคะ โต๊ะสามารถพับเก็บได้ด้วย ข้างๆ เป็นที่วางตู้เย็นที่สะดวกต่อการเปิดใช้มากๆ
ไปดูห้องนอนกันค่ะ
ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน
ห้องนอนจะได้ฐานเตียง 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้า พร้อมแอร์ 1 เครื่อง
เปิดตู้เสื้อผ้าให้ดูว่าจุเสื้อผ้าได้เยอะแค่ไหน
ออกมาจากห้องนอนแล้วมาดูมุมครัวกันค่ะ ครัวจะเป็นครัวเปิด ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้าห้องน้ำและห้อง Plus
ชั้นเก็บของด้านบนอาจจะได้น้อยกว่าห้องอื่นหน่อย แต่ก็ยังได้เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานของ Teka ครบ ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ พิเศษเฉพาะห้อง 1 Bed Plus จะได้ Smart Mirror กระจกที่ระบบสัมผัส
รองรับระบบ Android สามารถฟังเพลง เล่น Internet ในห้องน้ำได้
ตรงข้ามกันเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน
ห้องไม่ได้กว้างมากนัก แต่มีแอร์ให้ 1 เครื่องค่ะ เหมาะสำหรับเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ
ห้องนี้จะมีระเบียงพร้อมรั้วกันตกสีดำ
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ
29 มิ.ย. นี้ เปิดจองครั้งแรก! กับราคาดีที่สุดในกรุงเทพฯ เพียง 1.29 ล้านบาท ท่านที่สนใจสามารถ ลงทะเบียนเพื่อรับ PRIVILEGE CARD ที่โครงการ ใช้เป็นส่วนลด 200,000 บาท ในการเข้าจองในวันงาน!